อาลัวเป็นขนมไทยโบราณที่เป็นที่นิยมกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีความหอม หวานอร่อย และเก็บไว้ได้นาน อีกทั้งชื่อยังน่ารักน่าใคร่ เพราะ “อาลัว” หมายถึง เสน่ห์อันดึงดูดใจ สูตรขนมอาลัวนี้เดิมทีมีต้นกำเนิดมาจากโปรตุเกส และได้รับการปรับปรุงและเผยแพร่สูตรโดยท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ ผู้ซึ่งปรับปรุงและคิดค้นสูตรขนมไทยที่ประยุกต์จากโปรตุเกสมากมาย อาลัวเป็นขนมที่ด้านนอกกรอบ ด้านในนิ่มหนืด ที่ด้านนอกแข็งนั้นเนื่องจากในอาลัวมีน้ำตาลมาก เมื่อนำไปตากแดดแล้ว น้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นเปลือกนอกแข็ง สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน และอาจเพิ่มความหอมของตัวขนมได้โดยการอบควันเทียน สูตรอาลัวชาววังที่นำมาเสนอนี้ ลดน้ำตาลลงจากปรกติแล้ว ไม่สมควรลดเพิ่ม เพราะจะทำให้เปลือกไม่แข็งกรอบ วัตถุดิบ (ทำอาลัวขนาด 2 เซนติเมตรได้ประมาณ 70 -80 ชิ้น) แป้งสาลีอเนกประสงค์ 50 กรัม น้ำตาลทรายขาว 110 กรัม กะทิ 220 กรัม ผงผักสีต่าง ๆ ตามชอบ (สามารถสั่งซื้อได้ตามLazada หรือ Shopee หรือ เฟซบุ๊ก ผักผงชงดื่ม ผักผงทำขนม สูตรธรรมชาติ by Mom & Son Clean Cook ) เทียนสำหรับอบขนม (หากไม่ชอบกลิ่นควันเทียน ไม่ต้องอบก็ได้ ชาวอเมริกันและยุโรปส่วนใหญ่มักไม่ชอบกลิ่นขนมอบควันเทียน ติว่ากลิ่นเหมือนเสื้อผ้าที่รีดแล้ว) วิธีทำ 1. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย และกะทิเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือตีจนเนียน 2. กรองส่วนผสมผ่านกระชอนเพื่อให้เนื้อขนมเนียนที่สุด 3. นำส่วนผสมใส่กระทะเทฟล่อน แล้วนำไปกวนบนไฟอ่อนจนส่วนผสมไม่ติดกระทะ เนื่องจากสูตรนี้ทำน้อย ใช้เวลากวนประมาณ 5 นาทีก็เสร็จแล้ว 4. นำส่วนผสมแบ่งเป็นส่วน ๆ ตามสีที่จะผสม ในตัวอย่างทำ 3 สี คือ สีม่วงจากผงมันม่วง สีเหลืองจากผงฟักทอง และสีส้มจากผงแครอท จึงแบ่งส่วนผสมออกเป็น 3 ส่วน แล้วนำไปผสมผงผัก อย่างละ 1 ช้อนชา (อาจผสมมากกว่า หรือน้อยกว่าเพื่อให้ได้ระดับความเข้มของสีที่ต้องการ) 5. นำถุงบีบใส่หัวบีบรูปดาว จากนั้นใส่แป้งลงในถุงบีบ นำไปบีบใส่ถาดให้ได้อาลัวขนาดฐานกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร 6. นำอาลัวออกไปผึ่งแดดให้ด้านนอกกรอบ แห้ง หากแดดแรง และร้อนจัด ประมาณแดดเดียว หรือ 2 แดดก็แห้งแล้ว แต่หากอากาศไม่ร้อนมาก อาจต้องตากถึง 3 - 4 แดด 7. แกะอาลัวออกจากถาดแล้วนำไปอบควันเทียน 20 – 30 นาที จากนั้นนำใส่ภาชนะปิดสนิท เก็บไว้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เคล็ดลับ: 1. หากไม่ใส่ผงผัก จะใส่สีผสมอาหารทั่วไปก็ได้ 2. หากไม่มีเทียนสำหรับอบควันเทียน ให้ตัดสัดส่วนกะทิออกครึ่งหนึ่ง แล้วแทนด้วยกะทิอบควันเทียนให้ครบส่วน เมื่อตากแดดแห้งเสร็จไม่ต้องอบควันเทียน เก็บใส่โหลได้เลย ภาพโดยผู้เขียน