สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาทุกคนไปทำเมนู แกงแคหมูใส่ฟักทองกันค่ะ เป็นอาหารพื้นบ้านอย่างหนึ่งของทางเหนือ โดยปกติแล้วจะใส่ผักหลากชนิดและไม่ใส่กะทิ แต่สูตรของบ้านผู้เขียนที่ตกทอดจากคุณแม่ คุณยายมานั้น จะใส่กะทิลงไปด้วย!! เป็นเมนูที่บ้านเราทำกินกันบ่อยมาก จะใส่เป็นฟักเขียวหรือมะเขือก็อร่อย อยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่าแกงแคสูตรนี้จะทำอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า สูตรพริกแกง 1. พริกแห้ง 13 เม็ด 2. กระเทียม 1 หัว 3. หอมแดง 2 หัว 4. ตะไคร้ 1 ต้น 5. เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำปลาร้าต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ - นำส่วนผสมทั้งหมดโขลกรวมกันให้ละเอียด เติมน้ำปลาร้า โขลกให้เข้ากัน ส่วนผสม 1. ฟักทอง 300 กรัม 2. เนื้อหมู 200 กรัม 3. ใบชะพลู 6-7 ใบหรือตามชอบ 4. ยอดชะอมตามชอบ 5. กะทิ 150 มล. 6. น้ำสะอาด 1 ลิตร 7. เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ 10. ผงชูรส 1/2 ช้อนชา วิธีทำ 1. ปอกเปลือกฟักทอง หั่นเป็นชิ้น หั่นหมูเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมไว้ 2. ตั้งหม้อใส่กะทิและน้ำสะอาดให้ร้อน ใส่พริกแกง คนให้ละลายเข้ากัน รอเดือด 3. ใส่เนื้อหมูและฟักทอง รอเดือดจนเริ่มสุก 4. ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส ชิม ปรุงเพิ่มตามใจชอบ 5. ใส่ยอดชะอมและใบชะพลูหั่นเป็นชิ้นใหญ่ คนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ เสิร์ฟได้ กลิ่นหอมน่าทานมากๆ เลยล่ะค่ะ มื้อนี้ต้องพุงกางกันอีกแล้วล่ะ อิอิได้รสชาติหวานจากฟักทองน้ำเข้ากันได้ดีมากกับน้ำแกง อร่อยอย่าบอกใครเชียวล่ะ น้ำพริกแกงแคสูตรบ้านเราจะไม่มีส่วนผสมของเครื่องเทศหลากชนิดเหมือนสูตรของล้านนานะคะ และจะไม่นำพริกแกงไปผัด หน้าตาจะคล้ายกับแกงเผ็ด แต่น้ำแกงจะไม่มันเหมือนแกงเผ็ด เพื่อน ๆ ที่อาจไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศเยอะ ๆ ลองนำสูตรนี้ไปทำกินกันดูได้นะคะ รับรองว่าอร่อย รสชาติอาจถูกใจใครหลาย ๆ คนแน่นอนค่ะ Trip ไม่ควรต้มให้ฟักทองสุกจนเกินไ เนื้อจะเละ ไม่อร่อย ต้มแค่พอสุก และการเลือกเนื้อหมู ควรเลือกเป็นส่วนเนื้อติดมัน แกงจะอร่อยมากขึ้น ภาพโดยผู้เขียน ใบมิ้นต์