คนอีสานในอดีตนั้นมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากความผันผวนของอากาศที่บางปีแล้งหนัก บางปีก็น้ำท่วม มักเกิดยุคข้าวยากหมากแพงอยู่บ่อยครั้งทำให้สถานภาพทางการเงินฝืดเคือง คนอีสานจึงกินง่ายอยู่ง่ายและปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในฤดูฝนอาหารการกินจะเป็นไปอย่างอุดมสมบูรณ์ ทั้งปลา ทั้งพืชผัก ส่วนหน้าแล้งนั้นแม้จะลำบากไปบ้าง แต่อาหารการกินใช่ว่าจะอดอยาก เพราะอาหารอันโอชะนั้นหาได้ง่ายนิดเดียว แย้ กะปอม แลน ปัจจุบันสัตว์ทั้งสามประเภทนี้หาได้ค่อนข้างยากในแถบภาคอีสาน เพราะพวกมันถูกจับไปทำเมนูก้อยแย้ ก้อยกะปอม และก้อยแลนจนแทบไม่เหลือ เพราะเนื้อใต้ผิวหนังที่ถูกถลกออกมาย่างนั้นทั้งแน่น ทั้งหอมอร่อย ได้กินแล้วต้องร้องขออีกคำ ภาพจากpixabay.com แย้นั้นอาศัยอยู่ในรู คล้ายกับรูจิ้งโกร่ง เพียงใช้เสียมขุดตามลงไปก็จะเจอเจ้าของรูหลบอยู่ในนั้น การจับแย้ต้องรวดเร็วเป็นพิเศษเพราะพวกมันว่องไวมาก ตะครุบทันถือว่าได้กิน ภาพจากpixabay.com ส่วนกะปอมนั้นก็จะเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ ยิ่งถ้าเจอตัวคอม่วง ๆ ฟ้า ๆ ยิ่งเป็นลาภปาก เพราะมันตัวใหญ่ เนื้อเยอะ กะปอมนี้จับไม่ยากเท่าแย้ อาจจะใช้บ่วงคล้องคอ หรือถ้าชำนาญหน่อยก็ใช้หนังสติ๊กใส่ลูกหินยิง จากนั้นก็ตามเก็บเป็นอันเสร็จสิ้น ภาพจากpixabay.com มาที่แลนกันบ้าง แลนหรือตะกวดนี้หากคนดูไม่เป็นอาจจะคิดว่ามันคือตัวเงินตัวทอง เพราะรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน แต่แลนสีจะออกไปทางน้ำตาลและดำ ตัวเงินตัวทองจะออกไปทางสีเหลืองลาย ๆ และค่อนข้างมีกลิ่นสาบ บางหมู่บ้านจะไม่นิยมกินแลนเพราะเชื่อว่าแลนนั้นคือผีปู่ผีตา เป็นผู้ปกปักษ์รักษาป่าแถบนั้น แต่ปัจจุบันจะหาล่าสัตว์เหล่านี้พร่ำเพรื่อไม่ได้ เพราะสัตว์เลื้อยคลานจำพวกแย้ กะปอม แลน กลายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองไปเรียบร้อยแล้ว หนูนาท้องขาว ภาพจากpixabay.com หนูนาท้องขาวนี้เป็นศัตรูในนาข้าวตัวฉกาจ การกำจัดที่ดีและเกิดคุณประโยชน์ที่สุดคือนำมาทำอาหาร หนูพวกนี้จะไม่กินของสกปรก มักทำรังอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ป่าหญ้าตามคันนา นำมาทำอาหารได้โดยการดักจับ ใช้ข้าวเหนียวเป็นเหยื่อล่อ แต่ถ้าหนูไม่ยอมติดกับก็ให้สุนัขคู่ใจดมกลิ่นแล้วขุดตามรู จากนั้นรมควันเพื่อให้หนูสลบเพื่อง่ายต่อการขุดหา หนูท้องขาวนี้นำมาหมก ย่าง หรืออ่อม หอมอร่อย กินเพลินจนลืมไก่กับหมูไปเลย แต่ปัจจุบันนี้หากินได้ยาก เพราะระบบนิเวศที่เปลี่ยนไป หนูนาจึงหายากและมีราคาแพงกว่าเนื้อไก่และเนื้อหมู “คนอีสาน อยู่ที่ไหนก็ไม่อดตาย” นี่ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง เพราะคนอีสานนั้น “กินเพื่ออยู่” ต่อให้แห้งแล้งกว่าแต่ก่อน หรือลำบากขนาดไหน คนอีสานก็สามารถปรับตัวได้อย่างดี ภาพปกจากpixabay.com