มะเขือเทศ ผลไม้เนื้อสีแดงสด รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ที่หลายคนต่างก็ต้องคุ้นเคย บางคนชอบกินมะเขือเทศมากๆ จนถึงขั้นสามารถกินมะเขือเทศสดๆ หรือดื่มน้ำมะเขือเทศได้เลยก็มี หรือบางคนก็ชอบกินอาหารที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ เช่น ซุปมะเขือเทศ สปาเกตตีซอสมะเขือเทศ หรือจะเป็นเมนูน้ำพริกอ่อง ขนมจีนน้ำเงี้ยวของภาคเหนือที่ใส่มะเขือเทศเพื่อช่วยชูความอร่อยแบบเน้นๆ วันนี้เรามีข้อมูลน่ารู้ของมะเขือเทศมาฝากเพื่อนๆ กันจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ 1.เดิมมะเขือเทศเป็นผลไม้ที่เกิดขึ้นในป่า มะเขือเทศแต่เดิมนั้นเป็นผลไม้ที่เกิดขึ้นตามป่าเขาในเขตทวีปอเมริกาใต้ และที่มากไปกว่านั้นคือมีความเชื่อกันว่ามะเขือเทศเป็นพืชที่มีพิษจึงไม่ได้นำมะเขือเทศมาใช้บริโภค ในยุคแรกๆ จึงนิยมนำต้นมะเขือเทศมาปลูกประดับสวนเพราะผลสีแดงสดทำให้สวนดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ก่อนที่ในเวลาผ่านไปอีกหลายร้อยปีจึงเริ่มมีการทดลองกินมะเขือเทศดูและพบว่าไม่มีพิษ ทำให้ผู้คนหันมากินมะเขือเทศกันมากขึ้นก่อนที่จะกำเนิดเมนูมะเขือเทศออกมามากมาย 2.มะเขือเทศเป็นผลไม้ ไม่ใช่ผักแน่นอนว่าเรามักคุ้นชินกับการจัดกลุ่มมะเขือเทศเอาไว้ในกลุ่มของผักเพราะเรามักจะพบมะเขือเทศในเมนูอาหารคาวอยู่บ่อยๆ เช่น ส้มตำ ต้มแซ่บ เมนูพาสต้า สปาเกตตีต่างๆ แต่ความจริงแล้วนั้นมะเขือเทศจัดอยู่ในกลุ่มของผลไม้ หากจำแนกออกตามหลักพฤกษศาสตร์ ผลของมะเขือเทศนั้นเจริญเติบโตมาจากดอก ด้านในของมะเขือเทศมีเมล็ดกระจายอยู่จนทั่ว ทำให้ทางเทคนิคแล้วมะเขือเทศจึงจัดอยู่ในกลุ่มของผลไม้นั่นเอง 3.มะเขือเทศมีมากกว่า 10 สายพันธุ์ยอมรับกันเสียดีๆ ว่าใครเคยคิดว่ามะเขือเทศสีแดงๆ นั้นเหมือนกันหมด แต่ความจริงแล้วนั้นมะเขือเทศแบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์เลยละ โดยแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะรูปทรงของผลที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรสชาติความเปรี้ยวหวานก็ไม่เหมือนกัน เช่น มะเขือเทศเชอร์รี ลูกกลมเล็ก รสหวานนำที่นิยมนำมากินแบบสดๆ กินคู่สลัด มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศสีแดงอมส้ม ผลขนาดเล็ก มีรสชาติเปรี้ยวนำและหลานเล็กน้อย เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยในเมนูส้มตำของไทย มะเขือเทศอิตาลี ลูกกลมโตมีลักษณะเป็นพูคล้ายฟักทอง โดยนิยมเอาไปทำเป็นซอสมะเขือเทศในเมนูพาสต้า และนอกจากนี้ก็ยังมีมะเขือเทศสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย 4.การกินมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะได้ประโยชน์สูงขึ้นการนำมะเขือเทศไปผ่านความร้อนก่อนนำมารับประทานจะช่วยให้เราได้สารไลโคปีนมากขึ้นเพราะความร้อนจะช่วยให้การจับยึดของสารไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง เวลาเรากินมะเขือเทศที่ปรุงสุกแล้วก็จะช่วยให้ได้รับสารไลโคปีนมากกว่าการกินแบบผลสด ซึ่งเจ้าสารไลโคปีนในมะเขือเทศนั้นมีประโยชน์มากมายทั้งช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร อย่างเมนูที่นำมะเขือเทศไปผ่านความร้อนที่หากินได้ง่ายๆ เราแนะนำเป็นเมนูต้มแซ่บ ต้มยำของไทยๆ ที่จะมีการใส่มะเขือเทศลงไปด้วย ทั้งอร่อย ทั้งได้ประโยชน์แบบเน้นๆ 5.ควรระมัดระวังการกินมะเขือเทศที่ยังเป็นสีเขียวให้ดีมะเขือเทศผลสีเขียวที่ยังไม่สุกดี ไม่สุกเต็มที่ มีสารโซลานินอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งหากเรารับประทานมะเขือเทศสีเขียวเข้าไปในปริมาณมาก ก็อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ กระเพาะอาหารเกิดอาการระคายเคือง อาเจียนและส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจจนทำให้หมดสติได้ ดังนั้นจึงควรเลือกกินมะเขือเทศที่สุกแล้วจะปลอดภัยกว่าหรือการกินมะเขือเทศสีเขียว มะเขือเทศที่ยังไม่สุกดีก็ควรกินแต่น้อย 6.วิธีเลือกมะเขือเทศที่สดใหม่ รสชาติเปรี้ยวหวานเต็มที่สำหรับวิธีการเลือกซื้อมะเขือเทศ ให้เลือกลูกที่ผลแน่น ผิวด้านนอกเรียบลื่น เต่งตึงเป็นมันวาว ไม่มีรอยแตก รอยแผล รอยดำที่ด้านนอกของผล เมื่อใช้นิ้วสัมผัสเบาๆ เนื้อของมะเขือเทศจะต้องแน่นตึง ไม่เหลว ไม่ช้ำ สีของมะเขือเทศจะต้องสม่ำเสมอกันดีทั่วทั้งหัว ส่วนตัวเราเองก็เป็นคนอีกคนที่ชอบกินมะเขือเทศเช่นเดียวกันค่ะ ทั้งการซื้อมะเขือเทศผลสดๆ มาจิ้มกินกับพริกเกลือ หรือหากเมนูอาหารไหนที่ใส่มะเขือเทศมาด้วยก็จะกินจนหมดไม่มีเหลือเพราะมะเขือเทศนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายอย่าง ยิ่งเดี๋ยวนี้ก็ยิ่งสะดวกมากขึ้นเพราะมีน้ำมะเขือเทศพร้อมดื่มให้เราเลือกรับประทานหลากหลายยี่ห้อ บอกได้เลยว่าได้รับคุณประโยชน์จากมะเขือเทศได้แบบเต็มๆ ภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย stockking จาก freepik แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !