น้ำแครอท อร่อยไหม รสชาติยังไง ทำแบบไหนดี | บทความโดย Pchalisa น้ำผักแยกกากเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เขียนหาโอกาสทำดื่มค่ะ โดยมักเลือกผักที่หาง่าย รสชาติพอไปวัดไปวา กับต้นทุนไม่สูงปรี๊ดมาก จากเงื่อนไขนั้นทำให้ผู้เขียนได้มีโอกาสทำน้ำแครอทดื่มเรื่อยๆ ค่ะ ที่ลงทุนซื้อเครื่องแยกกากมาไว้ใช้เองเลย และหลังจากได้ดื่มน้ำแครอทมาสักระยะ ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง โดยในบทความนี้ผู้เขียนอยากส่งต่อเรื่องนี้ให้คุณผู้อ่านได้รู้กันค่ะ ดังนี้ จากที่ได้ดื่มน้ำแครอทมานั้น พบว่า น้ำแครอทมีรสชาติที่หวานเป็นหลักค่ะ ที่เป็นรสหวานตามธรรมชาติของแครอทเองเลยนะคะ เพราะผู้เขียนมักแยกกากของผักชนิดนี้แบบไม่ได้ใส่น้ำตาลค่ะ แต่ถ้าใครชอบหวานกว่าธรรมชาติจัดสรรค์มา ก็สามารถเติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งลงไปเพื่อเพิ่มความหวานมากขึ้นได้ค่ะ ดื่มน้ำแครอทแล้วรู้สึกสดชื่นและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของแครอทค่ะ อย่างไรก็ตามน้ำแครอทของแต่ละคนอาจแตกต่างกันได้นะคะ และปัจจัยที่ส่งผลต่อรสชาติของน้ำแครอท ก็คือ ชนิดของแครอท: แครอทแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติแตกต่างกันไป บางพันธุ์อาจมีรสหวานจัด บางพันธุ์อาจมีรสชาติจืดกว่า วิธีการทำ: การนำแครอทไปปั่นหรือคั้น รวมถึงการเติมส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำมะนาว ผลไม้ชนิดอื่น จะส่งผลต่อรสชาติของน้ำแครอทได้ค่ะ ความสดของแครอท: แครอทที่สดใหม่จะมีรสชาติหวานอร่อยกว่าแครอทที่เก็บไว้นานนะคะ หากคุณผู้อ่านต้องการทำน้ำแครอทแบบผู้เขียน สามารถทำได้ค่ะ โดยจำนวนหัวแครอทที่ใช้ทำน้ำแครอทหนึ่งแก้วนั้นอาจแตกต่างกันไป โดยผู้เขียนพบว่า ขนาดของแก้ว: ถ้าเป็นแก้วขนาดมาตรฐานทั่วไป อาจจะใช้แครอทประมาณ 1-2 หัวค่ะ ขนาดของหัวแครอท: หัวแครอทแต่ละหัวจะมีขนาดไม่เท่ากัน หัวใหญ่ก็จะได้น้ำเยอะกว่าหัวเล็ก ความเข้มข้นของรสชาติที่ต้องการ: ถ้าต้องการน้ำแครอทที่มีรสชาติเข้มข้น ก็อาจจะต้องใช้แครอทเยอะขึ้นค่ะ ที่โดยทั่วไปแล้วการใช้แครอทประมาณ 1-2 หัวต่อแก้ว จะได้น้ำแครอทที่มีรสชาติพอดี แบบไม่จืดเกินไปและไม่เข้มข้นจนเกินไปค่ะทุกคน และเคล็ดลับเพิ่มเติมที่ผู้เขียนอยากส่งต่อ คือ ให้เลือกแครอทที่สดใหม่ค่ะ เพราะแครอทที่สดใหม่จะมีรสชาติหวานอร่อยกว่าและได้น้ำเยอะกว่า ต้องปอกเปลือกและหั่นแครอทให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนนะคะ เพราะการทำแบบนี้จะช่วยให้แครอทปั่นละเอียดและได้น้ำเยอะขึ้นค่ะ และเราสามารถเติมส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น น้ำมะนาว ผลไม้ชนิดอื่น เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหารค่ะ หากคุณผู้อ่านทำน้ำแครอทจำนวนมากต้องรู้วิธีการเก็บน้ำแครอทค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางง่ายๆ ในการเก็บน้ำผักชนิดนี้นะคะ ภาชนะที่ใช้: ควรเลือกใช้ภาชนะที่สะอาดปิดสนิท และทำจากวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร เช่น แก้ว หรือภาชนะพลาสติกที่ปราศจากสาร BPA ค่ะ อุณหภูมิ: เก็บน้ำแครอทในตู้เย็นที่อุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียส จะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและรักษาความสดได้ดีที่สุดค่ะ ระยะเวลา: น้ำแครอทที่คั้นสดใหม่ ควรดื่มให้หมดภายใน 1-2 วัน เพื่อรสชาติที่ดีที่สุดค่ะ หากต้องการเก็บไว้นานขึ้น อาจจะลองใช้วิธีปั่นแล้วแช่แข็ง แต่รสชาติอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยนะคะ ภาชนะที่ปิดสนิท: เมื่อนำน้ำแครอทใส่ภาชนะแล้ว ควรปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปสัมผัสกับน้ำแครอท ซึ่งจะทำให้เกิดการออกซิเดชั่นและเปลี่ยนสีได้ค่ะ หลีกเลี่ยงแสง: แสงแดดหรือแสงไฟสามารถทำให้น้ำแครอทเสียรสชาติและเปลี่ยนสีได้ค่ะ ดังนั้นควรเก็บน้ำแครอทไว้ในที่มืดหรือมีแสงสว่างน้อย ถึงแม้ว่าเราจะมีการเก็บรักษาน้ำแครอทที่เหมาะสมแล้วก็ตามนะคะ แต่ราควรสังเกตน้ำแครอทก่อนนำมาดื่มทุกครั้ง หรือถ้าไปซื้อน้ำแครอทจาที่อื่น ควรใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อให้ได้น้ำแครอทที่ดีและน่าดื่มค่ะ 1. ดูสีสัน น้ำแครอทที่ดีควรมีสีส้มสดใสค่ะ หากน้ำแครอทมีสีซีดหรือออกเหลือง สิ่งนี้บ่งบอกว่าแครอทที่นำมาทำไม่สดใหม่หรือถูกเก็บไว้นานเกินไป 2. ความขุ่น น้ำแครอทที่ดีควรมีความใส ไม่มีตะกอนหรือสิ่งสกปรกปนเปื้อนค่ะ หากน้ำแครอทขุ่นมาก แสดงว่าเศษกากของแครอทปนอยู่หรืออาจเกิดจากการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกค่ะ 3. กลิ่น น้ำแครอทสดใหม่จะมีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวของแครอทค่ะ ถ้าน้ำแครอทขวดนั้นมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือกลิ่นผิดปกติ แสดงว่าน้ำแครอทนั้นเสียแล้วจ้า 4. รสชาติ น้ำแครอทที่ดีควรมีรสชาติหวาน หอม อร่อย หากน้ำแครอทมีรสชาติจืดชืดหรือมีรสเปรี้ยว แสดงว่าน้ำแครอทนั้นไม่สดใหม่หรืออาจมีการบูดเสียแล้วค่ะ 5. แหล่งที่มา หากไม่ได้ทำน้ำแครอทเอง ควรเลือกซื้อน้ำแครอทจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และมีการควบคุมคุณภาพที่ดีค่ะ โดยให้เลือกน้ำแครอทในบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด ปิดสนิท และมีฉลากระบุรายละเอียดชัดเจน เช่น วันผลิต วันหมดอายุ ส่วนผสมค่ะ และมีเคล็ดลับเพิ่มเติมว่า ก่อนซื้อควรอ่านฉลากให้ละเอียด เพื่อดูส่วนผสมและปริมาณน้ำตาลที่เติมลงไป ถ้าจะให้ดีต่อที่สองให้เลือกแบบไม่ใส่น้ำตาลหรือมีปริมาณน้ำตาลน้อยค่ะ พอจะมองเห็นภาพเกี่ยวกับน้ำแครอทหรือยังคะ? น้ำแครอทดื่มง่ายค่ะ ไม่ต้องบีบจมูกหรือกลั้นหายใจเลย ต่อให้มีเพียงแครอทอย่างเดียวที่นำมาคั้นก็ยังดื่มได้ง่ายๆ และหวานอร่อยค่ะ และอีกหนึ่งวิธีการที่ผู้เขียนเคยทำนานมาแล้ว คือ การเติมผลไม้ที่มีรสชาติที่แตกต่างไปจากรสชาติของแครอท การทำแบบนี้เป็นแนวทางทำให้น้ำแครอทมีความน่าสนใจมากขึ้นค่ะ เช่น การแยกกากสับปะรดรวมลงไปด้วยหรือจะใช้ฝรั่งก็ได้ค่ะ แบบนี้ทำให้รสชาติแตกต่างออกไปได้แน่นอน ถ้าคุณผู้อ่านชอบนะคะ แต่ก็ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านสนใจเรื่องน้ำแครอทประเด็นไหน? อย่างไรก็ตามผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/AXbBOLqApDlX https://food.trueid.net/detail/bJQp3yO8BLEx https://food.trueid.net/detail/QdR5LBprBVVj เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !