มันหวานญี่ปุ่นเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบเพราะสามารถทำได้ง่ายไม่ต้องผ่านการปรุงหลายขั้นตอบ เพียงแต่นำมานึ่ง อบ หรือเผาก็จะให้ความอร่อยที่มีรสชาติเฉพาะตัวที่มีทั้งความหอม หวาน เนื้อหนึบแน่นนุ่มละมุน ชุ่มฉ่ำ อร่อยถูกใจ นอกจากนั้นมันหวานยังดีต่อสุขภาพมีทั้งไฟเบอร์ และวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การเลือกมันหวานเพื่อทำมันอบเคล็ดลัดการอบมันหวานให้หวานฉ่ำ เนื้อแน่นเต็มคำ ทานเข้าไปแล้วละลายในปาก ต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกสายพันธ์หากต้องการทำมันอบ หรือมันเผาขอแนะนำให้ใช้มันหวานญี่ปุ่นพันธุ์เบนิฮารุกะ (Beni Haruka) โดยมีลักษณะเปลือกสีม่วง เนื้อสีเหลือง รูปทรงเรียวยาว ผิวค่อนข้างเรียบ ขรุขระไม่มาก รสชาติหวานนำเพราะมีปริมาณน้ำตาลสูง ทำให้เวลานำไปอบหรือเผาจะได้เนื้อที่ชุ่มฉ่ำ และหนึบเหนียว อร่อยมาก ๆ ที่สำคัญคือหาซื้อได้ง่ายในประเทศไทย และราคาไม่แพงมาก มันหวานขนาดกลาง 1 กิโลกรัม จะได้ประมาณ 5 หัวการล้างทำความสะอาดทำความสะอาดมันหวาน ขัดถูคราบดิน และสิ่งสกปรกออกให้หมด ล้างให้สะอาด แช่น้ำไว้ประมาณ 10 นาที แต่หากจะเก็บมันหวานไว้อย่าเพิ่งนำไปล้างก่อนเก็บ ก่อนอบค่อยนำมาล้างจะดีกว่าการเตรียมมันหวานก่อนเข้าอบ ห่อมันหวานด้วยกระดาษทิชชู แบบหนาแผ่นใหญ่ พรมน้ำให้เปียกชื้น ห่อทับด้วยฟอยล์การอบมันหวานนำมันหวานใส่ถาดอบ อบที่อุณหภูมิ 180-200 องศาเซลเซียส ไฟบน ไฟล่าง เปิดหรือไม่เปิดพัดลมก็ได้ อบเป็นเวลาประมาณ 60 นาที (ขึ้นกับจำนวน และขนาดของมันหวาน) พลิกมันกลับด้านเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที แล้วอบต่อจนครบเวลา ถ้าต้องการให้เปลือกของมันหวานเกรียมเพื่อเพิ่มความหอมของเนื้อมันส่วนที่ติดเปลือกให้แกะมันหวานออกจากฟอยล์และกระดาษทิชชู อบไฟบนต่อด้านละ 10 นาที วิธีเช็คความสุกของมันหวานวิธีเช็คความสุกของมันหวานหลังจากอบไปจนครบเวลาแล้วทำได้โดยใช้ไม้ปลายแหลมลองจิ้มลงไปในเนื้อมันหวาน หากมันหวานสุกดีแล้วจะจิ้มเข้าไปได้ง่ายเนื้อนิ่ม แต่หากยังไม่สุกจะรู้สึกว่าเนื้อของมันหวานยังแข็งอยู่มันหวานที่อบโดยเตาอบด้วยวิธีนี้หลังอบเสร็จแล้ว จะได้มันที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม รสหวานฉ่ำ รู้สึกเหมือนจะละลายในปาก กลิ่นหอมมากภาพประกอบโดยผู้เขียน @พรรณนาหิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !