ช่วงนี้คนอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้กระแสการทำกาแฟดื่มเองที่บ้านกลับมาอีกครั้ง. สำหรับคนที่เคยทำอยู่แล้วคงไม่ใข่ปัญหา แต่มือใหม่ที่พึ่งเริ่มดริปกาแฟเอง คงจะงง ๆ อยู่บ้างว่าต้องใช้กาแฟเท่าไหร่ ? เทเท่าไหร่ ? กี่นาที กี่วินาที ? วันนี้เรามีสูตรการดริปง่าย ๆ มาให้แบบครบถ้วน ทั้งเวลาที่ต้องเทไปจนถึงน้ำหนักที่เทจะเซฟ ไว้แล้วไปทำตามก็ง่ายมาก ๆ เลยย วิธีการดริปนี้มีชื่อว่า 4:6 โดยเป็นของคุณ Tetsuya ที่เป็นแชมป์ดริปกาแฟชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ใช้ จุดเด่นคือมันง่ายมาก และ พลิกแพลงไปมาได้ตามแต่ Character ของกาแฟแต่ละตัวด้วย พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ เริ่มกันที่เรื่องของอุณหภูมิน้ำที่ใช้ ให้ดูที่เมล็ดกาแฟที่นำมาดริปนะครับ ถ้าเป็นคั่วอ่อน น้ำควรจะอยู่ที่ ประมาณ 93 องศา ถ้าเป็นคั่วกลาง น้ำควรจะอยู่ที่ประมาณ 88 องศา ถ้าเป็นคั่วเข้ม น้ำควรจะอยู่ที่ประมาณ 83 องศา อัตราส่วนที่คุณ Tetsu ใช้จะเรียกว่าเป็น Ratio 1:15 ครับ สำหรับมือใหม่ต้องเข้าใจคำนี้ไว้เลยครับ Ratio คือ อัตราส่วนกาแฟต่อน้ำครับ ซึ่งแต่ละเมล็ดถ้าจะให้ดี มันจะมี Ratio ที่เหมาะสมเป็นของตัวเองครับ เราต้องลองหาดูว่า Ratio ไหน เหมาะกับเมล็ดไหนมากที่สุด เมื่อได้อุณหภูมิแล้วก็เริ่มดริปกันเลย ถ้าใช้กาแฟ 10 กรัม ใช้สูตรตามนี้ครับ พื้นฐาน น้ำ เวลา 30 ml 0.00 60 ml 0.45 90 ml 1.30 120 ml 2.10 150 ml 2.45 ยกดริปเปอร์ออก 3.30 เพิ่มความหวาน น้ำ เวลา 25 ml 0.00 60 ml 0.45 90 ml 1.30 120 ml 2.10 150 ml 2.45 ยกดริปเปอร์ออก 3.30 เพิ่มความเปรี้ยว น้ำ เวลา 35 ml 0.00 60 ml 0.45 90 ml 1.30 120 ml 2.10 150 ml 2.45 ยกดริปเปอร์ออก 3.30 ถ้าใช้กาแฟ 20 กรัม ใช้สูตรตามนี้ครับ พื้นฐาน น้ำ เวลา 60 ml 0.00 120 ml 0.45 180 ml 1.30 240 ml 2.10 300 ml 2.45 ยกดริปเปอร์ออก 3.30 เพิ่มความหวาน น้ำ เวลา 50 ml 0.00 120 ml 0.45 180 ml 1.30 240 ml 2.10 300 ml 2.45 ยกดริปเปอร์ออก 3.30 เพิ่มความเปรี้ยว น้ำ เวลา 70 ml 0.00 120 ml 0.45 180 ml 1.30 240 ml 2.10 300 ml 2.45 ยกดริปเปอร์ออก 3.30 เพียงเท่านี้ก็จะได้รสชาติของกาแฟที่อร่อยมากขึ้นแล้วครับ สุดท้ายอยากจะบอกว่าเรื่องรสชาติเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ อยู่ที่ว่าใครชอบหรือไม่ชอบแบบนั้น เราสามารถพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์ครับ โดยใช้หลักการง่าย ๆ ว่า ถ้าอยากให้มันหวานก็เทรอบแรกให้น้อยลงกว่าปกติ แต่ถ้าอยากให้มันเปรี้ยวขึ้นก็เทรอบแรกให้มากกว่าปกติครับ ส่วนช่วงท้าย ๆ ถ้าอยากให้มันเข้มข้นมากขึ้นก็เทในเวลาที่น้อยลงครับ ประมาณนี้เราก็จะสามารถพลิกแพลง เปลี่ยนแปลงได้ในหลากลายสถานการณ์แล้วครับ รวมถึงกาแฟแต่ละตัวก็มีรสชาติ และ กลิ่นที่ต่างกันออกไปครับ ลองศึกษาดูว่าเมล็ดที่เราได้มานั้นเป็นตัวไหน ? มีเทสโน๊ตยังไง ? ขอให้สนุกกับการดื่มกาแฟครับ เครดิตภาพ ภาพที่1จากFree-Photos / ภาพที่2จากfreephotocc / ภาพที่3จากSkitterphoto / ภาพที่4จากjosealbafotos / ภาพหน้าปกจากFree-Photos หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !