วิธีเลือกเส้นขนมจีน ทำใหม่ แบบไหนสะอาด น่าทาน | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล เส้นขนมจีนเป็นอาหารที่ทำมาจากแป้งที่ไปผ่านการหมัก โดยเส้นขนมจีนเป็นสิ่งหลายคนมักซื้อมาทำขนมจีนน้ำยา ยำขนมจีนหรือนำมาทานกับส้มตำ เนื่องจากว่าการทานขนมจีนน้ำยาก็สามารถครบจบได้ในจานเดียว โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนยำขนมจีนก็เป็นเมนูฮิตติดตลาด เลยทำให้บางคนก็อยากลองทำทานเองบ้าง ซึ่งสำหรับผู้เขียนนั้นอย่างแรกก็เกิดได้บ่อยค่ะ กับการทานเส้นขนมจีนเปล่ากับส้มตำรสเด็ด พอต้องมีประสบการณ์แบบนั้น การเลือกซื้อเส้นขนมจีนแบบคุณภาพดี และเป็นไปตามหลักสุขาภิบาลอาหารก็ต้องงัดออกมาค่ะ ที่ในบทความนี้ผู้เขียนอยากส่งต่อข้อมูลดีๆ เอาไว้ใช้ ตอนไปเลือกซื้อเส้นขนมจีนกันค่ะทุกคน ที่รับรองว่าได้เคล็ดลับแบบมองเห็นภาพและสามารถนำไปใช้ได้แบบมืออาชีพเลยทีเดียว อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ? งั้นอย่าช้าที่จะอ่านให้จบค่ะ กับข้อมูลดีๆ ดังต่อไปนี้ 1. ดูที่สี การสังเกตสีของเส้นขนมจีนเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการประเมินความสดใหม่ โดยเส้นสีขาวสะอาดเป็นสัญญาณที่ดีว่าเส้นขนมจีนสดใหม่ ไม่บูดเสีย ที่ต้องหลีกเลี่ยงเส้นที่เหลืองหรือมีจุดสีดำ เพราะเป็นสัญญาณของการบูดเน่าหรือเชื้อรา จากที่เมื่อเส้นขนมจีนสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน แป้งจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้สีของเส้นเปลี่ยนเป็นเหลืองหรือน้ำตาล ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเส้นขนมจีนเริ่มเสื่อมคุณภาพ เชื้อราหลายชนิดมักจะทำให้เกิดจุดสีดำหรือสีเขียวบนเส้นขนมจีน เมื่อเส้นขนมจีนเริ่มมีเชื้อรา แสดงว่าเส้นนั้นไม่สามารถรับประทานได้อีกต่อไป 2. สังเกตความสด การสังเกตลักษณะของเส้นขนมจีนก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราประเมินความสดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เส้นขนมจีนที่ผลิตใหม่และถูกจัดเก็บอย่างดี จะมีการเรียงตัวที่เป็นระเบียบ ไม่พันกันยุ่งเหยิง หรือกระจัดกระจาย หากเส้นขนมจีนพันกันยุ่งเหยิง อาจบ่งบอกว่าเส้นนั้นผ่านการขนส่งหรือจัดเก็บที่ไม่ระมัดระวัง หรืออาจเป็นเพราะเส้นนั้นมีความชื้นสูง ทำให้เส้นติดกัน เส้นขนมจีนที่ขาดหรือหัก อาจเกิดจากการผลิตที่ไม่ดี หรือการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม เส้นขนมจีนสดใหม่จะมีความนุ่มเมื่อสัมผัส แต่จะไม่เละหรือยุ่ยง่าย หากเส้นขนมจีนแข็งหรือเหนียวเกินไป อาจเป็นเพราะเส้นนั้นแห้ง หรือผ่านการเก็บรักษามานานเกินไป เส้นขนมจีนที่มีเมือก อาจเป็นสัญญาณของการบูดเน่า หรือการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียค่ะ 3. ดมกลิ่น การดมกลิ่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในการตรวจสอบความสดของเส้นขนมจีน เพราะกลิ่นสามารถบ่งบอกถึงสภาพของเส้นได้อย่างชัดเจน เส้นขนมจีนสดใหม่ที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้าคุณภาพดี จะไม่มีกลิ่น หรือมีเพียงกลิ่นอ่อนๆ ของแป้ง บางครั้งอาจมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของวัตถุดิบที่นำมาผสม เช่น ใบเตย หรือใบชาเขียว ในกรณีเป็นขนมจีนแบบมีสีสันหลากหลาย ซึ่งกลิ่นที่บ่งบอกว่าเส้นขนมจีนเสีย ได้แก่ กลิ่นเปรี้ยว: เกิดจากกระบวนการหมักของแบคทีเรีย ทำให้เส้นขนมจีนบูดเสีย กลิ่นเหม็นอับ: เกิดจากการเก็บรักษาเส้นขนมจีนในที่อับชื้นหรือมีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก กลิ่นเหม็นหืน: เกิดจากไขมันในแป้งเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน กลิ่นอื่นๆ ที่ผิดปกติ: เช่น กลิ่นยาฆ่าแมลง กลิ่นสารเคมี ซึ่งอาจเกิดจากการปนเปื้อนของสารเคมีที่ใช้ในการผลิตหรือเก็บรักษา 4. สังเกตความชื้น ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและอายุการเก็บรักษาของเส้นขนมจีน หากความชื้นมากหรือน้อยเกินไป จะส่งผลเสียต่อรสชาติและลักษณะของเส้น เส้นขนมจีนที่เปียกชื้นเกินไป มักมีสาเหตุเกิดจากการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นในอากาศเป็นเวลานาน การบรรจุไม่ดีหรือการเก็บรักษาในที่ชื้น ความชื้นสูงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทำให้เส้นขนมจีนเสียและมีกลิ่นอับ แบคทีเรียบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้น ทำให้เส้นขนมจีนบูดเสียและมีกลิ่นเปรี้ยว และความชื้นสูงทำให้เส้นขนมจีนนิ่มเละและไม่น่ารับประทาน เส้นขนมจีนที่เปียกชื้นจะบูดเสียได้เร็วกว่าเส้นขนมจีนที่แห้งค่ะ และวิธีสังเกตความชื้นของเส้นขนมจีน มีดังนี้ สัมผัส: เส้นขนมจีนที่สดใหม่จะมีความนุ่มและมีความชื้นเล็กน้อย หากเส้นแห้งเกินไปจะรู้สึกแข็ง หากเปียกชื้นเกินไปจะรู้สึกเหนียวและมีเมือก ดูลักษณะ: เส้นขนมจีนที่แห้งเกินไปจะมีสีขาวซีดและอาจมีรอยแตกเล็กๆ เส้นขนมจีนที่เปียกชื้นเกินไปอาจมีรอยด่างหรือมีเชื้อราขึ้น ดมกลิ่น: เส้นขนมจีนที่เปียกชื้นเกินไปอาจมีกลิ่นอับหรือกลิ่นเปรี้ยว 5. ดูที่แหล่งผลิต การเลือกแหล่งผลิตเส้นขนมจีนที่น่าเชื่อถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติ ความปลอดภัย และคุณภาพของเส้นขนมจีนที่เราจะนำมาประกอบอาหาร แหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือมักจะผลิตเส้นขนมจีนสดใหม่ มีการหมุนเวียนสินค้าอยู่เสมอ ทำให้ได้เส้นขนมจีนที่มีคุณภาพดีที่สุด แหล่งผลิตที่ใส่ใจในคุณภาพจะเลือกใช้วัตถุดิบที่สด สะอาด และปลอดภัย ไม่ใช้สารกันบูดหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานจะมีกระบวนการผลิตที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ และเป็นไปตามมาตรฐานของอาหาร และแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยมีการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอค่ะ 6. สอบถามวิธีการทำ การสอบถามวิธีการทำเส้นขนมจีนจากผู้ผลิตหรือผู้ขายโดยตรง เป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบว่าเส้นขนมจีนที่เราจะซื้อนั้นทำจากวัตถุดิบที่สดใหม่ สะอาด และมีกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะหรือไม่ค่ะ ยิ่งถ้าเราได้เห็นวิธีนการทำเลยในตอนนั้นย่ิงดี เพราะเดี๋ยวนี้บางร้านก็ไปทำเส้นขนมจีนสดใหม่ที่ร้านตอนจะขาย จึงทำให้เราเห็นขั้นตอนการผลิตอย่างไรบ้าง? ใช้เครื่องจักรหรือทำด้วยมือ? มีการเก็บรักษาเส้นขนมจีนอย่างไร? โดยการรู้ขั้นตอนการผลิตจะทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นขนมจีนที่ได้นั้นมีความสะอาดและปลอดภัยค่ะ 7. ดูวันผลิต การสังเกตวันผลิตเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการเลือกซื้อเส้นขนมจีนที่สดใหม่และมีคุณภาพ เพราะเส้นขนมจีนที่ผลิตใหม่จะมีรสชาติที่ดีกว่า และมีโอกาสที่จะบูดเสียต่ำกว่าเส้นขนมจีนที่ผลิตมานานแล้ว ในบางร้านจะมีวันผลิตมักจะอยู่บนฉลากด้านหน้า หรือด้านข้างของบรรจุภัณฑ์ แต่บางร้านเขาก็ผลิตวันต่อวัน ซึ่งเราก็สามารถถามได้ว่า ขนมจีนที่เรากำลังเลือกซื้อทำวนไหนนะคะ 8. สังเกตบรรจุภัณฑ์ การสังเกตบรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในการเลือกซื้อเส้นขนมจีน เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยรักษาคุณภาพของเส้นขนมจีนให้คงอยู่ได้นานขึ้น และยังบ่งบอกถึงความใส่ใจของผู้ผลิตอีกด้วย บรรจุภัณฑ์ที่สะอาดบ่งบอกว่าเส้นขนมจีนถูกผลิตและบรรจุในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรก บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยป้องกันเส้นขนมจีนจากความชื้น อากาศ และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและน่าสนใจจะดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และบ่งบอกถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ค่ะ และวิธีสังเกตบรรจุภัณฑ์ ให้ดูสิ่งต่อไปนี้ค่ะ ความสะอาด: บรรจุภัณฑ์ควรสะอาด ไม่มีรอยเปื้อน รอยฉีกขาด หรือรอยบุบ การปิดผนึก: บรรจุภัณฑ์ควรปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปภายใน ข้อมูลบนฉลาก: ถ้ามีฉลากควรมีข้อมูลที่ครบถ้วน เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ ชื่อผู้ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ ส่วนผสม วิธีการเก็บรักษา และเลขที่ อย. วัสดุบรรจุภัณฑ์: เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่ปลอดภัย เช่น พลาสติกเกรดอาหาร หรือกระดาษที่ผ่านการฆ่าเชื้อค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับเคล็ดลับดีๆ เลือกซื้อเส้นขนมจีนเปล่า ที่ไม่ได้ยากจนเกินไปใช่ไหมคะ? เส้นขนมจีนเปล่าเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองก็มีโอกาสได้ซื้อบ่อยครั้งค่ะ โดยมักเลือกซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้เสมอ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะสังเกตสีของเส้นขนมจีน ความชื้นของเส้นขนมและสภาพแวดล้อมที่จัดเก็บเส้นขนมจีนในตอนนั้นค่ะ ซึ่งเคล็ดลับในนี้ทั้งหมดคุณผู้อ่านก็สามารถนำไปใช้ไดเหมือนกันค่ะ เพื่อคุณภาพของเส้นขนมจีน ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/LjrEAl0Bw143 https://food.trueid.net/detail/pBZ4xz782dzA https://food.trueid.net/detail/3ylb4JXGpqnr หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !