เฉาก๊วยมาแล้วครับเฉาก๊วย ใครที่เคยกินของหวานมักจะติดใจทุกคนโดยเฉพาะขนมหวานแบบไทยใส่น้ำแข็งเย็น ๆ ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ต้องขอบคุณภูมิปัญญาไทยที่ได้คิดค้นขนมอันแสนอร่อยเอาไว้ให้พวกเราได้ลิ้มลองเดียวผมจะเล่าให้ฟังตามมาเลยครับ เฉาก๊วย ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik มีคำอยู่หนึ่งคำมันติดอยู่ในหัวผม เฉาก๊วยมาแล้วครับเฉาก๊วย แก้ร้อนในกระหายน้ำกินแล้วเย็นชื่นใจ "คุ้น ๆ ไหมครับ" คำนี้เราอาจเคยได้ยินบ่อยมันมาจากคนขายเฉาก๊วยช่วงหน้าร้อนเชิญชวนให้เราไปกินเวลาอากาศร้อน ๆ แต่ใช้กับผมได้ทุกครั้งถ้าเจอ หรือได้ยินเสียงต้องมองหาต้นตอของเสียงว่ามาจากตรงไหนเพื่อที่จะไปเสาะแสวงหาเจ้าของเสียงเฉาก๊วยอันแสนหวนเย็นชื่นใจมานั่งชดซักถ้วย ต้นเฉาก๊วย ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik เฉาก๊วยเป็นคล้าย ๆ เยลลี่สีดำทำมาจากพืชชื่อว่าต้นเฉาก๊วยเป็นพืชตระกูลเดียวกับต้นมิ้นของไทยเรานี่เองแต่คนจีนเรียกว่าต้นหญ้าเฉาก๊วยเมื่อสมัยก่อนการทำเฉาก๊วยต้องสั่งต้นเฉาก๊วยมาจากเมืองจีนเนื่องจากยังไม่มีการนำเข้ามาเพาะปลูกในประเทศไทย แต่ปัจจุบันเราสามารถปลูกเองได้แล้วไม่ต้องสั่งนำเข้าต้นเฉาก๊วยการทำเฉาก๊วยก็มีขั้นตอนที่ง่ายนิดเดียวเพียงนำต้นเฉาก๊วยมาต้มเพื่อเอาน้ำเมือกของเจ้าเฉาก๊วยออกมาต้มจนได้สีน้ำตาลออกดำแล้วกรองเอาแต่น้ำต่อจากนั้นนำแป้งมันสำปะหลังผสมลงไปแล้วรอให้แข็งตัวก็จะได้ตัวเฉาก๊วยที่พร้อมนำมาหั่นเป็นก้อน หรือจะขูดให้เป็นเส้น ๆ ก็ยังได้เวลากินผสมน้ำเขื่อมน้ำตาลทายแดงใส่น้ำแข็งลงไปคนให้เข้ากันกินได้เลยเพียงแค่นี้ก็ได้เฉาก๊วยเย็นชื่นใจพร้อมเสริฟแล้ว เฉาก๊วยพร้อมกิน ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik คุณค่าทางโภชนาการของเฉาก๊วยเมื่อผสมน้ำเชื่อม กับ น้ำตาลทรายแดงแล้วจะให้น้ำตาล 7 กรัม, โซเดียม 58 มิลลิกรัม, คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 8.8 กรัม, ให้พลังงานถึง 18 กิโลแคลอรี (โดยประมาณ) ยังมีสรรพคุณทางยาช่วยดับร้อน, แก้คลื่นไส้อาเจียน, แก้ไขข้อและตับอักเสบ, ขับเสมหะลดไข้ (แหล่งอ้างอิง drugsquare.co.th / health.kapook.com) ดูจากประโยชน์กับราคาที่ไม่แพงแล้วแถมยังหากินได้ทั่วไปเป็นขนมหวานแบบไทยช่วงหน้าร้อนที่ใครได้ลิ้มลองจะรู้สึกคลายร้อนดับกระหายเย็นชื่นใจแถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมาะจะหาไว้ติดตู้เย็นเอาไว้กินในช่วงมีอากาศร้อน ๆ แบบนี้ผมว่าเหมาะที่สุดได้กินก็จะติดใจไม่รู้ลืม. ขอบคุณภาพประกอบปกจาก flickr