cr .unsplash เคล็ดลับคู่ครัว สำหรับผู้ที่นิยมทำอาหารเอง และยังนิยมใช้น้ำมันในการประกอบอาหาร การเลือกน้ำมันให้ถูกกับเมนูที่ปรุง จะมีส่วนในเรื่องของการดูแลสุขภาพด้วย แต่หลายคนมองข้ามเรื่องนี้ และ คิดว่าน้ำมันแบบไหนก็เหมือนกันหมด แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยมีน้ำมันหลายชนิดที่เราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละเมนูได้ รวมทั้งยังช่วยลดภาวะการเสี่ยงจากการบริโภคอาหารที่ต้องใช้น้ำมันในการปรุงด้วย เลือกน้ำมันให้เหมาะกับอาหารที่ปรุงดีอย่างไร ปัจจุบันข้อมูลในการเลือกน้ำมันชนิดต่าง ๆ มีเผยแพร่มากมาย และ ชนิดของน้ำมันที่มีผลิตสู่ตลาดก็มีหลายแบรนด์ หลายวัตถุดิบ ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น การเลือกน้ำมันปรุงอาหารที่เหมาะกับกรรมวิธีการปรุงก็จะมีส่วนลดภาวะความเสี่ยงโดยเฉพาะเรื่องของ ไขมันอุดตัน , คอเรสตอรอล หรือช่วยในการคุมน้ำหนักได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวล เราต้องควบคุมปริมาณการใช้ การรับประทาน และไม่ใช้น้ำมันซ้ำ ในยุคนี้ มีน้ำมันชนิดต่าง ๆ ผลิตออกมามากมายสกัดจากวัตถุดิบต่างๆ เช่น ปล์าม , ถั่วเหลือง , บัว , ดอกคำฝอย , มะกอก , รำข้าว , ทานตะวัน , หรือแม้แต่น้ำมันธรรมชาติ อย่างน้ำมันหมู ที่หลายคนอยากรู้ว่าสรุปแล้วควรเลือกน้ำมันแบบไหนดี cr. unsplash น้ำมันปรุงอาหารที่ดีกับสุขภาพเหมาะกับการปรุงอาหารแบบไทย ๆ สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องสุขภาพ น้ำมันที่เหมาะกับการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารทอด อาหารผัด ที่ต้องใช้ความร้อนสูง หรือ ใช้เวลานานในการปรุงและได้รับการวิจัยการทดลองต่าง ๆ และยืนยันว่าเหมาะสมกับการปรุงอาหาร 1.น้ำมันเมล็ดชา (มีผลิตในไทยเป็นของโครงการหลวง) ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และ ประโยชน์อื่น ๆ มากมาย แต่ราคานั้นอาจจะสูงกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ หากทำเมนูผัดใช้น้ำมันน้อย ๆ ก็ดูจะคุ้มกว่า แต่หากเป็นเมนูทอดไม่แนะนำเพราะใช้น้ำมันปริมาณมากจะสิ้นเปลืองเกินไป 2.น้ำมันรำข้าว สำหรับน้ำมันชนิดนี้ ใช้ได้ทั้งเมนูทอด และ เมนูผัด และเป็นน้ำมันได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพว่ามีประโยชน์จริง ในน้ำมันรำข้าวจะมีสาร โอรีซานอล ที่มีการวิจัยว่าช่วยเรื่องชะลอวัย และ ต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นน้ำมันรำข้าวแบรนด์ไหนที่มีปริมาณ โอรีซานอล สูงก็จะมีราคาแพงตามไปด้วย แต่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็สามารถเลือกตามความเหมาะสมได้ 3.น้ำมันคาโนล่า ก็ถือว่าเริ่มได้รับความสนใจในบ้านเรามาสักระยะแล้ว และราคาไม่สูงมาก ทำเมนูหลากหลายได้ ทั้งผัดและทอด หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตในบ้านเรา cr. unsplash นี่เป็นน้ำมันปรุงอาหาร 3 ชนิดที่อยากแนะนำ และ เป็นน้ำมันที่เหมาะกับการปรุงอาหารในแบบบ้านเราที่ยังนิยมการทอด การผัด การใช้ไฟแรงในการทำอาหาร เพราะน้ำมันทั้ง 3 ชนิดที่แนะนำมีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูง โครงสร้างโมเลกุลไม่เปลื่ยนเมื่อเจอระดับความร้อนที่สูงและใช้เวลานาน ทุกชนิดที่กล่าวมาจะมี กรดไขมันอิ่มตัวต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระจากตัววัตถุดิบที่นำมาสกัด มีโอเมก้าที่จำเป็นกับร่างกาย แม้ว่าทั้งสามชนิดจะมีราคาแพง แต่เราสามารถเลือกเปรียบเทียบคุณภาพ ราคา จากแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ ได้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม แต่หากใครคิดว่าแพงไป เวลาซื้อน้ำมันพืชทั่ว ๆไป แนะนำให้เลือกซื้อที่เหมาะกับเมนูผัด และ เมนูทอด ขอให้แยกชนิดการใช้ เพราะแม้ว่าจะเป็นน้ำมันพืชเหมือนกันแต่มันจะมีจุดทนความร้อนได้ต่างกัน และมีผลกับสุขภาพเช่น น้ำมันปล์าม เหมาะกับการทอด น้ำมันถั่วเหลือง , น้ำมันดอกทานตะวัน เหมาะกับการผัด , น้ำมันมะกอกต้องเลือกชนิดเพราะจะมีทั้งทนความร้อนได้ ทนความร้อนไม่ได้ ในบ้านราจะนิยม ชนิด extra virgin จะใช้เป็นน้ำมันสลัดแต่ไม่สามารถโดนความร้อนทั้งผัดและทอด การแยกชนิดน้ำมันปรุงอาหาร จะช่วบลดความเสี่ยงโรคไขมันอุดตันได้ อีกทั้งการใช้ในปริมาณที่พอเหมาะก็จะช่วยควบคุมการรับประทานไขมันเข้าร่างกาย ที่สำคัญน้ำมันทุกชนิดไม่ควรใช้ซ้ำคือถ้า ทอดแล้วน้ำมันเหลือให้ทิ้งอย่าเสียดาย แม้ว่าจะเพิ่งใช้ก็ตามเพราะน้ำมันถูกแปรรูปไปแล้วโดนความร้อนไปแล้วก็ถือว่ามันเปลี่ยนสภาพเปลี่ยนโครงสร้างไปแล้วนั่นเอง cr. unsplash เพิ่มเติมท้ายเรื่อง น้ำมันหมู เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่ทุกครัวเรือนทำได้เอง ซึ่งจริง ๆ ก็มีการถกเถียงกันอยู่ว่าใช้ดีไหม หากให้ตอบตรง ๆ ขึ้นอยู่กับการใช้มากกว่า หากต้องการทอดน้ำมันหมูจะเหมาะมากทอดได้กรอบ และการผัดก็ทำให้อาหารหอมน่ารับประทาน ในอดีตบ้านเราก็ใช้กันมานาน แต่ยุคนี้ไม่นิยมนัก ซึ่งหากมองกันตามความจริง ไม่ว่าจะใช้น้ำมันชนิดไหน แต่ไขมันยังจำเป็นกับร่างกาย การรับประทานอาหารให้หลากหลายสลับกันไปให้ครบ 5 หมู่จะดีที่สุด และใช้เครื่องปรุงทุกชนิดในปริมาณที่พอดี เลือกให้เหมาะกับแต่ละกรรมวิธีการปรุง และ เหมะกับความพร้อมในการจ่ายจะดีที่สุด คลิปความรู้เรื่องน้ำมันปรุงอาหารจาก ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล youtube