วัดแจ้ง ถ้าพูดถึงชื่อนี้หลายคนอาจจะเคยได้ยิน แต่สงสัยว่าวัดนี้อยู่ตรงส่วนไหนของกรุงเทพ ถ้าเราจะบอกใบ้คุณต่อไปอีกนิดนึงว่า วัดแจ้งคือวัดเดียวกันกับวัดอรุณ หรือชื่อเต็มคือ วัดอรุณราชวราราม (Temple of Dawn) ที่มีพระปรางค์อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถพบเห็นได้ในเว็บไซต์ท่องเที่ยวไทย หรือจากอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย เราคิดว่าทุกคนน่าจะพอนึกภาพ วัดแจ้งออกขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก นี่คือวิวของวัดแจ้งที่เราพูดจะถึงในวันนี้ วัดแจ้ง หรือวัดอรุณ (ขออนุญาติเรียกชือย่อ) เป็นวัดที่เป็นแลนด์มาร์ค ที่ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ บอกเลยว่า ถ้าคุณมาเที่ยวเมืองไทยแล้วไม่มาชมวัดอรุณ ถือว่ามาไม่ถึงกรุงเทพ พระปรางค์วัดอรุณ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบจากจีน ถ้วยชามเบญจรงค์ เปลือกหอยนานาชนิด และรูปปั้นยักษ์ ซึ่งผู้อ่านบางคนอาจจะได้ยินเรื่องเล่ายักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์รบกัน ทำลายสิ่งที่ขวางหน้าจนเตียนราบ ซึ่งเป็นตำนานที่เล่าถึงที่มาของย่านท่าเตียน ยักษ์วัดแจ้งนี้ คือยักษ์เฝ้าประตูของวัดอรุณนั่นเอง ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนโบราณสามารถอธิบายเรื่องราวของสิ่งต่างๆได้อย่างน่าฟังเสมอ ลายแทงทั้ง 3 ร้านนี้ ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ทุกร้านเป็นร้านที่เราไปมาจริง ชอบมากจริงๆ ร้านย่านนี้มีเรียงกันไปแทบจะทุกมุมริมแม่น้ำ วิวสุดฮิตขวัญใจมหาชนผู้ต้องการมาเสพอรรถรสในเวลากินข้าวหรือนั่งดื่ม คือ ภาพของพระปรางค์วัดอรุณ ที่โผล่พ้นมาจากแม่น้ำทางฝั่งธนบุรี ท่ามกลางบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งถ้าเป็นเวลาโพล้เพล้ แดดร่มลมตกใกล้เวลาหัวค่ำ แสงสีบนท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นส้มอมแดง บอกเลยว่าแม้แต่คนที่ไม่ซาบซึ้งกับธรรมชาติ ยังต้องงัดกล้องถ่ายรูปออกมาถ่าย แต่ละร้านวิวพระปรางค์อาจจะคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างเล็กๆจากมุมมองของแต่ละร้าน เราขอเรียงจากอันดับท็อปในใจคนรีวิว อันดับหนึ่ง ขอยกให้ อโบฟริวา Above Riva ร้านนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้า ของโรงแรม ริว่า อรุณ Riva Arun มุมมองของร้านนี้จะเป็นวิวพานอราม่าของวัดอรุณ ร้านจะสามารถมองเห็นวิวของพระราชวังเดิมสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำการของกองทัพเรือ โต๊ะมีระยะห่าง คนไม่แน่นมาก เมนูฟิวชั่นรสชาติถูกปาก บรรยากาศยามหัวค่ำเมื่อวัดอรุณเริ่มเปิดไฟ เราชอบร้านนี้ที่สุด เนื่องจากผังการจัดโต๊ะไม่แน่นมาก มีหลังคาไฟฟ้าที่สามารถเปิดปิดได้ ดังนั้นคุณจะไปนั่งเวลาไหนก็สะดวกไม่ร้อน ตัวร้านและโรงแรมออกแบบมาในแนวจีนประยุกต์ ( Modern Chinese) และเป็นร้านที่อยู่สูงที่สุดในละแวกแถวนี้ ดังนั้นมุมที่มองเห็นอาจจะแปลกตากว่าร้านอื่นอยู่สักหน่อย มีโซนที่เป็นหน้าบาร์สำหรับผู้ที่ขึ้นมานังดื่มชมวิวอย่างเดียว และโซนโต๊ะอาหารที่เซ็ทไว้สวยงาม ร้านนี้คนจะไม่ค่อยพลุกผล่านเหมือนร้านรูฟท็อปท่าเตียนอื่นๆ เราขอแนะนำให้จองมาก่อน เพราะคุณอาจผิดหวังในการต้องมานั่งรอ วิวสวยสมราคาที่แรงสุดในทุกร้าน เมนูไม่มาก แต่เน้นฟิวชั่นหรูหราตามแบบอาหารโรงแรม เหมาะกับดินเนอร์เดทชิลๆ หรือนั่งดื่มสวยๆกับเพื่อนซี้ โทรจองโต๊ะที่เบอร์ 02 221 1188 ร้านที่สอง โรงรส ร้านนี้ตั้งอยู่ข้างหน้าร้านอโบฟริว่า แต่ตัวร้านแบ่งเป็นสองชั้นจึงอาจจะเห็นวิวที่แตกต่างจากร้านแรก แนะนำว่า ถ้ามาแล้วอยากควบสองร้าน ควรจะนั่งดื่มร้านแรก แล้วทานอาหารร้านที่สอง คุณจะประหยัดเวลาไปได้มาก เจ้าของร้านผู้ทำอาชีพดีไซเนอร์ ได้ทำการเปลี่ยนโรงรถเก่า ให้กลายเป็นร้านโรงรส ที่เราบอกได้เลยว่า รสดีสมชื่อ ตัวร้านออกแบบมาในสไตล์ร่วมสมัย ชั้นล่างเดินเข้าไปคุณจะเห็นโคมไฟระย้า เก้าอี้หวายที่หน้าตาไม่ซ้ำกัน หางนกยูง รูปวาดแบบโมเดิร์น ตัดกับผนังสีน้ำเงินกรมท่า มองออกไปข้างนอกจะเห็นพระปรางค์วัดอรุณชัดเหมือนใช้แว่นขยาย ร้านให้ความรู้สึกถึงร้านขายของเก่าและคาเฟ่สุดชิคที่ปารีสแบบรวมๆกัน บรรยากาศภายในร้านชั้นล่าง ขึ้นบันไดไปชั้นสอง จะเจอรูฟท็อปเปิดโล่ง ยำวุ้นเส้นโบราณแบบใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสง กับจานอร่อยของเรา ยำมังคุดกุ้งสด ข้าวผัดโรงรส ที่โรงรส คุณจะได้เห็นวัดอรุณในมุมนี้ ส่วนชั้นบนเปิดโล่ง เป็นรูฟท็อป ลมเย็น เห็นพระปรางค์วัดอรุณชัดเจน อาหารมีหลายเมนูที่เป็นรุ่นโบราณสมัยคุณย่ายังสาว ที่คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยลอง เช่น ปลาแห้งแตงโมสิงบุรี เราลองสั่งยำมังคุดกุ้งสด( ตามฤดูกาล) จากคำแนะนำของพนักงาน ซึ่งหลังจากลองจานนั้น ยำมังคุดได้กลายเป็นอาหารไทยในใจเราไปโดยปริยาย ขอบอกว่าถ้าคุณเป็นคนที่ชอบทานอาหารแบบวิวสวยมาก เมนูอาหารน่าสนใจ ขอแนะนำร้านนี้ โทรจองโต๊ะที่เบอร์ 09-6946-1785 ดูภาพร้านเพลินๆได้ที่ http://rongros.com/?utm_source=gmb&utm_medium=referral สุดโปรดร้านสุดท้าย อีเกิ้ล’ส เนสต์ (Eagle’s nest) อีเกิ้ล’ส เนสต์ หรือแปลตรงตัวว่า รังนกอินทรี ซึ่งที่นี่ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะรังนกรังนี้ ตั้งอยู่บนยอดไม้ หรือชั้นสูงสุด บนดาดฟ้าของโรงแรมศาลาอรุณ เราชอบมาร้านนี้ถ้าต้องการนั่งชมวิวพระปรางค์ ตัวร้านมีทั้งโซนบาร์ค็อกเทล โซนโซฟานั่งเล่นมีหลังคา และอีกครึ่งของร้านเป็นโซนกลางแจ้งไม่มีหลังคาที่คนมักจะมานั่งกินลมชมวิว มีเมนูอาหาร ราคาพอรับได้ ส่วนใหญ่เราคิดว่ากลุ่มเป้าหมายแขกของอีเกิ้ล’ส เนสต์ คือกลุ่มเพื่อน หรือนักท่องเที่ยวหนุ่มสาว ที่มาชมวิว ถ่ายรูป เนื่องจากมุมข้างในของร้านออกแบบให้เป็นเหมือนกรอบรูป ถ้าถ่ายออกไปขณะที่คุณนั่งอยู่ในโซนด้านใน จะเหมือนเป็นกรอบให้กับวิวผู้คน และวิวพระปรางค์ของคุณ บอกเลยว่าถ้าอยากได้รูปคู่พระปรางค์ที่สวยที่สุด มาร้านนี้คุณจะไม่ผิดหวัง ร้านนี้คุณอาจจะอึดอัดหน่อย เพราะทุกคนที่มา จะเดินกันขวักไขว่ถ่ายรูป ซึ่งไม่มีใครโกรธใคร เพราะทุกคนก็ทำแบบเดียวกัน เราขอกระซิบว่า ถ้าคุณเป็นคนขี้หงุดหงิด หรืออยากได้มุมสงบโรแมนติก ควรมองผ่านร้านนี้ และสิ่งสำคัญอีกข้อคือ อีเกิ้ล’ส เนสต์ ไม่รับจอง เปิดโอกาสให้แขกวอล์คอินมาจับจองที่นั่งเท่านั้น ดังนั้นควรกะเวลาให้ดี เพราะถ้าคุณไปเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน ขอให้ทำใจไว้เลยว่า คุณจะได้ยืนที่หน้าบาร์ หรือรอคิวโต๊ะว่างเท่านั้น ที่เห็นบนโต๊ะนี่ ทางร้านมีเมนูม็อคเทลแบบโนแอลกอฮอล์ที่รสชาติดีมาก อีกตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องขับรถมานำเสนอด้วย ทุกร้านจอดรถได้ที่ซอยข้างวัดโพธิ์ ซึ่งข้ามถนนมาก็เป็นท่าเตียน ที่จอดรถมีจำนวนจำกัด เรานำว่าถ้าวัดโพธิ์เต็ม ให้คุณวนไปจอดที่ที่จอดรถของราชนาวีแล้วเดินชมวิวมา ระหว่างทางคุณอาจเจอร้านสวยร้านอื่นที่คุณอยากแวะโดยบังเอิญ บอกเลยว่าย่านนี้จะเป็นย่านโปรดในใจคุณ และคุณจะรู้สึกถึงมนต์สเน่ห์ของย่านเมืองเก่า “ท่าเตียน” เหมือนที่เรารู้สึก...เช่นกัน เครดิตรูปโดยผู้เขียน