ทองหล่อ - เอกมัย สองย่านนี้ถือเป็นย่านที่รวมเหล่า Cafe ชื่อดังและน่านั่งเอาไว้มากมาย ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่มีโอกาสได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย ทำให้ในวันหยุด ผมไม่ต้องไปไหนไกลเลยครับ เเค่ตั้งปณิธานว่าจะเก็บเหล่าคาเฟ่ในย่าน ทองหล่อ - เอกมัย ให้ครบทุกร้าน เเละวันนี้ก็เป็นคิวของ 'The Gardens of Dinsor Palace' การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย จากนั้นนั่งแท็กซี่หรือเดินไปทางทองหล่อ จะมีมีซอยซอยหนึ่งที่มีป้าย Dhani Residence และ The Gardens ก็ให้เดินเข้าไปได้เลยครับ ประมาณ 50 เมตร แค่เห็นทางเข้าก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นเเล้วล่ะครับ พูดได้เลยว่าเเสงแดดยามเย็นไม่สามารถทำอะไรลูกค้าของร้านนี้ได้เลย เพราะที่ร้านมีการปลูกต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด สิ่งเเรกที่เห็นเมื่อเข้าสู่ตัวอาคารคือ น้ำพุอันนี้ครับ นับว่าลงตัวเข้ากับบรรยากาศของตัวร้านเป็นอย่างยิ่ง เเละจากน้ำพุตรงนี้ให้เราเลี้ยวซ้ายจะเจอตัวร้านในโซนเบเกอรี่ครับ สามารถเลือกจับจองที่นั่งกันได้ครับ มีทั้งโซนเครื่องปรับอากาศด้านใน เเละโซน outdoor รับลมธรรมชาติด้านนอก และไม่ต้องกลัวว่าด้านนอกจะร้อนครับ เพราะมีลมพัดตลอดเวลา บวกกับร่มเงาจากต้นไม้เเล้วยิ่งเพอร์เฟ็คต์ เราก็เลยเลือกนั่งที่โซนด้านนอกครับ นั่งไปได้สักพักก็จะมีน้อง ๆ พนักงานมารับออเดอร์ครับ เนื่องจากเย็นวันนี้เรามีเเพลนที่จะไปจัดหนักกับหมูกระทะ ก็เลยเลือกที่จะสั่งอะไรเบา ๆ มาทานเล่นกัน เมนูที่เราเลือก ได้เเก่ ไอศกรีมอิตาเลียนเจลาโต้ (ก้อนละ 50 บาท) และน้ำเเตงโมสด (140 บาทครับ) จะเห็นได้ว่าราคาค่อนข้างเเรงเลยทีเดียว ในส่วนของ main couse ราคาจะอยู่ที่ราว ๆ 250 - 500 บาทครับ ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ พวกเราก็เลยตระเวณถ่ายรูปบรรยากาศรอบ ๆ ร้านครับ ร้าน The Gardens of Dinsor Palace เดิมเคยเป็นวังเก่าของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารำไพประภา มีอายุประมาณ 80 ปีเเล้ว บริเวณร้านมีการขุดบ่อสระน้ำ มีหงส์ขาวเเละหงส์ดำคอยเเหวกว่ายทักทายผู้มาเยือน ไม่ว่ามุมไหนก็สวยไปหมดครับ ที่ร้าน The Garden แห่งนี้ ถ้าไม่บอกว่าเป็นร้านอาหาร บางคนอาจจะคิดว่าเป็นสวยสวยที่จัดเอาไว้เพื่อให้ถ่ายรูปเเน่ ๆ ครับ สารภาพว่า 15 นาทีที่ผมเดินเล่นรอบ ๆ ร้าน ผมได้รูปสวย ๆ มาเกือบร้อยรูปเเน่ะ เมื่อเดินวนกลับมาที่โต๊ะ ก็พบว่า Italian Gelato รสสตรอว์เบอร์รี่ก็ถูกเสิร์ฟเอาไว้เรียบร้อยเเล้ว ผมจึงรีบตักเข้าปากเพื่อลิ้มลองรสชาติทันที และพบว่ารสชาติค่อนข้างอร่อยถูกปาก ไอศกรีมมีรสหวานอมเปรี้ยว ไม่เลี่ยนเเละไม่มันเกินไป รวมถึงมีรสสัมผัสของเนื้อสตรอว์เบอร์รี่สด ๆ ที่ปั่นผสมกับเนื้อไอศกรีมอีกด้วยครับ ถ้วยนี้ให้ 10 เต็มไปเลย เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับที่เที่ยวที่ผมมาเเนะนำกันในวันนี้ ผมยังหวังว่าจะได้มีโอกาสไปทานอาหารเเบบ Full Course ที่ร้านอีกสักครั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้คงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ :)