ภาพประกอบโดยผู้เขียน ถ้าเพื่อน ๆ ลองเสิร์ชหาร้านแนะนำเมืองดาลัต ประเทศเวียดนาม รับรองว่าต้องมีชื่อร้าน An Café ขึ้นมาในหน้าการค้นหาเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอนค่ะ ซึ่งร้านนี้เองตอนที่เราไปเที่ยวเมืองดาลัตครั้งแรก เราปักหมุดไว้ว่าจะมานั่งชิล ๆ ทานมื้อเช้า แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้ทันหาพิกัดร้านกลับเดินผ่านโดยบังเอิญ เพราะทางไปโฮสเทลผ่านร้านนี้พอดี 😁 และประกอบกับวันนั้นเป็นวันดาลัตในสายฝน ด้วยความที่ฝนตกบวกกับยังหาที่พักไม่เจอ เราก็ตัดสินใจว่าจะนั่งชิลทานอาหารเช้าที่นี่เสียก่อน แต่พอเข้าไปถามพนักงานบอกว่าร้านยังไม่เปิด อีกครึ่งชั่วโมงถึงจะเปิดร้าน เศร้าเลยค่ะ ต้องออกไปเดินตากฝนหาที่พักกันต่อ แต่ในเรื่องผิดหวังก็ยังมีสิ่งที่ดีให้เราได้เจอ เพราะหลังจากเดินออกมาจากร้าน An Café แล้ว เราก็มาพบกับ Street food ที่แปลกแต่อร่อยและจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันในบทความนี้ค่ะ และระหว่างทางเดินไปโฮสเทลเราก็พบกับร้านขายขนมข้างทางที่เหมาะกับจะซื้อมาทานในเวลาที่อากาศเย็นเจี๊ยบแบบวันที่เราไป ความจริงอากาศที่ดาลัตเย็นตลอดปีอยู่แล้ว พอมีฝนตกเลยยิ่งหนาวไปกันใหญ่ ขนม Xôi Bánh Tiêu อ่านว่า บั๊ญ โซย เตียว ค่ะ ขนมที่ว่าเป็นขนมที่มีลักษณะเป็นแป้งคล้ายขนมปัง ข้างในเป็นไส้ข้าวเหนียว ไส้มะพร้าวที่ผสมน้ำตาลและถั่ว ปิ้งร้อน ๆ ทานแล้วอร่อยดี ที่สำคัญคือชิ้นใหญ่มาก ทานชิ้นเดียวอิ่มพูดเลย 😉 พิกัดที่ตั้งขายอยู่ริมทางนั้นหาง่ายมาก ๆ ค่ะ เพราะอยู่ตรงข้าม เยื้องกับร้าน An Café ซึ่งจะมีขายในช่วงเช้าตรู่ของวัน อารมณ์แบบน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ที่มาตั้งขายตอนเช้าในบ้านเราเลยค่ะ มาพูดถึงลักษณะและรสชาติของเจ้าขนมแป้งนี้กันบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่าขนมชิ้นนี้เป็นแป้งขนมปังที่มีไส้ด้านในด้วย โดยตัวแป้งด้านนอกจะให้รสสัมผัสแบบเวลาเราทานขนมปังและมีโรยงาขาวด้วยค่ะ ส่วนด้านในอย่างชิ้นในภาพด้านบน เป็นไส้ข้าวเหนียวม่วงค่ะ รสชาติให้ความอร่อยกลมกล่อมทีเดียวเมื่อทานคู่กับไส้ข้าวเหนียวด้านใน ตัวไส้หวานมันกำลังดี แถมทานชิ้นนี้แล้วอิ่มมาก ๆ เลยค่ะ เพราะได้รับคาร์โบไฮเดตแบบเต็ม ๆ ทั้งแป้งและข้าวเหนียว ทานเป็นอาหารเช้าได้เลยนะคะชิ้นนี้ ซึ่งเขาจะมีเทคนิคในการอุ่นตัวขนมปังให้ร้อนอยู่ตลอดเวลาโดยการนึ่งอยู่ในซึ้งค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) ส่วนชิ้นนี้ที่เห็นด้านในเป็นสีขาวเพราะเป็นไส้มะพร้าวนั่นเองค่ะ เป็นมะพร้าวที่ขูดเป็นเส้นฝอย ๆ คลุกกับน้ำตาล แล้วนำมาทำเป็นไส้ด้านใน ทำให้รสชาติของชิ้นนี้จะออกไปทางหวาน เค็ม มัน และถูกตัดรสด้วยถั่วลิสงค่ะ ด้านในนอกจากมะพร้าวแล้วยังมีถั่วลิสงปนอยู่ด้วยนะคะ ทำให้ขนมไส้มะพร้าวถั่วลิสงชิ้นนี้มีรสชาติกลมกล่อมมากทีเดียวค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) มารีวิวกันอีกหนึ่งอย่างค่ะ ไข่ครกของไทย (อันนี้เราเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดนะคะ) เพราะจริง ๆ แล้วใน 1 ชิ้นของไข่ครกเวียดนามมีแป้งผสมอยู่ด้วยค่ะ ถ้าจริง ๆ ควรเรียกเจ้านี่ว่า 'ขนมครกเวียดนาม' ตามชื่อที่เราบอกไว้ตอนแรกค่ะ Bahn Khot (บั๋น คห่อ) แต่สิ่งที่ต่างออกไปของขนมครกเวียดนามกับขนมครกไทยคือ หลังจากที่คุณแม่ค้าหยอดแป้งลงบนเตาขนมครกแล้วก็จะทำการหยอดไข่ตามไปตรงกลางของแป้ง ทำให้กลายเป็นขนมครกใส่ไข่นั่นเอง และขนมครกอันนี้ก็มีน้ำจิ้มสูตรเฉพาะด้วยนะคะ หน้าตาจะเป็นแบบที่ใส่ถุงอยู่ในภาพค่ะ เป็นน้ำปลาผสมพริกและโรยด้วยผักชีและต้นหอมค่ะ แต่น้ำปลาที่ว่าไม่ออกรสเค็มมากเหมือนน้ำปลาที่บ้านเรานะคะ น่าจะมีการปรุงรสมาแล้ว แต่เราเองก็ไม่แน่ใจว่าส่วนผสมมีอะไรบ้าง ภาพประกอบโดยผู้เขียน คุณป้าคนขายสอนเราทาน วิธีการคือต้องใส่ไข่ครก 1 ชิ้นลงไปในถ้วยน้ำจิ้มแล้วก็ตักขึ้นมาทานเป็น 1 คำ อืมอร่อย 😀 แต่จริง ๆ เราชอบทานแบบใช้ซ้อมจิ้มไข่ไป จุ่มน้ำจิ้มนิด ๆ แล้วทานมากกว่า 😁 สำหรับน้ำจิ้มอร่อยดีนะ ถ้าเป็นที่ไทยคงใช้แม็กกี้เหยาะใส่แทน อิอิ รสชาติของขนมครกใส่ไข่นี้ถ้าทานแบบไม่จิ้มน้ำจิ้มจะจืด ๆ หน่อยค่ะ รสแบบไข่ครกบ้านเราค่ะ ถึงแม้จะมีแป้งผสมอยู่ด้วยก็ตาม ส่วนตอนทานกับน้ำจิ้มก็มีรสชาติขึ้นมาหน่อยด้วยความเค็มนิด ๆ ของน้ำจิ้ม แต่ถ้าจะให้ดีต้องโรยพริกป่นด้วย อร่อยเด็ดเลยค่ะ พิกัดในการหาซื้อขนมครกเวียดนามแบบนี้มาทานคือ มีอยู่ริมทางทั่วเมืองดาลัตเลยค่ะ ขายกันเยอะมาก ๆ หาทานง่ายเลย และนี่คือเมนู Street food แห่งเมืองดาลัต ที่เราเจอโดยบังเอิญ แต่ยังอยู่ในความทรงจำของเราเสมอมาค่ะ เพราะความอร่อยและความแปลก และทานได้อิ่มอยู่ท้องไป 1 มื้อในราคาที่ย่อมเยามาก ๆ อย่างขนมแป้งทอดก็ตกชิ้นละประมาณ 7 - 10 บาท ส่วนขนมครกเวียดนามขายอยู่ที่ชุดละประมาณ 15 - 20 บาทค่ะ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวดาลัตลองไปหาทานกันดูนะคะ