วิธีเลือกซื้อพริกป่น แบบไหนดี ไม่ขึ้นรา มีคุณภาพ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล เรื่องความเผ็ดกับอาหารไทยเป็นของคู่กันค่ะ โดยความเผ็ดในเมนูต่างๆ อาจได้มาจากพริกสดแบบโขลก พริกสดที่เป็นลูกโดด หรือแม้แต่พริกป่น ซึ่งพริกป่นเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราขดไม่ได้ในครัวค่ะ เพราะสามารถนำมาเพิ่มความเผ็ดในอาหารได้หลากหลาย ง่าย ราคาไม่แพงมาก และจัดเก็บก็สะดวกแบบง่ายๆ ด้วยค่ะ และถ้าจะพูดถึงการเลือกซื้อพริกป่นแบบคุณภาพดี และมีความเผ็ดตามธรรมชาตินั้น หลายคนอาจจะยังมองภาพไม่ออก โดยสถานการณ์หนึ่งที่เราหลายคนอาจพบเจอมาคล้ายๆ กัน ก็คือ พริกป่นไม่เผ็ด พอไม่เผ็ด ก็ไม่เป็นสับปะรดค่ะ ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าพริกป่นเผ็ดเป็นแบบไหน ลักษณะยังไงไม่เสี่ยงกับเชื้อรา ถ้าจะต้องเลือกซื้อแบบที่มีบรรจุภัณฑ์ควรทำยังไงดี ต้องอ่านต่อให้จบค่ะ เพราะในบทความนี้มีคำตอบมาให้แล้ว กับข้อมูลที่น่าสนใจต่อไปนี้ 1. พิจารณาจากชื่อเสียง การเลือกซื้อพริกป่นจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพ เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าพริกป่นที่คุณเลือกซื้อนั้นมีคุณภาพดี สะอาด และปลอดภัยต่อการบริโภคค่ะ เพราะว่าแบรนด์หรือร้านค้าหรือแม่ค้าที่มีชื่อเสียงมักจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า และมีมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด เพื่อรักษาชื่อเสียง และมักจะคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้ได้พริกป่นที่มีคุณภาพดี สีสวย กลิ่นหอม และรสชาติเผ็ดร้อน หากเคยซื้อพริกป่นยี่ห้อใดแล้วรู้สึกว่ามีคุณภาพดี ก็สามารถเลือกซื้อยี่ห้อนั้นได้อีก 2. สังเกตสี การสังเกตสีของพริกป่นเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยบ่งบอกคุณภาพและความสดใหม่ของพริกป่นได้ในเบื้องต้น การสังเกตสีเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อพริกป่น โดยพริกป่นที่ดีควรมีสีแดงสดมักจะเป็นพริกป่นใหม่ ที่ทำจากพริกแห้งคุณภาพดี และผ่านกระบวนการผลิตที่เหมาะสม พริกป่นสีแดงสดมักจะมีรสชาติเผ็ดร้อน และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่น่ารับประทาน สีของพริกป่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามระยะเวลา และวิธีการเก็บรักษา พริกป่นที่มีสีซีดคล้ำ หรือมีสีดำปน มักจะเป็นพริกป่นที่เก็บไว้นาน หรืออาจจะผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่เหมาะสม ทำให้คุณภาพของพริกป่นลดลง พริกป่นที่มีสีดำปน อาจเป็นสัญญาณของการเกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 3. ดูสิ่งแปลกปลอม สิ่งแปลกปลอมในพริกป่นเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ฝุ่นผงที่ปะปนมาในพริกป่นอาจมาจากสภาพแวดล้อมในการผลิตที่ไม่สะอาด หรือจากกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เศษไม้อาจปะปนมาในพริกป่นได้หากใช้เครื่องบดที่ไม่เหมาะสม หรือหากมีการปนเปื้อนจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต แมลงต่างๆ เช่น มด แมลงวัน หรือแมลงปีกแข็ง อาจเข้าไปในกระบวนการผลิตได้หากไม่มีการควบคุมและป้องกันอย่างเหมาะสม พริกป่นบางยี่ห้ออาจมีการผสมสิ่งปลอมปนอื่นๆ เพื่อเพิ่มปริมาณ หรือลดต้นทุนการผลิต เช่น แป้ง ข้าว หรือสีผสมอาหาร ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หากบริโภคในปริมาณมาก สิ่งแปลกปลอมในพริกป่นอาจทำให้รสชาติและกลิ่นของอาหารเปลี่ยนแปลงไป ทำให้อาหารไม่อร่อยหรือไม่น่ารับประทาน พริกป่นที่มีราคาถูกมากเกินไป อาจมีคุณภาพไม่ดี หรืออาจมีสิ่งปลอมปน 4. ประเมินความร่วน การสังเกตความสม่ำเสมอของพริกป่นเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยบ่งบอกคุณภาพและความสดใหม่ของพริกป่นได้ในเบื้องต้น โดยพริกป่นที่ดีควรมีลักษณะร่วน ไม่จับตัวเป็นก้อน ซึ่งบ่งบอกว่าพริกป่นมีความแห้ง และไม่มีความชื้น พริกป่นที่มีลักษณะร่วนมักจะเป็นพริกป่นใหม่ ที่ทำจากพริกแห้งคุณภาพดี และผ่านกระบวนการผลิตที่เหมาะสม พริกป่นที่จับตัวเป็นก้อน มักจะมีความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามการจับตัวเป็นก้อนของพริกป่น อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความชื้น การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งคุณภาพของพริกป่นเอง การสังเกตความสม่ำเสมอเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อพริกป่น 5. รสชาติเผ็ดร้อน รสชาติเผ็ดร้อนเป็นคุณสมบัติเด่นของพริกป่น ซึ่งเกิดจากสารประกอบตามธรรมชาติที่ให้ความเผ็ดในพริก พริกแต่ละสายพันธุ์มีปริมารของสารดังกล่าวแตกต่างกัน จึงทำให้มีความเผ็ดร้อนไม่เท่ากัน สภาพแวดล้อมในการปลูก เช่น ดิน น้ำ และแสงแดด มีผลต่อความเผ็ดของพริก อีกทั้งวิธีการผลิตพริกป่น เช่น การตากแห้ง การคั่ว และการบด มีผลต่อรสชาติและความเผ็ดของพริกป่น ในสถานการณ์จริงการสังเกตว่าพริกป่นเผ็ดหรือไม่เผ็ดนั้น อาจทำได้ยากกว่าพริกสด เนื่องจากลักษณะภายนอกที่บ่งบอกความเผ็ดร้อนจะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากการบดเป็นผง อย่างไรก็ตามยังพอมีวิธีสังเกตได้ ดังนี้ค่ะ พริกป่นที่มีสีแดงสด มักจะมีความเผ็ดร้อนมากกว่าพริกป่นที่มีสีแดงคล้ำ พริกป่นที่มีสีส้ม อาจจะมีความเผ็ดร้อนปานกลาง พริกป่นที่มีสีน้ำตาล อาจจะมีความเผ็ดร้อนน้อย หรืออาจจะไม่เผ็ดเลย พริกป่นที่เผ็ดมักจะมีกลิ่นฉุนและแรงกว่าพริกป่นที่ไม่เผ็ด ชื่อของพริกป่นบางชนิดก็สามารถบ่งบอกถึงความเผ็ดได้ เช่น พริกป่นจากพริกขี้หนู มักจะมีความเผ็ดมาก และตัวอย่างของพริกป่น ได้แก่ พริกป่นจากพริกขี้หนู: มีรสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสเผ็ด พริกป่นจากพริกชี้ฟ้า: มีรสชาติเผ็ดร้อนปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสเผ็ดไม่มากนัก พริกป่นจากพริกหวาน: มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย หรือไม่มีรสเผ็ดเลย ใช้สำหรับแต่งสีและกลิ่นของอาหาร 6. ซื้อในปริมาณน้อยก่อน พริกป่นมีอายุการเก็บรักษาจำกัด หากซื้อในปริมาณมาก อาจใช้ไม่หมดและหมดอายุก่อน ทำให้ต้องทิ้งไป พริกป่นที่สดใหม่จะมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีกว่า การซื้อในปริมาณน้อยๆ จะช่วยให้เราได้ใช้พริกป่นที่สดใหม่เสมอ ความเผ็ดของพริกป่นอาจไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของพริก วิธีการผลิต และระยะเวลาการเก็บรักษา การซื้อในปริมาณน้อยๆ ก่อนจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าพริกป่นที่เราซื้อมามีความเผ็ดตรงตามที่เราต้องการ ความชอบในรสชาติและความเผ็ดของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนอาจชอบพริกป่นที่มีรสเผ็ดร้อนจัดจ้าน ในขณะที่บางคนอาจชอบรสเผ็ดอ่อนๆ หรือไม่เผ็ดเลย การซื้อในปริมาณน้อยๆ ก่อนจะช่วยให้เราได้ทดลองรสชาติและความเผ็ดของพริกป่นก่อนตัดสินใจซื้อในปริมาณมาก พริกป่นเป็นเครื่องเทศที่ไวต่อความชื้น หากเก็บรักษาไม่ดี อาจทำให้เกิดเชื้อราขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การซื้อในปริมาณน้อยๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อรา เนื่องจากเราจะใช้พริกป่นหมดก่อนที่จะหมดอายุหรือขึ้นรา การซื้อพริกป่นในปริมาณน้อยๆ จะช่วยให้เราได้ลองพริกป่นหลายชนิด เพื่อหารสชาติและความเผ็ดที่เราชอบ พริกป่นแต่ละชนิดอาจเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน การซื้อในปริมาณน้อยๆ จะช่วยให้เรามีพริกป่นหลายชนิดไว้ใช้สำหรับปรุงอาหารที่หลากหลาย 7. ดูวันหมดอายุ การดูวันหมดอายุของพริกป่นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าพริกป่นยังคงมีคุณภาพดีและปลอดภัยสำหรับการบริโภค โดยทั่วไปแล้ว พริกป่นจะมีอายุการเก็บรักษาประมาณ 12-24 เดือน แต่ก็อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น วิธีการผลิต วิธีการเก็บรักษา และยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ วันหมดอายุที่ระบุบนฉลากเป็นวันที่แนะนำว่าพริกป่นควรบริโภคก่อนวันนั้น เพื่อให้ได้รสชาติและคุณภาพที่ดีที่สุด วิธีการดูวันหมดอายุของพริกป่น มีดังนี้ ตรวจสอบฉลาก: มองหาคำว่า "วันหมดอายุ" หรือ "Best By" บนฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักจะระบุเดือนและปีที่พริกป่นควรบริโภคก่อน สังเกตลักษณะภายนอก: หากพริกป่นมีสีที่เปลี่ยนไป เช่น สีซีดลงหรือคล้ำขึ้น มีกลิ่นเหม็นอับ หรือมีสิ่งแปลกปลอมปะปน เช่น ฝุ่นผง เศษไม้ หรือแมลง ก็ไม่ควรบริโภค แม้ว่าวันหมดอายุจะยังไม่ถึงก็ตาม ดมกลิ่น: พริกป่นที่หมดอายุแล้วมักจะมีกลิ่นที่เปลี่ยนไป อาจมีกลิ่นเหม็นหืน หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ชิมรส: หากไม่แน่ใจว่าพริกป่นยังใช้ได้หรือไม่ ลองชิมรสดู หากรสชาติเปลี่ยนไป เช่น รสชาติไม่เผ็ดร้อนเหมือนเดิม หรือมีรสชาติแปลกปลอม ก็ไม่ควรบริโภค 8. ดูการเก็บรักษาพริกป่นก่อนซื้อ การสังเกตการเก็บรักษาพริกป่นก่อนซื้อเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าพริกป่นมีคุณภาพดี สดใหม่ และปลอดภัยสำหรับการบริโภค บรรจุภัณฑ์ควรสะอาด ไม่มีรอยเปื้อน หรือรอยฉีกขาด บรรจุภัณฑ์ควรปิดผนึกอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันความชื้นและอากาศเข้าไป บรรจุภัณฑ์ควรทำจากวัสดุที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาอาหาร เช่น แก้ว หรือพลาสติกที่ได้มาตรฐาน สถานที่วางจำหน่ายควรสะอาด และมีการจัดเก็บสินค้าอย่างเหมาะสม ควรเลือกซื้อพริกป่นที่วางจำหน่ายในที่แห้ง และเย็น ไม่ควรวางจำหน่ายในที่ที่มีความร้อน หรือแสงแดดส่องถึง ก็จบแล้วค่ะ กับ 8 วิธีการเลือกพริกป่นสำหรับนำมาใส่ในเมนูต่างๆ พริกป่นเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเลือกซื้อประจำค่ะ โดยมีร้านประจำหลายร้านที่ไว้ใจได้ว่า ได้พริกป่นเผ็ดร้อน ทำใหม่ๆ และคุณภาพดี ไม่ขึ้นราค่ะ ที่เป็นพริกป่นที่ทำขึ้นเองของคนในชุมชน สำหรับพริกป่นแบบซองสำเร็จรูปไม่เคยซื้อค่ะ แต่เคยได้รับตอนซื้อก๋วยเตี๋ยวหรือเย็นตาโฟบ้าง และก็พอจะมองภาพออกว่าต้องสังเกตอะไร ถ้าเป็นแบบซองมักดูวันหมดอายุก่อนเลยอันดับแรก แล้วก็ดูสีของพริกป่นค่ะ สำหรับการซื้อพริกป่นที่ตลาดนั้น ส่วนมากซื้อถุงละ 10 บาท ไม่ได้ประหยัดค่ะ แต่การซื้อทีละน้อยคือกลยุทธ์ป้องกันการเสื่อมคุณภาพของพริกป่น ที่มักสังเกตสีของพริกป่นด้วย และเขย่าถุงเพื่อประเมินว่าพริกป่นจับกันเป็นก้อนหรือเปล่าค่ะ โดยเคล็ดลับที่ผู้เขียนใช้มานั้น คุณผู้อ่านก็สามารถทำตามได้ รวมไปถึงเคล็ดลับอื่นๆ ในบทความนี้ ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับสถานการณ์ของตัวเองค่ะ และผู้เขียนหวังว่าเนื้อในบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้กับคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน 11 วิธีเลือกแคบหมูใหม่ ไม่เหม็นหืน ดูยังไงดี และน่าซื้อ ซื้อถั่วลิสงคั่วหรืออบแล้ว เลือกยังไงดี มีคุณภาพ และน่าซื้อ วิธีเลือกเนื้อหมู ดูยังไงดี สดใหม่ มีคุณภาพ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !