เมื่อเข้าสู่หน้าแล้งที่มองไปไหนเต็มไปด้วยใบไม้แห้งเฉาไร้ซึ่งชีวิตชีวาไปหมดประหนึ่งชีวิตที่ไม่มีความสดชื่นมาเติมเต็มกับชีวิตเหล่านั้นได้เลย แต่สำหรับทางภาคอีสานหน้าแล้งมักจะมาพร้อมกับอาหารอีสานหลายอย่าง เช่น ผักหวานป่า ไข่มดแดง ซึ่งสองชื่อนี้เป็นอาหารที่ต้องบอกว่าเมื่อเข้าหน้าแล้งทีไรคือสิ่งที่หลายคนรอคอยกันเลย แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นยังมีพืชประเภทหัวมันอย่าง “มันแซง” หรือ มันนก ที่เป็นชื่อสากลที่รู้จักกัน ซึ่งจะหามารับประทนได้เพียงแค่หน้าแล้งเท่านั้นสำหรับในภาคอีสาน หลายคนสงสัยแล้วว่ามันแซงเป็นแบบไหนแล้วทำไมหาได้แค่ช่วงหน้าแล้งเท่านั้น แล้วเอามาทำอะไรทานได้บ้าง มาหาคำตอบความอร่อยไปพร้อม ๆ กัน มันแซง เป็นพืชตระกูลมันเถาวัลย์ที่เกิดตามป่าทั่วไปเหมือนกับหัวกลอยที่หลายคนคุ้นเคยเพียงแต่มีหัวที่มีขนาดเล็กกว่าหัวกลอยมาก แต่จะมีรสชาติที่ออกมันและไม่มีพิษเจอปนเหมือนกับหัวกลอย เพราะเหตุนี้ มันแซง จึงสามารถที่จะนำมาทำเป็นของหวานได้เหมือนกับมันทั่วไปที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการทำให้พิษหมดไปเหมือนกับหัวกลอย ลักษณะของ มันแซง จะเป็นเถาวัลย์เลื้อยไปตามพุ่มไม้ต้นไม้ขนาดเล็กที่ต้องบอกว่าจะหาเจอต้องใช้ความสามารถในการสังเกตและความชำนาญไม่น้อยเลยทีเดียว การตามหามันแซงต้องขุดดินลงไปประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อหามันแซงแสนอร่อยซึ่งอย่างที่บอกว่าขนาดหัวมันนั้นจะเล็กแต่หากเจอเถาวัลย์ที่มีอายุมากกว่าปีละก็จะเจอหัวที่ใหญ่กว่าปกติเหมือนกัน มันแซงจะเติบโตในช่วงหน้าฝนหัวของมันแซงจะเกิดจากเถาวัลย์ที่เลื้อยไปตามพื้นแล้วเกิดรากลงไปในดินจนกลายเป็นหัวมันแซง ส่วนเถาวัลย์ของมันแซงก็จะเลื้อยตามต้นไม้พุ่มไม้เพื่อหาอาหารไปบำรุงหัวมันที่อยู่ใต้ดิน ทำไมถึงหาได้แต่ตอนหน้าแล้ง? เพราะว่าหน้าแล้วจะเป็นการเก็บน้ำจากเถาวัลย์ลงไปที่หัวเพื่อให้หัวอยู่รอดจึงทำให้อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่เป็นแป้ง เกิดคำถามว่าแล้วไปขุดหัวมาจะไม่ตายหมดเหรอ? ก็อย่างที่บอกไปแต่ต้นเมื่อฝนตกลงมาเถาวัลย์จะได้รับความชุ่มชื่นแล้วเกิดรากลงไปในดินกลายเป็นหัวมันแซงถ้าเถาวัลย์ไม่ลงสู่ดินก็จะทำให้เถาวัลย์นั้นยืนต้นตายนั่นเอง แล้วเอาไปทำอะไรทานได้บ้าง? ปกติแล้วก็จะเอามานึ่งกินเปล่า ๆ หรือจะเพิ่มความหวานด้วยการโรยน้ำตาลด้วยก็ได้ แต่บางที่ก็จะเอาไปทำบวชมันนกซึ่งก็จะเหมือนกับกล้วยบวชชีนี่แหละ แต่แถวบ้านกระผมนี่ไม่ชอบความยุ่งยากซักเท่าไหร่เลยแค่เอาล้างน้ำปอกเปลือกล้างน้ำเอายางออกอีกทีนึ่งจนสุกแล้วนำมาใส่จานโรยด้วยน้ำตาลคลุกงาคั่วหอม ๆ เท่านี้ก็อร่อย หวาน มัน เกินบรรยายแล้ว ใครกลับบ้านสงกรานต์ก็อย่าลืมถือเสียมเข้าป่าไปหามารับประทานกันนะหรือจะเอามาฝากเพื่อนที่ทำงานเป็นของฝากที่ล้ำค่าหากินได้เพียงปีละครั้งเท่านั้นนะจะบอกให้ แม้ว่ามันแซงในบางพื้นที่จะสามารถที่จะเพาะปลูกได้ไม่ต้องไปขุดตามหา แต่เชื่อเถอะว่าการได้ออกไปตามป่าไปเจอสิ่งที่ตามหา เวลาที่หามาได้แล้วนำมาทำรับประทานนั้นความอร่อยจะคูณสองเพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้เสียเงินซื้อสามารถที่จะหาได้ด้วยความสามารถของเรามันทั้งอร่อย ทั้งภูมิใจเลยนะ เครดิตภาพปก เทพ สุวรรณ ผู้เขียน เครดิตภาพ เทพ สุวรรณ ผู้เขียน