9 วิธีเลือกซื้อบวบงู ลวกจิ้มกับน้ำพริก แบบไหนดี เก็บมาสดใหม่ อ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนยังไม่รู้ว่า บวบงูที่ไม่สดใหม่ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ไม่น่ารับประทานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นความเสี่ยงต่อสุขอนามัยได้โดยตรงค่ะ เพราะผักที่เก็บไว้นานหรือมีรอยช้ำ มักเป็นแหล่งสะสมของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะหากผ่านการเก็บรักษาที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น วางไว้ในที่ร้อนชื้น หรือโดนมือสัมผัสหลายครั้งในตลาด ซึ่งความเสี่ยงนี้สามารถทำให้เกิดความเจ็บป่วยตามมาทีหลังได้ เพราะแม้จะนำมาลวกหรือต้มก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถกำจัดสารพิษจากเชื้อราบางชนิดได้ทั้งหมดค่ะ ที่สำคัญคือบวบงูที่เสื่อมสภาพยังสูญเสียคุณค่าทางอาหาร ด้วยเหตุข้างต้นการใช้ทริคต่างๆ ในการเลือกบวบงูจึงสำคัญมากค่ะ เพราะช่วยให้เราได้ผักที่ทั้งสด อร่อย และปลอดภัยต่อสุขอนามัยได้ง่ายขึ้น ซึ่งเคล็ดลับในการเลือกที่ผู้เขียนจะบอกต่อนั้น ล้วนเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ลดความเสี่ยงได้ทันทีเมื่ออยู่ในตลาดนะคะ นอกจากการมีเคล็ดลับเลือกด้วยวิธีที่เป็นระบบ ยังช่วยให้เรามั่นใจว่าเนื้อบวบจะกรอบหวาน ไม่มีกลิ่นหมักหรือรสขมที่บ่งบอกถึงความเก่า และยังช่วยคัดทิ้งผักที่มีรอยช้ำหรือปนเปื้อนได้ได้ ซึ่งการใช้ทริคเป็นเหมือนเกราะป้องกันชั้นแรกของครัว เพื่อให้ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วยคุณภาพและความปลอดภัยค่ะ และต่อไปนี้คือวิธีการสังเกตบวบงูสดใหม่ค่ะ 1. มองหาผิวที่เรียบตึงและมีสีเขียวสด ถ้าพูดถึงการเลือกบวบงูให้ได้รสชาติอร่อยและเหมาะกับการลวกจิ้มกับน้ำพริกนั้น สิ่งแรกที่หลายคนมักมองข้ามคือผิวค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วผิวของบวบงูเป็นเหมือนบัตรประชาชนที่บอกอายุและความสดได้ชัดเจนมากค่ะ ถ้ามีผิวเรียบตึงและมีสีเขียวสด แสดงว่า บวบเพิ่งถูกเก็บมาไม่นาน เนื้อด้านในจะยังชุ่มน้ำและมีรสหวานกรอบตามธรรมชาติ ผิวที่ตึงยังบอกได้ว่าบวบได้รับน้ำและสารอาหารเพียงพอ ไม่เหี่ยวหรือย่นจากการเก็บไว้นาน ในทางกลับกันถ้าผิวเริ่มหมอง ซีด หรือมีรอยย่น แปลว่าบวบสูญเสียน้ำไปมากแล้ว เมื่อลวกจะนิ่มเละ ไม่อร่อย โดยผิวเขียวสดนี้ยังทำให้ดูน่ากินและช่วยเพิ่มความสวยงามเวลาจัดจานอีกด้วยค่ะ ดังนั้นการสังเกตเพียงจุดเล็กๆ นี้จะช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องมานั่งเดาว่าบวบจะอร่อยหรือไม่ และยังช่วยให้เราเลือกของได้แม่นเหมือนเป็นคนซื้อผักมืออาชีพอีกด้วยค่ะ 2. เลือกที่มีน้ำหนักแน่นมือ การเลือกบวบงูที่มีน้ำหนักแน่นมือ เป็นเทคนิคง่ายๆ แต่ได้ผลมากค่ะ เพราะน้ำหนักของบวบสะท้อนถึงความชุ่มน้ำและความสดใหม่โดยตรง ถ้าเวลาหยิบขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าหนักกว่าที่คาด หมายความว่าบวบยังเก็บน้ำในเนื้อได้เต็มที่ เนื้อจะกรอบนุ่มและมีรสหวานธรรมชาติ เมื่อลวกจิ้มกับน้ำพริกจะได้สัมผัสที่ชุ่มฉ่ำ ไม่เละหรือยุ่ย ในทางกลับกันถ้าหยิบแล้วรู้สึกเบาหวิวเกินไป แสดงว่าบวบเริ่มสูญเสียน้ำจากการเก็บไว้นาน เนื้อด้านในจะแห้งและรสชาติด้อยลง น้ำหนักที่ดีมักมาพร้อมความแน่นของเนื้อค่ะ ทำให้เวลาหั่นจะไม่ยุ่ยง่าย อีกทั้งวิธีนี้ยังช่วยคัดบวบที่เพิ่งเก็บมาสดๆ ได้แม้ในตลาดที่มีผักหลากหลาย เพราะแค่ลองยกขึ้นมาชั่งน้ำหนักด้วยมือ ก็สามารถแยกบวบสดออกจากบวบเก่าได้อย่างชัดเจนแล้วค่ะ และถ้าอยากให้มั่นใจยิ่งขึ้น ให้ลองเปรียบเทียบน้ำหนักกับบวบขนาดใกล้เคียงกัน 2-3 ผล แล้วเลือกที่หนักที่สุด และนี่คือเคล็ดลับสำคัญ ที่ทำให้เราได้บวบงูรสอร่อยทุกครั้งที่ซื้อนะคะ 3. สังเกตความตรงและเรียวยาวของผล รู้ไหมคะว่า การสังเกตความตรงและเรียวยาวของบวบงู เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้ได้ผักสดอร่อยและสุกสม่ำเสมอเมื่อลวกจิ้มกับน้ำพริกค่ะ ปกติบวบงูที่มีลักษณะตรงหรือโค้งเพียงเล็กน้อย มักเกิดจากที่มีการเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ได้รับน้ำและแสงแดดเพียงพอ ที่จะทำให้เนื้อด้านในนุ่มกรอบไม่เป็นเสี้ยน ซึ่งการเลือกผลที่เรียวยาวยังช่วยให้ปอกเปลือกและหั่นได้ง่าย ขนาดชิ้นจะเท่ากันทำให้สุกพร้อมกัน เวลาลวกจะได้เนื้อที่นุ่มกำลังดี ไม่เหนียวหรือเละ ซึ่งจะต่างจากบวบที่บิดงอมาก ที่มักเกิดจากการเจริญเติบโตผิดรูป ซึ่งผลที่ตามมาคือจะมีเนื้อบางส่วนแข็งหรือรสชาติไม่สม่ำเสมอค่ะ ปกติถ้าเก็บตอนอ่อนมาก บวบงูจะยาวเพียง 15–25 ซม. บวบแบบนี้เนื้อจะนุ่ม หวาน และไม่มีเสี้ยนเลยค่ะ แต่ปริมาณเนื้อก็จะน้อยกว่า เหมาะกับการลวกจิ้มหรือแบบกินสดๆ หวาน ๆ ค่ะ และถ้าปล่อยให้ยาวมากขึ้น ราว 30 ซม. ขึ้นไป เนื้อจะหนาและกรอบชัด แต่ถ้าเกิน 40–50 ซม. มักเริ่มแก่ มีเสี้ยน และรสขมเพิ่มขึ้นมานะคะ โดยตลาดท้องถิ่นบางแห่ง ก็ชอบขายบวบงูสั้นๆ เพราะดูสดและอ่อนมาก เหมาะกับเมนูที่ต้องการความนุ่มค่ะ แต่ในมุมของคนเลือกผัก ความยาวสั้นกว่า 30 ซม. ไม่ใช่ปัญหาค่ะ ถ้าสีผิวเขียวสด น้ำหนักแน่น และขั้วยังเขียว เพราะนั่นคือสัญญาณของความสดใหม่ ที่โดยสรุปแล้วการมองหาบวบที่ตรงและเรียวยาว จึงเป็นทั้งเรื่องของรสสัมผัส ความสะดวกในการเตรียม และความสวยงามเวลาจัดจานให้ดูน่ากินนะคะ 4. สัมผัสแล้วรู้สึกกรอบเด้ง คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การเลือกบวบงูโดยใช้วิธีสัมผัสแล้วรู้สึกกรอบเด้ง เป็นเทคนิคที่ช่วยบอกความสดได้แม่นยำแบบไม่ต้องผ่าให้เสียของค่ะ เวลาลองใช้มือบีบเบาๆ บริเวณกลางผลค่ะ บวบงูสดจะมีแรงต้านเล็กน้อยและเด้งกลับทันที ไม่บุ๋มติดมือ เนื้อภายในจะแน่นและชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะของบวบที่เพิ่งเก็บมาใหม่ ในทางตรงกันข้ามถ้ากดแล้วรู้สึกนิ่มหรือยวบ แสดงว่าบวบเริ่มเหี่ยวหรือเน่า เนื้อในอาจยุ่ยและสูญเสียรสหวานตามธรรมชาติ เมื่อลวกจิ้มจะนิ่มเละ ไม่อร่อยค่ะ ซึ่งความกรอบเด้งยังช่วยรับประกันว่า เนื้อบวบจะคงรูปดีเมื่อผ่านความร้อน ไม่หดหรือแตกยุ่ยเป็นชิ้นๆ ซึ่งการลองกด 2–3 ผลในตลาดก็สามารถคัดบวบเก่าออกได้ทันทีแล้วนะคะ อีกทั้งยังช่วยให้มั่นใจว่าบวบที่เลือกมาจะให้สัมผัสกรอบนุ่มทุกคำเมื่อจิ้มน้ำพริกค่ะ 5. ตรวจขั้วและก้านว่ามีสีเขียวสด การตรวจขั้วและก้านว่ามีสีเขียวสด เป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ช่วยแยกบวบงูสดใหม่ออกจากบวบที่เก็บไว้นานได้อย่างชัดเจนค่ะ เพราะขั้วและก้านของบวบงูสดจะมีสีเขียวอ่อนหรือเขียวเข้มตามธรรมชาติ และยังดูชุ่มน้ำ ไม่แห้งกรอบหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล นั่นหมายความว่าบวบงูเพิ่งถูกเก็บมาไม่นาน เนื้อด้านในยังคงความชุ่มฉ่ำและรสหวานกรอบเต็มที่ ในทางกลับกันถ้าขั้วเริ่มแห้ง เหี่ยว หรือมีสีคล้ำ แสดงว่าถูกเก็บไว้นานหลายวันหรือผ่านการขนส่งหลายรอบแล้ว ทำให้รสชาติและความกรอบลดลงได้ค่ะ การดูขั้วยังช่วยบอกถึงวิธีการเก็บเกี่ยวด้วย ถ้าขั้วติดแน่นและไม่ฉีกขาด แสดงว่าถูกเก็บด้วยความระมัดระวัง ไม่กระแทกหรือทำให้เนื้อช้ำ เทคนิคนี้ง่ายแต่แม่นยำมากค่ะโดยเฉพาะเมื่อซื้อในตลาดที่มีบวบงูหลายเจ้า การมองแค่ขั้วและก้านเขียวสด ก็ช่วยให้เราเลือกบวบที่ลวกแล้วอร่อยได้เกือบ 100% แล้วค่ะ 6. เลี่ยงผลที่มีรอยช้ำหรือแผล หลายคนยังไม่รู้ว่า การเลี่ยงเลือกบวบงูที่มีรอยช้ำหรือแผล เป็นสิ่งที่ควรทำเสมอถ้าอยากได้บวบชนิดนี้ที่สดใหม่และรสชาติดีค่ะ เพราะรอยช้ำบนผิวมักเกิดจากการกระแทกหรือกดทับระหว่างเก็บและขนส่ง ซึ่งทำให้เนื้อในบริเวณนั้นเสียสภาพเร็วกว่าปกติ เนื้ออาจยุ่ย มีรสขม หรือมีกลิ่นหมักแม้ภายนอกยังดูดีอยู่ก็ตาม โดยส่วนแผลที่ผิว ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วนหรือรอยแตก ล้วนเป็นช่องทางให้เชื้อราหรือแมลงเข้าไปได้ง่ายค่ะ โดยจะส่งผลให้บวบเน่าเสียเร็วขึ้น แม้จะเก็บในตู้เย็นก็ยืดอายุได้ไม่นานค่ะ เมื่อนำไปลวก เนื้อบริเวณที่ช้ำมักจะเละและทำให้รสสัมผัสเสียไปทั้งชิ้น ยิ่งถ้าทำลวกจิ้มกับน้ำพริก รสชาติและหน้าตาก็จะไม่สวยน่ากินนะคะ ที่โดยสรุปแล้วการสังเกตผิวรอบผลให้ทั่วเป็นวงรอบ 360 องศา จึงเป็นวิธีที่ช่วยคัดออกบวบที่มีปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เรามั่นใจได้ว่าบวบที่เลือกมาจะให้ความกรอบหวานเต็มคำทุกครั้งที่ทานค่ะ 7. ให้ความสำคัญกับกลิ่นตามธรรมชาติ กลิ่นตามธรรมชาติของบวบงู เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญนะคะ และเป็นวิธีเลือกที่หลายคนอาจมองข้าม แต่กลิ่นของบวบงูสามารถบอกความสดและคุณภาพได้ชัดเจนมาก โดยบวบงูสดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นผักสดอย่างแตงกวาผสมฟักค่ะ ซึ่งกลิ่นนี้มาจากน้ำตาลและน้ำในเนื้อที่ยังสมบูรณ์เต็มที่ ถ้าลองยกขึ้นมาใกล้จมูกแล้วได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แปลว่าบวบเพิ่งเก็บมาไม่นานนะคะ แต่ ถ้ากลิ่นจางมากหรือมีกลิ่นหมัก กลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นเหม็นเขียวแรงเกินไป แสดงว่าบวบเริ่มเสื่อมสภาพหรือเก็บไว้นานเกินไปแล้ว นอกจากนี้กลิ่นยังช่วยบอกได้ว่าบวบแก่หรืออ่อนด้วย ที่โดยปกติแล้วบวบอ่อนจะมีกลิ่นหอมสดใส ส่วนบวบแก่จะมีกลิ่นเขียวแรงและรสออกขม เมื่อเราลวกจิ้มกับน้ำพริก กลิ่นตามธรรมชาติที่ดีจะช่วยให้รสชาติของน้ำพริกโดดเด่นและผักยังคงความหอมหวานได้อย่างลงตัวค่ะ ซึ่งการดมกลิ่นจึงเป็นขั้นตอนง่ายๆ แต่เพิ่มโอกาสได้บวบสดอร่อยเกือบ 100% ได้ค่ะทุกคน 8. เลือกขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่เกิน ปกติบวบขนาดกลางมักมีความยาวและความอวบพอดี ทำให้เนื้อด้านในนุ่มกรอบ ไม่มีเสี้ยน และมีรสหวานธรรมชาติกำลังดี ถ้าผลเล็กเกินไป เนื้อจะบางมาก ลวกแล้วจะหดตัวและนิ่มเร็ว ทำให้รสชาติอาจไม่เด่นชัด ส่วนถ้าผลใหญ่เกินไป ก็มักจะเริ่มแก่ มีเสี้ยน และรสขมแทรกค่ะ ซึ่งการมีเนื้อเหนียวนี้ เมื่อลวกจิ้มกับน้ำพริกก็จะเสียอรรถรสได้ง่ายๆ นะคะ โดยการเลือกขนาดกลางยังช่วยให้หั่นเป็นชิ้นได้สวยและสุกสม่ำเสมอเวลาลวก ที่สำคัญคือเก็บได้นานกว่าผลที่อ่อนมาก เพราะโครงสร้างเนื้อแข็งแรงพอเหมาะ ดังนั้นการมองหาขนาดกลางจึงเป็นเหมือนจุดสมดุลระหว่างความนุ่มกรอบ รสหวาน และความสะดวกในการปรุง และเหมาะกับทุกเมนูตั้งแต่ลวกจิ้มไปจนถึงแกงอ่อมค่ะ 9. ซื้อจากแหล่งขายที่ไว้ใจได้ เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราได้บวบงูที่ทั้งสด อร่อย และปลอดภัยต่อสุขอนามัยนั้น คอ การเลือกซื้อจากแหล่งขายที่น่าเชื่อถือค่ะ เพราะแหล่งขายที่น่าเชื่อถือมักใส่ใจเรื่องการคัดเลือกและการเก็บรักษา ทำให้บวบงูที่นำมาขายมีความสดใหม่เหมือนเพิ่งเก็บจากสวน อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนจากการขนส่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ร้านหรือแผงผักที่เราซื้อประจำจะรู้ความชอบของลูกค้า บางครั้งยังเก็บผักอ่อนๆ หรือผลที่ดีที่สุดไว้ให้โดยเฉพาะ การมีแหล่งที่เชื่อใจได้จึงไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพของบวบ แต่ยังช่วยประหยัดเวลาในการเลือก เพราะมั่นใจได้ว่าของที่วางขายผ่านการคัดมาแล้ว นอกจากนี้แหล่งขายประจำยังทำให้เราสามารถสอบถามข้อมูลแหล่งปลูก วิธีการเก็บเกี่ยว หรือช่วงเวลาที่บวบสดที่สุดได้อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้เราได้บวบงูรสหวาน กรอบนุ่มทุกครั้งที่ซื้อมาลวกจิ้มกับน้ำพริกค่ะ และนั่นคือเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้ได้บวบงูสดใหม่ค่ะ จะเห็นได้ว่ามีหลายวิธีการสังเกตที่สำคัญ แต่ในสถานการณ์จริง การเริ่มต้นเลือกบวบงูให้ได้สดใหม่สำหรับลวกจิ้มกับน้ำพริกนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องจำทุกเคล็ดลับละเอียดครบ 9 ข้อในทันทีค่ะ แต่เราควรเริ่มจากจุดที่สังเกตง่ายและใช้เวลาไม่นานก่อน เช่น ดูผิวและสีว่าเขียวสดเรียบตึง จากนั้นใช้มือชั่งน้ำหนักว่ารู้สึกแน่นมือหรือไม่ พร้อมมองขั้วและก้านว่ายังเขียวสดอยู่ โดยวิธีการเหล่านี้ก็ช่วยทำให้คัดบวบงูเก่าออกได้เร็วมากแล้วค่ะ แม้ในตลาดที่คนเยอะก็ทำได้ต่อเนื่องโดยไม่เสียจังหวะ เมื่อเริ่มคุ้นตาและชำนาญขึ้น เราค่อยเพิ่มแนวทางอื่นๆ อย่างการดมกลิ่นหรือการตรวจความตรงเรียวยาว เพื่อเพิ่มความแม่นยำนะคะ ซึ่งการเริ่มจากสิ่งที่สังเกตได้ง่ายก่อน แบบนี้ต่อให้เป็นพ่อบ้านมือใหม่ก็ไม่รู้สึกกดดัน และสามารถเลือกได้อย่างมั่นใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปซื้อค่ะ ซึ่งรู้ไหมคะว่า ถ้าคุณผู้อ่านฝึกใช้ทริคบ่อยๆ จะทำให้เกิดความเคยชินและทำได้อย่างต่อเนื่องโดยแทบไม่ต้องคิดมากค่ะ ที่ในสถานการณ์จริงเพียงเดินผ่านแผง เราก็สามารถมองเห็นบวบที่มีสีและรูปทรงตรงตามต้องการได้แล้ว หรือแค่หยิบขึ้นมาดูก็รู้ได้ทันทีว่าน้ำหนักและความเด้งเป็นอย่างไร ดังนั้นจุดสำคัญของการใช้วิธีต่างๆ คือการคัดคุณภาพตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้บวบงูที่นำกลับบ้านมีความกรอบหวาน คงความสดได้นาน และไม่ต้องคัดทิ้งภายหลัง ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกบวบอย่างมีระบบยังช่วยประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และทำให้มื้ออาหารออกมาน่ากินทุกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจเล็กๆ ของคนที่เลือกผักเองได้อย่างชาญฉลาดค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนผู้เขียนก็เริ่มต้นแบบนั้นเหมือนกัน คือ ได้สังเกตจากสีผิว การบีบเบาๆ และการซื้อจากร้านประจำค่ะ ที่ในตอนหลังมาการซื้อจากแหล่งขายที่ไว้ใจได้ กลายเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้การเลือกบวบงูเกิดขึ้นได้ง่ายากขึ้น แต่ผู้เขียนก็ยังไม่เคยลืมที่จะประยุกต์ใช้แนวทางต่างๆ ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ค่ะ ยังไงนั้นอย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะคะทุกคน เพราะอาหารสามารถนำมาซึ่งความเจ็บป่วยได้ ต่อให้ซื้อบวบงูก็ตาม ก็ควรจะเลือกให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป ถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 ทริคเลือกผลอ่อนอีนูน หรือผักสาบ แบบไหนดีสดใหม่ ลวกได้อร่อย 11 วิธีเลือกบวบอ่อนสวย มาทำอาหาร แบบไหนสดใหม่ น่าซื้อ 9 ทริคเลือกแตงกวาญี่ปุ่น โครงการหลวง แบบไหนดี เก็บมาสดใหม่ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !