งาดำ VS ถั่วแดง วันนี้ผ่านไปทำธุระแถวบางรัก นึกถึงร้านถั่วแดงกับงาดำต้มแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่ออยู่แถวละแวกนี้ เลยตัดสินใจจะซื้อกลับบ้านเสียหน่อย ร้านดังกล่าวนี้เป็นร้านเล็ก ๆ มีที่นั่งทานแบบเล็ก ๆ อยู่โต๊ะหนึ่ง จุดบอดของร้านนี้ คือ เวลาของหมดค่อนข้างเร็ว และร้านอยู่ในซอย ไม่มีที่จอดรถ ทำให้ต้องอาศัยบริการรถสาธารณะหรือจอดรถที่โรบินสันบางรักแล้วข้ามถนนมาซื้อเอา ร้านนี้ขายจี๊หม่าหวู กับ ห่งเต๋าโจ๊ก และบ๊ะจ่างสูตรกวางตุ้ง อยู่ที่ซอยตรอกซุง ฝั่งตรงข้ามกับโรบินสัน บางรัก ซอยจะเดินรถทางเดียว ทำให้มีรถขับเข้ามาอยู่แทบจะตลอดเวลา คนขายจะเข็นรถมาขายราว 12.30 น. ของทุกวันยกเว้นวันจันทร์ และจะขายต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าของจะหมดราว 16.00 น. สิ่งที่เราจะได้ชิมกันในวันนี้คืองาดำกับถั่วแดงต้ม โดยจี๊หม่าหวู เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง หมายถึง ขนมชนิดหนึ่งที่เป็นการเคี่ยวงาดำบดละเอียดกับน้ำตาล เป็นที่ชื่นชอบกันมากสำหรับคนในยุคโบราณที่รับประทานเพราะความอร่อยและประโยชน์ต่อร่างกาย ร้านดังกล่าวเป็นร้านเก่าแก่สูตร 40 ปี ขายมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าที่มาจากจีน จนตอนนี้ตกทอดกันมาถึงรุ่นหลานแล้ว สำหรับจี๊หม่าหวู๋จะเป็นของเหลวข้นสีดำสนิท ตัวขนมมีความละเอียดและหอมกลิ่นงาดำบด รสชาติหวานเล็ก ๆ แต่กลิ่นของงาดำจะชัดเจนมาก ทางร้านขายถุงละ 20 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มมากทีเดียว และอีกชนิดหนึ่งที่ขายคู่กันคือ ห่งเต๋าโจ๊ก เป็นขนมที่ทำมาจากถั่วแดงบด โดยจะเป็นของเหลวสีน้ำตาลออกแดง รสชาติจะได้เพียงตัวถั่วแดงเท่านั้น ราคาถุงละ 20 บาท เช่นกัน สำหรับความแตกต่างของขนมสองชนิดนี้คือ งาดำต้มนั้นจะมีความข้นหนืดมากกว่า และรู้สึกได้ว่างาดำนั้นหวานกว่าสักเล็กน้อย ในด้านของกลิ่นนั้น ก่อนรับประทานงาดำจะให้กลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรง ส่วนถั่วแดงนั้นกลิ่นจะแรงตอนรับประทาน จบไปแล้วกับขนมสูตรโบราณของจีนกวางตุ้งกับร้านในตำนานแห่งนี้ ที่ทั้งเก่าแก่และหากินได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นถั่วแดงหรืองาดำ ต่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยกันทั้งนั้น ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เรียกว่าได้ทั้งความอร่อย ได้ทั้งสุขภาพกันเลยทีเดียว ใครที่ชื่นชอบธัญพืชชนิดไหนก็สามารถแวะมาลองได้ที่ร้านนี้.. ภาพประกอบโดยผู้เขียน