*ภาพปกโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดย Bigfatcat จากเว็บไซต์ Pixabay เมื่อตอนยังเป็นเด็ก พ่อกับแม่ของดิฉันมักจะกลับบ้านมาพร้อมกับน้ำเต้าหู้ ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จนดิฉันเข้าใจว่านี่คือกลิ่นของน้ำเต้าหู้ ซึ่งน้ำเต้าหู้ที่พ่อและแม่ซื้อกลับมาเป็นประจำนั้น เป็นน้ำเต้าหู้จากร้านดัง ร้านน้ำเต้าตู้ 100 ปี ซึ่งเปิดจำหน่ายน้ำเต้าหู้มาแล้วกว่า 100 ปี! ซึ่งดิฉันเพิ่งจะมาทราบข้อมูลนี้เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เกิดจากความบังเอิญ ที่ได้มารับประทานอาหารที่ร้าน ครัวหยก เมื่อออกมาจากร้านครัวหยก มองไปฝั่งตรงข้าม ก็ตกหลุมรักอาคารเก่าแก่หลังหนึ่ง และสังเกตเห็นป้ายหน้าอาคารว่า จำหน่ายน้ำเต้าหู้ รู้ตัวอีกทีดิฉันก็เข้ามายืนอยู่ในร้านเรียบร้อยแล้วค่ะ ร้านน้ำเต้าหู้ 100 ปี ตั้งอยู่ในซอยหลังเมือง 6 ถนนสามัคคีอุทิศ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 - 19:00 น. ซึ่งสามารถค้นหาที่ตั้งร้าน และชมภาพงาม ๆ ได้จากเพจ>>>The Soya จุดเด่นคือที่ด้านหน้าร้าน จะมีกะลามะพร้าวกองอยู่ กะลามะพร้าวเหล่านี้ คือ เชื้อเพลิงในการต้มน้ำเต้าหู้ ซึ่งทำให้น้ำเต้าหู้ที่นี้ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ยากที่จะลืมเลือน ขนาดในอดีตที่ดิฉันเป็นเด็ก ๆ สติเลอะเลือน ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แต่ยังสามารถจดจำกลิ่นอันคุ้นเคยนี้ได้ เมื่อได้ดื่มน้ำเต้าหู้ของทางร้านอีกครั้ง หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 20 ปีค่ะ! นอกจากน้ำเต้าหู้อันเลื่องลือ ก็ยังมีขนมแห่งความทรงจำมากมาย ที่คัดสรรมาแล้วว่าเด็ด และ คุณภาพดี ดิฉันไปทุกทีก็ไม่เคยได้ซื้อแต่น้ำเต้าหู้เลยนะคะ ได้ขนมกลับมาด้วยตลอด... ฮ่าฮ่าฮ่า ใครอยากรู้สึกอบอุ่นใจ ได้หวนระลึกถึงวันเด็กอันแสนสุข แค่เดินเข้าไปร้านน้ำเต้าหู้ 100 ปี ซื้อน้ำเต้าหู้ ซื้อขนมที่ถูกใจ ซักสองสามชิ้น รับรองว่าต้องได้รับรู้สึกที่ดี จนมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าแล้วล่ะค่ะ น้ำเต้าหู้จะถูกแช่อยู่ในกล่องโฟมด้านขวามือของทางร้าน ซึ่งเราสามารถเดินเข้าไปเปิดเลือกด้วยตัวเองได้เลยทันที หรือถ้าไม่แน่ใจว่าขวดไหนรสชาติใด ก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านผู้ใจดีได้นะคะ รายการน้ำเต้าหู้มีดังนี้ค่ะ ฟองสด ดั้งเดิม งาดำ รสจืด ชาเขียว เผือก และหวาน ราคาขวดละ 15 บาทเท่ากันหมดค่ะ นอกจากจะมาซื้อน้ำเต้าหู้แล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการตั้งชุมชนในเมืองขอนแก่นอีกด้วยนะคะ ดิฉันมีความสนใจในการตั้งรกรากถิ่นฐานของชาวขอนแก่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และขอนแก่นเอง เป็นจังหวัดที่เพิ่งมีการตั้งขึ้นอย่างจริงจังในสมัย รัชกาลที่ 5 อายุของจังหวัดขอนแก่นอยู่ที่ 223 (ในปี พ.ศ. 2563) ฉะนั้นร้านน้ำเต้าหู้ร้อยปี อยู่ร่วมประวัติศาสตร์การก่อตั้งเมืองขอนแก่นมาร่วม ๆ หนึ่งศตวรรษ การได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน จึงเปรียบเสมือนการเข้าเรียนวิชาประวัติศาสตร์ภาคสนามโดยแท้ค่ะ ซึ่งสิ่งที่ดิฉันตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด คือ เตาหุงหาอาหารแบบดั้งเดิมของจีน ที่มีส่วนบนสำหรับวางภาชนะหุงต้ม ด้านล่างมีช่องสำหรับใส่เชื้อเพลิง และมีปล่องควันไฟสูงพ้นหลังคาตัวอาคาร เพื่อปล่อยควันไฟ บรรพบุรุษรุ่นแรกผู้เดินทางรอนแรมมาจับจองที่ดินผืนนี้ ได้สร้างเตาลักษณะเช่นเดียวกันนี้ หลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงและสร้างเตาที่เห็นในปัจจุบันขึ้นแทนค่ะ ในครั้งที่ดิฉันมานั้น ทางร้านกำลังใช้เตาอั้งโล่ใบโตต้มน้ำเต้าหู้อยู่เลยค่ะ น้ำเต้าหู้ที่ดิฉันดื่มเป็นประจำคือรสจืด เพราะดิฉันรู้สึกว่าน้ำเต้าหู้จืด ๆ ดื่มแล้วรสชาติลื่นคอ เหมือนดื่มน้ำเปล่า หากใครดื่มน้ำเต้าหู้รสหวานแล้วมักจะรู้สึกพะอืดพะอม ดิฉันขอแนะนำให้ลองดื่มน้ำเต้าหู้รสจืดดูค่ะ นอกจากนี้ดิฉันก็ได้ลองชิมน้ำเต้าหู้รสงาดำ และรสเผือก ซึ่งขอบอกว่าดีงามทุกรสชาติดังทีได้กล่าวมา รับรองว่าดีงาม เลอค่า ไม่มีผิดหวังค่ะ น้ำเต้าหู้ของร้าน น้ำเต้าหู้ร้อยปี เป็นน้ำเต้าหู้ที่ไม่ผสมแป้ง ไม่ผสมนม เข้มข้น ไม่จาง ไม่ผสมน้ำเยอะ รสชาติละมุนมาก ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีฟองเต้าหู้เยอะมาก ๆ ใครชื่นชอบฟองเต้าหู้ ต้องมาลองจริง ๆ ค่ะ ได้รับประทานฟองเต้าหู้จนสะใจแน่ ๆ *ภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน