เทมเป้ (Tempeh) เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวอินโดนีเซีย เกิดจากการหมักบ่มถั่วทั้งเมล็ดด้วยเชื้อราชนิดดี จนเกิดเป็นเส้นใยสีขาวนวลช่วยยืดถั่วให้ติดกันแน่นจนเป็นก้อน สำหรับคนทานเจ วีแกน หรือ plant based นิยมใช้ถั่วเหลืองทำเพราะหาซื้อง่าย จะใช่ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลูกไก่ ถั่วลิสง ก็ได้ค่ะ ฤดูเจปีนี้ใกล้เข้ามาแล้ว เขาว่าการทำเทมเป้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน มาลองทำกันดูค่ะ ผู้เขียนทำครั้งแรกแบบไม่ได้ซ้อมมาก่อน หน้าตาจะเป็นยังไง มาดูกัน วัตถุดิบ ถั่วเหลืองซีกเลาะเปลือก 1 กิโลกรัม ราคา 45 บาท ก็ซื้อมาถุงนึง จะใช้ทีเดียวหมดถุง เขาก็เขียนบอกว่ามือใหม่ให้เริ่มแค่ 250/ 500 กรัมก่อน (ไม่มีกิโลชั่งแบ่งแบบกะเอา 500 กรัม) หัวเชื้อเทมเป้ สั่งซื้อจากแอปส้ม 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถุงละ 100 กรัม ใช้ได้ 2 ปี ราคา 59 บาท) น้ำเปล่า (ใช้น้ำดื่ม หรือน้ำกรองจากเครื่องกรองน้ำดื่ม) อุปกรณ์ ชาม/ กะละมังสำหรับแช่ถั่ว เขาแนะนำให้ใช้วัสดุที่เป็นแก้ว มีฝาปิดพอหลวม (ผู้เขียนใช้โหลแก้วที่มี) กระชอนไว้กรองน้ำออกจากถั่ว ตะกร้า/ ตะแกรง/ กระโล่/ กระด้ง ไว้ใช้ผึ่งถั่วหลังต้มเสร็จ และวางบ่มเทมเป้ กะละมัง/ หม้อ สำหรับคลุกถั่วกับหัวเชื้อ หม้อสำหรับต้มถั่ว กระบวย/ ตะหลิว/ ไม้พาย สำหรับตัก/คลุก ถั่วเหลือง เตาแก๊ส วัสดุสำหรับห่อ ใบตองหลังบ้าน ผู้เขียนเช็ด ตัด และผึ่งลมไว้ 1 วัน หรือซองพลาสติกซิป ซื้อจากแอปส้ม ร้านเดียวกัน เขาเจาะรูที่ถุงมาแล้ว (ขนาด 10*15 ซม. 50 ถุง ราคา 55 บาท) ถ้าใช้ใบตอง ต้องมีไม้กลัดหรือหนังยาง เราก็ใช้หนังยางล่ะนะ ของมันมีอยู่แล้ว วิธีทำ ระยะเวลาทั้งหมด 4 วัน จะได้เทมเป้ 6 ถุง (ผู้เขียนลองกรอกถุง 3 ถุง และห่อใบตองไป 4 ห่อ) 1. ล้างถั่วด้วยน้ำสะอาด (น้ำประปา) 2 - 3 รอบ ให้เปลือกถั่วหลุดทิ้งไป เพราะเปลือกถั่วจะขัดขวางการเจริญเติบโตของเชื้อ 2. แช่ถั่ว 24 - 48 ชั่วโมง ด้วยน้ำเปล่า (ผู้เขียนใช้น้ำกรองสำหรับดื่ม) ใส่ให้ท่วมถั่วไป 1 เท่า เผื่อถั่วพองตัว จนเกิดกลิ่นเปรี้ยว และมีฟองวุ้น (เริ่มทำตอนกลางคืน แช่ไว้ 2 คืน แล้วต้มเช้าวันที่ 2) 3. เทน้ำแช่ถั่วทิ้ง และล้างถั่วด้วยน้ำสะอาด (น้ำประปา) อีก 2-3 น้ำ 4. ต้มถั่วในน้ำเปล่า (ใช้น้ำกรองสำหรับดื่มเหมือนเดิม) ถั่วเหลือง 500 กรัม ใช้น้ำประมาณ 2 ลิตรครึ่ง โดยต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วใส่ถั่วลงไป ใช้ไฟกลาง 30-40 นาที ถั่วจะสุกแต่ยังกรุบ ๆ อยู่ 5. ปิดเตา ยกลง เทใส่กระชอน ทันที 6. นำถั่วที่ต้มเสร็จมาใส่กระโล่ผึ่งพัดลมให้เย็นลง ใช้ไม้พายเกลี่ยและกลับด้านจนแห้ง 7. นำถั่วที่หมาดแล้วใส่กะละมังคลุกกับหัวเชื้อ 8. ห่อด้วยใบตองและรวบให้แน่น และมัดใส่หนังยาง หรือใส่ถุงซิปเกลี่ยให้แน่นเต็มถุงพอดี ไม่กดหรืออัดให้แน่นเกินไป เพื่อให้เชื้อราสามารถเดินได้ดี 9. นำไปวางบนตะแกรงที่อากาศถ่ายเทได้ ในที่ร่มอุณหภูมิห้อง ผู้เขียนก็วางผึ่งบนตะแกรงไว้ในห้องนั่งเล่น ประมาณ 2-3 วัน (ผู้เขียนกรอกใส่ถุงเสร็จช่วงสาย ก่อนนอนตอนค่ำก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เช้าตื่นมาดูมีใยขาว ๆ เต็มถุงแล้ว ตื่นเต้นดี ช่วงเย็นกลับมาจากทำงานก็กลับด้าน ผึ่งต่ออีก 1 วัน เย็นกลับมากินได้แล้ว) เมื่อก้อนเทมเป้ได้ที่แล้ว จะยังอุ่น ๆ อยู่ ก็นำมาทานได้ หรือเก็บเข้าตู้เย็นทั้งที่ยังอุ่นได้เลย ช่องธรรมดาควรทานภายใน 1 สัปดาห์ ช่องฟรีซเก็บได้ประมาณ 1 เดือน เทมเป้ที่ทำเสร็จใหม่ ๆ จะทานง่าย รสสัมผัสนุ่ม และรสชาติจะจืด ๆ แต่ถ้าเก็บนานขึ้นจะมีรสเปรี้ยวและกลิ่นแรงขึ้น ความแตกต่าง ระหว่างแบบห่อใบตองกับถุงซิปล็อค ผู้เขียนบอกได้ว่า แบบห่อใบตองแกะสะดวก ทานสดอร่อยกว่า จะมีรสสัมผัสที่หนึบ เข้มข้น แห้งกว่า อาจเป็นเพราะอากาศสามารถถ่ายเทผ่านเส้นใยของใบตองได้ แต่จะมีจุดที่มัดยาง เชื้อเดินไม่เต็ม เรื่องกลิ่นใบตองที่เขาว่ากันก็ไม่ได้ชัดเจนมากนัก ส่วนแบบใส่ถุง เชื้อจะเดินฟูเท่ากันตลอดถุง ช่วยประสานทุกเมล็ดถั่วเหลืองให้จับตัวกันเป็นก้อนสวย มีความชื้นมากกว่า สามารถสไลด์เป็นแผ่นบางได้ดี เทมเป้นั้น สามารถทานสด ๆ ได้เลย จะใส่สลัด หรือจิ้มน้ำพริกก็ได้ หรือ นำมาประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ แทนเนื้อสัตว์ เช่น ผัดกะเพรา ผัดพริกแกง ผัดพริกเกลือ ทอดกรอบ ทอดคลุกซอสถั่วเหลือง อบกรอบเป็นของทานเล่น สรุปว่า การทำเทมเป้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน จริง แต่ต้องใช้เวลา ถ้ามีแผนจะทานวันไหนก็ต้องทำไว้ล่วงหน้า และขอขอบคุณ คุณจุฑามาส บูรณะเจตน์ และร้าน Healthy Mom ที่แบ่งปันสูตรและวิธี ให้ผู้เขียนได้ทดลองทำค่ะ ทำครั้งแรกหน้าตาดีขนาดนี้ ก็ดีใจนะ ใครสนใจก็ลองไปทำดูได้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน #Tempeh #เทมเป้ #เทมเป้ถั่วเหลือง #วิธีทำเทมเป้ #สูตรเทมเป้ #SuperFood #อาหารเจ #อาหารวีแกน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !