ภาชนาคล้ายถ้วยกาสำหรับชงใบชามีมานานนับพันปีในประเทศจีนและใช้กันอย่างแพร่หลายในเกือบทุกวัฒนธรรมชาในโลกอีกด้วย ปกติแล้วจะนำชาและน้ำร้อนใส่ในกาชงชาและเมื่อชาพร้อม มันก็จะถูกเทออกมาผ่านรูขนาดเล็กหรือตะแกรงกรองลงไปในแก้ว ซึ่งการเทผ่านรูขนาดเล็กหรือตะแกรงกรองจะช่วยกักใบชาไว้ในกาและปล่อยเพียงน้ำชาไหลออกมาเท่านั้นกาน้ำชาสมัยใหม่มีการออกแบบที่มีมือจับ ฝาพวยกา และบางครั้งมีตะกร้ากรองชาหรือตะแกรงกรองที่คิดค้นออกมาในช่วงศตวรรธที่ 16 ชามีบทบาทในพิธีกรรมและกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ในพิธีกรรมและกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ในหลายวัฒนธรรม การชงชาไม่ได้ชงเพื่อรสชาติเท่านั้นแต่ยังสื่อข้อความทางพิธีกรรมผ่านการใช้หรือออกแบบกา กาน้ำชาหลายชิ้นมีภาพวาดด้วยมืออยู่บนตัวกาซึ่งกาน้ำชาอันหรูหราสวยงามเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของรสนิยมชั้นสูงและความประณีตในตะวันออกไกล และยุโรปในเวลาต่อมา เวลาเลือกกาน้ำชาเราจำเป็นต้องคำนึงว่าต้องการใช้งานหรือต้องการความสวยงาม ต้องการขนาดเท่าไหร่และคุณจะชงชาใบหรือชาซอง หากต้องการชงชาใบ คุณจะต้องการใช้ตะกร้ากรองชาที่มากับกาน้ำชาหรือตะแกรงกรองชาเพื่อกรองใบชาออก กาน้ำชามีให้เลือกสรรมากมายหลายรูปแบบแม้แต่กาน้ำชาที่เข้ากับการตกแต่งครัวของคุณหรือกาน้ำชาที่เข้ากับฤดูแต่ละฤดู ยกตัวอย่างเช่น กาน้ำชาที่ใช้ในพิธีชงชาของญี่ปุ่นที่ถูกเลือกมาเพื่อสะท้อนช่วงเวลาของปีหรือแต่ละโอกาส โดยการออกแบบตัวกาน้ำชาและอุปกรณ์ชงชาอื่นๆ จะสื่อถึงฤดูที่กำลังเปลี่ยนจากฤดูใบไม้ผลิไปเป็นฤดูใบไม้ร่วง กาน้ำชาสามารถทำได้จากวัสดุที่หลากหลาย เช่น หิน ไม่เคลือบเงา ดินเผา แก้ว เหล็กหล่อ เงิน และสเตนเลส วัสดุแต่ละประเภทมีผลต่อรสชาติของชาและก็เหมาะกับการชงชาแต่ละประเภทแตกต่างกันไป ดินเหนียว (Clay) กาน้ำชาที่ทำจากวัสดุเครื่องปั้นดินเผาเช่นดินเหนียวมีมาหลายหมื่นปีโดยกำเนิดขึ้นในประเทศจีน ตามปกติแล้วยิ่งเอาเครื่องปั้นด้วยอุณหภูมิที่สูงเท่าไหร่ เครื่องปั้นดินเผาที่ได้ออกมาก็จะแข็งแรงขึ้นเท่านั้น และดินเหนียวเป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะสามารถเก็บรักษาความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเครื่องปั้นดินเผานั้นมีทั้งแบบเครื่องเคลือบและไม่เคลือบ กาน้ำชากาแรกที่ผลิตขึ้นเพื่อชาโดยเฉพาะคือกาน้ำชาอี้ชิง (Yixing) ที่เป็นกาน้ำชาดินเหนียวที่ทำในจีนในศตวรรษที่ 16 โดยภาชนะอี้ชิงเป็นเครื่องปั้นดินเผาแบบไม่เคลือบที่ทำจากดินเหนียวที่มีรูพรุนเพื่อให้การน้ำชาดูดซึมกลิ่นและรสชาติของชาในกา ดังนั้นจึงช่วยยกระดับรสชาติของชาหลายๆชนิดทางชาเขียวจีนที่มีกลิ่นคั่ว ชาผู่เอ๋อร์ที่มีรสมอลต์ และชาดำที่มีกลิ่นรมควัน ด้วยคุณลักษณะการดูดกลิ่นของกาน้ำชาอี้ชิง คุณควรใช้กาน้ำชา 1 ตัวสำหรับชั้น 1 ชนิดเท่านั้น หากคุณใช้เครื่องปั้นดินเผาที่ไม่เคลือบ คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างจานเพราะมันจะดูดเอารสน้ำยาล้างจานไว้ ควรล้างด้วยน้ำเย็นจนแน่ใจว่าไม่มีเศษใบชาเหลืออยู่และนำไปตากให้แห้ง นี่อาจจะเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่าคุณไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานล้างกาน้ำชาหรือใส่มันเข้าไปในเครื่องล้างจาน อย่างไรก็ตามกาน้ำชาเครื่องเคลือบสมัยใหม่ออกแบบมาสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและสามารถนำไปล้างด้วยเครื่องล้างจานได้ และการล้างด้วยน้ำยาล้างจานจะไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติแต่อย่างใด เครื่องกระเบื้อง (Porcelain) เครื่องกระเบื้องเป็นเครื่องปั้นดินเผาสีขาวขุ่นคุณภาพดีที่ผ่านการเผาที่อุณหภูมิสูง โดยเครื่องกระเบื้องกำเนิดขึ้นในจีนและได้รับการพัฒนาในช่วงศตวรรษที่ 13 และ 14 เครื่องกระเบื้องทำมาจากผงไชนาสโตน (China stone) ผสมกับเคโอลิน (Kaolin) หรือดินขาว (China clay) นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเป็นโบนไชนา (Bone China) ในเขตสตาฟฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ (Staffordshire, England) ในช่วงปี 1800 ด้วยการเพิ่มผงกระดูกลงไปในส่วนผสมดินขาวและ ไชนาสโตน โดยโบนไชนานั้นดูคล้ายกันกับเครื่องกระเบื้องมากแต่ต่างกันเล็กน้อยโดยเฉพาะน้ำหนัก ความขุ่น และความหนา กาน้ำชาเครื่องกระเบื้องใช้ได้ดีกับชารสอ่อน เช่นชาเขียว ชาอู่หลง และชาดำอ่อนๆ ยอมชาดาร์จีลิง ทั้งนี้โบนไชนา ถือเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในการทำกาน้ำชา แม้ว่ามันจะมีราคาสูงแต่ด้วยรูปลักษณ์อันประณีตและความหรูหราทำให้มันถูกเลือกใช้กับชุด Afternoon tea แก้ว (Glass) แก้วอาจเป็นวัสดุที่ไม่ค่อยจะเหมาะแก่การทำกาน้ำชาเพราะมันเก็บกักความร้อนได้น้อย เปื้อนง่าย และเปราะบาง อย่างไรก็ตาม กาน้ำชาแก้วนั้นเหมาะสำหรับการชงชาที่มีความสวยงามโดยเฉพาะชาดอกไม้บานเพราะเราจะเห็นใบชาที่กำลังคลี่ออกอย่างสวยงาม นอกจากนี้คุณยังรู้ด้วยว่าชาของคุณเข้มพอหรือยัง และกาน้ำชาแก้วมักจะมาพร้อมกับเตาอุ่นที่ให้คุณใส่เทียนเข้าไปด้านล่างเพื่อรักษาให้ชาอุ่น เหล็กหล่อ (cast-iron) กาน้ำชาเหล็กหล่อกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีชื่อเรียกว่าเท็ตสุบิน (Tetsubin) โดยก่อนการผลิตกาน้ำชานี้ เหล็กหล่อถูกใช้เพื่อทำภาชนะสำหรับต้มน้ำด้วยกองไฟเพราะเหล็กจะร้อนได้เร็วและรักษาความร้อนไว้ได้ดีเมื่อมีอุณหภูมิตามที่ต้องการแล้ว การใช้กาน้ำชาแบบเหล็กมาหล่อต้มชาเกิดขึ้นในช่วงที่เซนฉะเริ่มได้รับความนิยมในญี่ปุ่น โดยกาน้ำชาเหล็กหล่อมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับกาน้ำชาดินเผาแบบไม่เคลือบ เพราะมันจะดูดซับรสชาติบางส่วนของชาไว้ดังนั้นจึงไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานล้างกาน้ำชาเหล็กหล่อ และควรทำให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันสนิม กาน้ำชาเหล็กหล่อมักตกแต่งด้วยลวดลายที่ซับซ้อนและกลายเป็นของขวัญอันหรูหราของชนชั้นสูง ปัจจุบันกาน้ำชาเหล็กหล่อเป็นกาน้ำชาที่แพงที่สุดและมีอายุใช้งานได้ชั่วชีวิตหากผลิตจากผู้ที่มีฝีมือ ภาพจาก : ปก : https://pixabay.com/photos/ceramics-close-up-colorful-teapots-1868492/ https://pixabay.com/photos/tea-tea-set-teapot-680539/ https://pixabay.com/photos/teacup-cup-ceramic-teapot-tee-1239437/ https://pixabay.com/photos/tea-rose-corolla-caf%C3%A9-book-teapot-1871837/ https://pixabay.com/photos/drink-teapot-tea-cup-containers-3208144/