สำหรับคนที่พักอยู่หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะทราบกันดีว่า ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงวันของทุก ๆ วันพุธ จะมี “ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษ อาหารปลอดภัย” ที่มีสโลแกนเก๋ ๆ ว่า “ตลาดที่มีชีวิตและลมหายใจ” เปิดขายผัก ผลไม้ อาหารพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์จากชาวบ้าน ผมมักจะมาที่นี่เป็นประจำ แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อย นอกจากซื้อของแล้ว จะพาไปชิมกาแฟสักถ้วย ร้านที่ชื่อค่อนข้างแปลกหู คือ ร้าน “LAPATO” อ่านว่า “เลพาทอ” ซึ่งเป็นชื่อเรียก “ผาแง่ม” ของชาวปกาเกอะญอ ชื่อของหน้าผาบนเขาสูงด้านหลังดอยอินทนนท์ อันเป็นแห่งกำเนิดกาแฟที่ร้านเอามาบริการและถิ่นที่อยู่ภายใต้อ้อมเขาและพงไพรของชาวปกาเกอะญอแห่งบ้านหนองเต่า ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีวิถีชีวิตผูกพันกับผืนป่ามามาเป็นเวลายาวนาน ร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านนี้ ตั้งอยู่สุดโซนขายของใต้ร่วมต้นฉำฉาขนาดใหญ่ มีโต๊ะเพียง 4 ตัวสำหรับรองรับคนมานั่งดื่มครั้งละไม่เกิน 10 คนเท่านั้น บรรยากาศร่มรื่นเป็นกันเอง อุปกรณ์ในการชงก็มีเพียงเตาแก๊ส หม้อต้มน้ำ กาแฟ เครื่องบด เครื่องดริปกาแฟและแก้วกาแฟหลากหลายขนาดเท่านั้น ดู ๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ในความไม่มีนี่แหละมันมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ อันดับแรก มาดูกันก่อนว่ามีเมนูอะไรบ้าง มีอยู่ 4 เมนูให้เลือก คือ 1.กาแฟดำ 2.กาแฟดำใส่นมน้อย 3.กาแฟใส่นมสด 4.โกโก้ มีทั้งแบบร้อนและเย็น แบบร้อนราคาเดียวกันหมดคือ 35 บาท ถ้าแบบเย็นก็ 45 บาท วิธีการชงกาแฟก็เป็นแบบง่าย ๆ คือ ใช้วิธีการชงแบบดริป (Drip Coffee) แค่มีน้ำร้อนกับกาแฟ จะชงที่ไหนก็ได้ โดยการหยดน้ำร้อนผ่านกาแฟในอุณหภูมิที่พอเหมาะ พอได้กาแฟมาแล้วจะเพิ่มอะไรลงไปในกาแฟก็แล้วแต่เมนูและความต้องการของลูกค้า เป็นประสบการณ์ครั้งแรกจริง ๆ ปกติก็สั่งจากร้านที่มีเครื่องชงกาแฟสดเครื่องใหญ่ ๆ ทั้งนั้น มาถึงจุดสำคัญ เนื่องจากผมสั่งแบบลาเต้ร้อนคือกาแฟใส่นมสด สั่งแล้วก็ต้องชิมรสชาติดูหล่ะว่าเป็นไง อันดับแรกคือกลิ่นครับ กลิ่นของกาแฟอบอวลมากแทบจะกลบกลิ่นนมสดจนมิดเลย ดื่มไปอึกหนึ่ง ค่อย ๆ อมแล้วกลืนลงลำคอช้า ๆ นมกับกาแฟกลมกล่อมเข้ากันดี มีปิดท้ายด้วยความเปรี้ยวและขมนิด ๆ พอให้หวนคิดถึงเมล็ดกาแฟสุกสีแดงเข้มน่าลิ้มลอง ผ่านไป 2-3 อึก ผมจึงถามถึงแหล่งเพาะปลูกและความเป็นมา จึงได้รู้ว่า มีประวัติความเป็นมาที่อินดี้และดราม่ามาก เริ่มต้นตั้งแต่กาแฟต้นแรกที่UN (องค์การสหประชาชาติ)เข้ามาสนับสนุนโครงการเมื่อ 40 ปีที่แล้วให้กับรุ่นปู่ย่าและใช้เวลา 3 ปีกว่าจะเก็บเกี่ยวได้ขายได้ ซึ่งไม่สอดคลองกับวิถีชีวิตและความจำเป็นช่วงนั้น จนต้องตัดทิ้งจำนวนมากเพื่อไปปลูกพืชตัวอื่น และแม้ที่หลังจากบ้านจะมีกาแฟหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ชาวบ้านก็มองข้ามกลับนิยมดื่มชงกาแฟ 3 อิน 1 วันแทน ทำให้คนรุ่นใหม่ในหมู่บ้านที่รักบ้านเกิดธรรมชาติและป่าเขา ต้องมารวมตัวกันฟื้นฟูกาแฟตามร่มต้นไม้ใหญ่ในไร่สวนให้กลับมามีชีวิตและเป็นที่ต้องการของตลาดอีกครั้ง ปัจจุบันเป็นเวลา 8 กว่าปีแล้ว ที่ “Lapato Organic Coffee” จากใต้ร่มไม้หัวใจคนรักษ์ป่ารักกาแฟ ยกระดับเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญผู้จัดจำหน่ายเมล็ดกาแฟและเป็นหุ้นส่วนในการหาตลาดควบคู่กับการศึกษาพัฒนาการแปรรูปเมล็ดกาแฟ ร่วมสร้างการเรียนรู้กับชุมชน จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจเกษตรอินทรีย์ตำบลแม่วิน พร้อมกับเปิดร้านเคลื่อนที่ไปตามตลาดนัดเกษตรอินทรีย์และงานที่เข้ากันได้กับสไตล์และวิธีการขายกาแฟของกลุ่ม สำหรับผมแล้ว การดื่มกาแฟที่นี่ นอกจากคุณค่าคือรสชาติกาแฟที่ดีมีคุณภาพ ปลอดภัยไร้สารพิษแล้ว ยังช่วยลดโลกร้อนและประหยัดพลังงานด้วย เพราะนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ทำให้สดชื่น ได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ อากาศโปร่งโล่งเย็นสบายไม่อึดอัด รายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถูกเอาไปเข้ากลุ่มเพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านได้รักป่าอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่อาศัยอยู่แบบพึ่งพาอาศัยและดูแลรักษาป่าที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำให้ได้หล่อเลี้ยงคนพื้นที่ราบลุ่มน้ำปิง วังและเจ้าพระยาทั้งหมด และนั่นทำให้กาแฟ 1 แก้วที่ผมดื่มวันนี้ เท่ากับการช่วยรักษาโลก 1 ใบไว้ด้วยนั่นเอง ที่ตั้ง : บริเวณ ใกล้ประตูโครงการหลวง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดบริการ : ทุกวันพุธ เวลา 06.00-12.00 น. ลิงค์แผนที่จุดขายกาแฟ : https://goo.gl/maps/kAfiV5J65gTMyEd47 ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี