วันนี้ ผู้เขียนอยากนำเสนอเมนูที่ท้าทาย ฝีมือของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่ชอบแกงที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ สำหรับผู้เขียนแล้วปกติจะเป็นคนที่ชอบอาหารที่ทำจากกะทิ ทั้งอาหารคาว และ อาหารหวาน โดยเฉพาะ ขนมจีนน้ำยากะทิ แกงเขียวหวาน แกงมัสมัน แกงผักเหมียงต้มกะทิ หรือ ผักเหมียงต้มทิ ที่ชาวปักษ์ใต้ เรียกกัน ล้วนแล้วแต่อร่อย ๆ กันทั้งนั้น ท้องถิ่นทางภาคใต้ จะเป็นพื้นที่ที่มีต้นมะพร้าวเยอะ จึงหามะพร้าวมาทำกะทิได้ง่ายเช่นกัน ยิ่งได้คั้นแบบสด ๆ ก็จะยิ่งอร่อยหวานมันเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น แต่ในปัจจุบัน กะทิบรรจุกล่องก็มีกันเยอะแยะ หาได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11 มีมากมายหลากหลายยี่ห้อแล้วแต่ละคนจะชอบ ส่วนประกอบสำหรับเมนู แกงเทโพ ปลาเค็มและหมูสามชั้น -หมูสามชั้น -ปลาเค็ม -เครื่องแกงกะทิ/เครื่องแกงเผ็ด -กะปิ -น้ำกะทิ -ผักบุ้ง -ส้มแขก -น้ำปลา ก่อนจะมาถึงขั้นตอนในการลงมือทำ ผู้เขียนขออธิบายเกี่ยวกับส่วนประกอบอีกสักเล็กน้อย เนื่องจากว่า ถ้าจะให้แกงเทโพของเราอร่อยแล้วนั้น ส่วนประกอบที่เราเตรียมมาควรจะมาจากแหล่งที่สะอาดสักหน่อย ทั้งหมูสามชั้น ทั้งเนื้อปลาเค็มตากแห้ง และกะทิ หากเราหากะทิไม่ได้ จะซื้อที่ร้านคั้นสดก็ควรดูให้ดี ๆ นะครับ หากไม่สดไม่สะอาดจริง ๆ แกงของเราอาจจะเสียและบูดได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว บางร้านแม้จะใช้เครื่องขูดแต่การขูดทั้งวันไม่มีการดูแลเลยก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน หรือหากหากะทิสดไม่ได้จริง ๆ ก็ ใช้กะทิกล่องก็ได้ครับ แม้รสชาตินั้นจะสู้กะทิสดไม่ได้ อีกอย่างคือเครื่องแกง จะใช้เครื่องแกงเผ็ด หรือ เครื่องแกงกะทิก็ได้เช่นเดียวกัน หรือใครมีฝีมือจะตำเครื่องแกงเองก็ได้นะครับ เครื่องแกงก็มีส่วนสำคัญมาก ๆ เช่นเดียวกัน เรามาลงมือทำกันเลยครับว่าขั้นตอนในการปรุง เป็นยังไงบ้าง ขั้นตอนที่ 1 ล้างปลาเค็มสัก 1 น้ำให้สะอาด เพื่อเป็นการลดความเค็มที่อยู่ในเนื้อปลาลงไปในตัวด้วย แล้วฉีกหรือตัดเป็นชิ้นพอประมาณ พักไว้ หมูสามชั้นนั้น ล้างเช่นเดียวกัน แล้วนำมาหั่น เป็นชิ้นพอดีคำ ไม่หนามากไม่บางมากจนเกินไป ควรให้มีสัดส่วนของมันหมูกับเนื้อหมูให้พอ ๆ กัน ส่วนผักบุ้งนั้น ล้างด้วยน้ำเกลือให้ดี เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเก็บมาจากไหน อาจจะมีไข่พยาธิ หรือไข่แมลง ไข่ปลิงอยู่ก็ได้ ถ้ามีด่างทับทิมในการล้างผักบุ้งจะดี จะได้สะอาดแถมปลอดภัยอีกด้วย เมื่อล้างแล้วก็นำมาหั่นชิ้นยาวประมาณ 1 นิ้ว ใส่จานพักไว้ ขั้นตอนที่ 2 ตั้งหม้อ เทน้ำหัวกะทิ ลงไปอย่าเทหมด เหลือไว้ใส่ทีหลังด้วยนะครับ ใช้ไฟปานกลาง อย่าลืมคนเรื่อย ๆ ด้วยครับ เพื่อให้กะทิแตกมัน ถ้าไม่คอยคนกะทิจะจับตัวเป็นก้อน ๆ ไม่น่ากิน เมื่อกะทิแตกมันดีแล้วให้ใส่เครื่องแกงกะทิหรือเครื่องแกงเผ็ดลงไป ตามด้วยใส่ส้มแขกลงไป ใครมีน้ำมะขามเปียกก้ใส่ลงไปได้เลยครับ ขั้นตอนที่ 3 เมื่อเครื่องแกงละลายดีแล้ว และน้ำเดือดแล้ว ให้เทหมูสามชั้นลงไปได้เลย เนื่องจากว่าจะสุกยากกว่าอย่างอื่น ขั้นตอนที่ 4 เมื่อหมูสามชั้นสุกดีแล้ว ให้เทปลาเค็มแห้งที่เราแยกออกเป็นชิ้นใส่ลงไป คนให้เข้ากันกับน้ำแกง ขั้นตอนที่ 4 การปรุงรส ให้ใส่น้ำตาล น้ำปลา ลงไปแล้วชิม ให้ได้รสชาติที่ต้องการ น้ำปลาอย่าใส่เยอะนะครับ เพราะปลาเค็มจะมีความเค็มอยู่แล้ว น้ำตาลเช่นกันใส่แค่นิดเดียวก็พอครับ เพราะในกะทิก็มีความหวานมันอยู่แล้วในตัวครับ ขั้นตอนสุดท้ายคือใส่ผักบุ้งลงไปจะปิดไฟเลยก็ได้ครับเพราะความร้อนที่มีอยู่ทำให้ผักบุ้งสุกได้อยู่แล้ว จะได้ไม่เหี่ยวจนเกินไป ขั้นตอนที่ 5 เมื่อปรุงเสร็จเรียบร้อย ผักบุ้งสุกได้ที่แล้ว ตักใส่จาน ได้เลย ถึงเวลากินแกงเทโพกับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วครับ ต้องมีผักสักหน่อย อร่อยเข้ากัน ๆ จะบอกเคล็ดลับให้ครับ ถ้าได้ขนมจีนด้วยนะ สุดยอดเลยหล่ะครับ ผู้เขียนชอบกินขนมจีนกับน้ำแกง เช่น น้ำแกงส้ม น้ำแกงกะทิอะไรก็ได้ เอามาราดขนมจีนกินได้หมด ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาขนมจีนเลย อร่อยได้เหมือนกัน ลองกินดูครับ สูตรผู้เขียน รับประกันความอร่อย... จะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย กับการทำ เมนูแกงเทโพปลาเค็มและหมูสามชั้น อยู่ที่การใส่ใจในการปรุง ต้องใจเย็น ๆ สิ่งที่ต้องระวังให้มาก ๆ คือ ความเค็ม เพราะอย่าลืมไปว่าเรามีปลาเค็มแห้งใส่ลงไปด้วยแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใส่น้ำปลาให้มากนักครับ ส้มแขกหากใครไม่ชอบจะใส่น้ำมะขามเปียกลงไปแทนก็ได้นะครับ หรือ บางคนก็ใส่ลูกมะกรูดลงไป จะได้ความหอม ความซ่าของน้ำแกง แถมความขมนิด ๆ อร่อยไปอีกแบบ ผู้เขียนชอบนะใส่ลูกมะกรูด แต่งวดนี้หาลูกมะกรูดไม่ได้เลยได้เท่านี้ไปก่อน แต่ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยครับ ลองไปทำดูกันนะครับ แล้วจะติดใจ... ภาพทั้งหมด โดย ผู้เขียน