วันนี้จะมาแนะนำเมนูของหวานที่ถือว่าเก่าแก่ อีกเมนูหนึ่งนั้นก็คือลอดช่องครับ ไม่ใช่ลอดช่องธรรมดา แต่เป็นลอดช่องสิงคโปร์ครับ พูดถึงลอดช่องทุกคนคงจะรู้จักดี แป้งข้าวเจ้าสีเขียว ใส่น้ำกะทิน้ำตาลโตนด และน้ำแข็ง หอมหวานชื่นใจ อ้าวแล้วลอดช่องสิงคโปร์ล่ะมันคืออะไร มันต่างกันอย่างไง อย่างแรกลอดช่องสิงโปร์ เป็นการคิดค้นประยุกต์มากจากลอดช่องน้ำกระทิ โดยวิธีการทำก็จะใช้แป้งมันสัมปะหลังแทนแป้งข้าวเจ้า ปั้นให้เป็นเส้นผสมสีเขียวจากใบเตย นวดให้เหนียว ซึ่งจะทำให้มีความเหนียวหนึบเคี้ยวแล้วเด้งสู้ฟัน เวลารับประทานก็รับประทานกับน้ำกะทิสด และน้ำเชื่อม ขนุนฉีก น้ำแข็งป่น แล้วทำไมต้องเป็นลอดช่องสิงคโปร์ล่ะ สิงคโปร์มาจากไหน ซึ่งสาเหตุที่พากันเรียกจนติดปาก ต้องย้อนไปเมื่อประมาณ 60 ปีก่อน พศ.2504 โดยมาจากบริเวณที่ตั้งร้านสิงคโปร์โภชนาผู้ที่คิดทำลอดช่องสูตรนี้เป็นเจ้าแรก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงภาพยนต์สิงคโปร์ ชื่อเดิมหรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช และเมื่อลูกค้านัดกันจะไปทานก็มักจะเรียกว่ากันติดปากว่า่ “ไปทานลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์” สุดท้ายก็เรียกสั้นลงจนเป็นคำว่า “ลอดช่องสิงคโปร์”แทน ซึ่งปัจจุบันร้านสิงคโปรโภชนาก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่นะครับ และวันนี้เราก็จะพาไปชิมลองช่องสิงคโปรที่ร้านสิงคโปร์ต้นตำหรับกันครับ เมื่อมามาถึงร้านก็จะเห็นว่าตัวร้านเป็นตึกแถวแบบสมัยก่อน มีป้ายชื่อร้านสิงคโปรตัวใหญ่ๆแขวนอยู่หน้าร้าน เห็นแล้วรับรู้ได้ถึงมนต์ขลังความอร่อยมาอย่างยาวนาน ที่นี่ลูกค้าแน่นร้านแทบจะทั้งวัน ที่ร้านมีขายเพียง2เมนูนะครับ คือลอดช่องสิงคโปร์ กับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู และแล้วพระเอกของเราก็มาครับ มาในแก้วก้นจีบแบบโบราณ โป๊ะน้ำแข็งมาเต็มแก้ว แค่เห็นก็ชื่นใจแล้วครับก่อนทานจะต้องคนๆคุลกเคล้า ให้น้ำแข็งและน้ำหวานผสมเข้ากันก่อนนะครับ แล้วจึงเริ่มทานได้ เริ่มจากซดน้ำก่อน มันช่างหอมหวาน เย็นสดชื่นจริงๆครับ จากนั้นก็ตักเส้นลอดช่องเข้าปาก อร่อยสมคำร่ำลือจริงครับเส้นเหนียวนุ่ม หนึบๆ กัดแล้วสู้ฟัน เมื่อรวมกับน้ำกะทิด้วยแล้วมันเข้ากันได้เป็นอย่างดีครับ เผลอเดี๋ยวเดียวหมดแก้วแล้ว ไม่ลังเลครับต้องซ้ำแก้วที่สองต่อเลยครับ ถ้าไม่ติดคำขอคั่งของหมอที่ให้ลดน้ำหนักแล้ว ผมว่ามีแก้วที่สามแนนอนครับ สำหรับคนที่ยังไม่เคยมาชิมผมว่านี้น่าจะเป้นเมนูที่ต้องมาชิมสักครั้งก่อนตายเลยครับ แล้วจะรู้ว่าต้นตำหรับมันดีอย่างไง สำหรับคนที่จะมาชิมนะครับเนื่องจากร้านนี้ อยู่บนถนนเจริญกรุงถ้าขับรถไปอาจจะหาที่จอดยากหน่อยนะครับ แต่ถ้ารถจักรยานยนต์ก็จอดได้ที่หน้าร้านครับ ส่วนรถไฟฟ้าก็มาขึ้นที่สถานนีวัดมังกรได้นะครับ แล้วเดินต่อมาอีกประมาณ800เมตร ราคา : แก้วล่ะ 28 บาท พิกัด : 13.739981, 100.512293