9 วิธีเลือกมันเทศ ไม่ขม เนื้อด้านในอร่อย สดใหม่ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล มันเทศย่าง มันเทศต้มหรือนึ่ง ของหวานาจากมันเทศ รวมทั้งขนมจากมันเทศ เป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นไปได้ทั่วไป และในประเทศไทยเรามีมันเทศให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ที่จะว่าไปแล้วเราสามารถหาซื้อมันเทศได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ มันเทศเผาเป็นอีกเมนูที่ผู้เขียนเห็นพ่อทำเรื่อยๆ เพราะง่ายและสะดวกดี เพียงโยนมันเทศลงไปในกองไฟที่มีถ่านพอดีๆ และรอจนสุก เท่านี้ก็ทำให้เราได้มันเทศเผาหอมอร่อยแล้วค่ะ ที่ความอร่อยจะมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถเลือกหัวมันเทศแบบสดใหม่มาได้หรือไม่ค่ะ เพราะความสดเป็นตัวกำหนดรสชาติ อีกทั้งคุณภาพของมันเทศที่ดีก็มักพบได้ตอนเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้กันดีกว่าค่ะว่า แล้วมันเทศสดใหม่และคุณภาพดีหน้าตาแบบไหน? จะรู้และสังเกตดูยังไง? ที่ต้องบอกว่าถ้าคุณผู้อ่านได้ลองนำไปใช้แล้ว รับรองว่าไม่พลาดแน่นอน แถมจะได้มันเทศคุณภาพดีแบบมืออาชีพกลับบ้านมาด้วย เพราะผู้เขียนได้ลองมาแล้วพบว่าดี จึงอยากบอกต่อค่ะ ดังวิธีการต่อไปนี้ 1. ผิวภายนอก เลือกมันเทศที่มีผิวเรียบเนียน เพราะผิวมันเทศที่เรียบเนียนจะช่วยลดโอกาสที่มีการเน่าเสียเนื้อในได้ หลีกเลี่ยงมันเทศที่มีรอยแตก เพราะรอยแตกบนผิวมันเทศจะทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปทำลายเนื้อในได้ง่ายขึ้น ควรตรวจสอบรอบๆ ขั้ว เนื่องจากบริเวณขั้วของมันเทศมักจะเกิดรอยช้ำหรือรอยบุบได้ง่าย จึงควรตรวจสอบให้ละเอียดนะคะ ให้ลองสัมผัสบริเวณที่มีรอยช้ำหรือรอยบุบดู ถ้ารู้สึกว่าผิวบริเวณนั้นนิ่ม หรือยุบตัวลงไป แสดงว่ามันเทศอาจเสียหายภายในแล้ว ส่องดูผิวมันเทศให้ทั่ว เพื่อตรวจหารอยร้าว รอยแตก หรือรอยด่างดำเล็กๆ ที่อาจมองไม่เห็นชัดเจนด้วยตาเปล่า 2. สังเกตสี การสังเกตสีของมันเทศเป็นเพียงหนึ่งในวิธีการเลือกซื้อมันเทศที่ดีค่ะ โดยสีของมันเทศนั้นสามารถใช้เป็นตัวบ่งบอกถึงสายพันธุ์และคุณภาพเบื้องต้นได้เลยค่ะ ที่โดยทั่วไปแล้วสีผิวของมันเทศที่ดีควรมีสีสม่ำเสมอ ไม่ซีดหรือเข้มจนผิดปกติค่ะ 3. ตรวจสอบราก รากของมันเทศมีบทบาทสำคัญในการดูดซับน้ำและสารอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของพืช เมื่อเก็บเกี่ยวมันเทศมาแล้ว รากก็จะยังคงทำงานต่อไป หากรากยังคงงอกและเจริญเติบโตต่อไปเรื่อยๆ ก็จะดึงเอาสารอาหารในตัวมันเทศไปใช้ ทำให้มันเทศเสื่อมคุณภาพได้เร็วขึ้น และวิธีสังเกตและตรวจสอบรากของมันเทศที่ดีให้สังเกตสิ่งต่อไปนี้ รากสั้นและแห้ง: รากที่สั้นและแห้งแสดงว่ามันเทศได้หยุดการเจริญเติบโตแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามันเทศพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวและมีอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น ไม่มีรากงอกใหม่: รากที่งอกใหม่แสดงว่ามันเทศยังคงพยายามที่จะเจริญเติบโตต่อไป ซึ่งจะทำให้มันเทศสูญเสียความชุ่มชื้นและสารอาหารได้เร็วขึ้น ไม่มีรากเน่าเสีย: รากที่เน่าเสียจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจแพร่กระจายเข้าไปในตัวมันเทศ ทำให้มันเทศเน่าเสียได้เร็วขึ้น 4. จับดูความแน่น ความแน่นของมันเทศเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงคุณภาพของมันเทศค่ะ เพราะมันเทศที่แน่นมักจะมีความสดใหม่ เนื้อแน่น และมีรสชาติที่ดีกว่ามันเทศที่นิ่มหรือยุบตัว และวิธีสังเกตความแน่นของมันเทศ มีดังนี้ ใช้มือบีบเบาๆ: กดลงบนผิวของมันเทศเบาๆ ถ้ารู้สึกว่าเนื้อแน่น ไม่ยุบตัวลงไป แสดงว่ามันเทศมีความสดใหม่ เขย่าเบาๆ: หากได้ยินเสียงดังกะทั๊กๆ ภายใน เสียงนี้บ่งบอกว่าเนื้อมันเทศอาจจะเสียหายหรือมีรูโหว่นะคะ โดยคำว่า "กะทั๊กๆ" เป็นคำอธิบายเสียงหรือการเคลื่อนไหวที่สั้นๆ กระตุกๆ และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะ เปรียบเทียบน้ำหนัก: มันเทศที่มีขนาดเท่ากัน แต่มีน้ำหนักมากกว่า มักจะมีเนื้อแน่นและสดใหม่กว่า และเหตุผลที่ไม่ควรเลือกมันเทศที่นิ่มก็เพราะว่า รสชาติไม่อร่อย: มันเทศที่นิ่มมักจะมีรสชาติจืดชืด ไม่หวาน และอาจมีรสขม เนื้อร่วน: เนื้อของมันเทศที่นิ่มจะร่วนและไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้ไม่น่ารับประทาน เสี่ยงต่อการเน่าเสีย: มันเทศที่นิ่มมักจะเน่าเสียได้ง่ายกว่ามันเทศที่แน่น 5. เขย่าเบาๆ หลายคนยังไม่รู้ว่า การได้ยินเสียงขยับภายในหัวมันเทศนั้น เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ามันเทศอาจจะเสียคุณภาพหรือเน่าเสียไปแล้วค่ะ เพราะเมื่อมันเทศเริ่มเน่าเสีย เชื้อราหรือแบคทีเรียจะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อภายใน ทำให้เกิดช่องว่างหรือโพรงขึ้น และเมื่อเราเขย่าเบาๆ ก็จะได้ยินเสียงของของเหลวหรืออากาศที่เคลื่อนไหวภายในช่องว่างนั้น รวมไปถึงการกระแทกหรือการบีบอัดที่แรงเกินไปอาจทำให้เนื้อเยื่อภายในมันเทศฉีกขาด เกิดเป็นช่องว่างและทำให้เกิดเสียงดังเมื่อเขย่า และบางครั้งอาจมีแมลงขนาดเล็ก เช่น หนอน หรือแมลงวันผลไม้ เข้าไปเจาะกินภายในมันเทศ ทำให้เกิดช่องว่างและเสียงดังเมื่อเขย่าค่ะ มันเทศที่เน่าเสียจะมีรสชาติเปลี่ยนไป เนื้อจะนิ่ม และอาจมีกลิ่นเหม็น หากเก็บมันเทศที่เน่าเสียไว้ใกล้กับมันเทศดีๆ อื่นๆ จะทำให้มันเทศหัวอื่นเน่าเสียตามไปด้วย 6. ดมกลิ่น กลิ่นหอมของมันเทศนั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของมันเทศค่ะ กลิ่นหอมของมันเทศจะแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปแล้วมันเทศที่ดีจะมีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ คล้ายกลิ่นดิน หรือกลิ่นแป้งเล็กน้อย มันเทศที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ หากมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือกลิ่นอื่นๆ ที่ผิดปกติ แสดงว่ามันเทศอาจเริ่มเน่าเสียแล้ว หากมันเทศได้รับความเสียหาย เช่น มีรอยช้ำ หรือถูกแมลงกัดกิน จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่าได้ ที่บางครั้งกลิ่นที่ผิดปกติอาจเกิดจากโรคของพืช ซึ่งจะส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของมันเทศค่ะ และกลิ่นที่ควรระวัง ได้แก่ กลิ่นเหม็นเปรี้ยว: บ่งบอกว่ามันเทศกำลังเน่าเสีย กลิ่นอับชื้น: อาจเกิดจากการเก็บรักษาในที่ชื้น หรือมันเทศสัมผัสกับความชื้นเป็นเวลานาน กลิ่นเหม็นสาบ: อาจเกิดจากการถูกแมลงกัดกิน หรือมีเชื้อราเข้าทำลาย 7. สังเกตตา คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ตาของมันเทศ คือ จุดเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วผิวของมันเทศค่ะ จุดเหล่านี้เป็นเหมือน "ตาด" หรือ "หน่อ" ที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต หากนำมันเทศไปปลูก ตาเหล่านี้ก็จะงอกออกมาเป็นต้นใหม่ได้ค่ะ โดยตาของมันเทศที่สดใหม่มักจะปิดสนิท หรือเปิดออกเล็กน้อย หากตาเปิดกว้างมาก หรือมีร่องรอยของการงอก ก็อาจบ่งบอกว่ามันเทศเริ่มเสื่อมสภาพ ตาของมันเทศที่เริ่มเหี่ยวหรือเน่าเสีย จะค่อยๆ เปิดออกกว้างขึ้น และอาจมีสีเปลี่ยนไป ตาของมันเทศเป็นส่วนที่ใช้ในการเจริญเติบโต หากตาเปิดออกกว้างแสดงว่ามันเทศอาจกำลังพยายามจะงอกหน่อ ซึ่งจะทำให้เนื้อในเสื่อมสภาพและรสชาติเปลี่ยนไปค่ะ และวิธีสังเกตตาของมันเทศ มีดังนี้ ตาปิดสนิท: ตาของมันเทศที่สดใหม่จะปิดสนิท หรือเปิดออกเล็กน้อย สีของตา: ตาดูสดใส ไม่เปลี่ยนสี สัมผัส: ลองสัมผัสบริเวณตาเบาๆ ถ้ารู้สึกแข็งและไม่ยุบตัวลงไป แสดงว่ามันเทศยังสดอยู่ 8. เลือกตามฤดูกาล การเลือกซื้อมันเทศตามฤดูกาลนั้นเป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ลิ้มลองรสชาติที่แท้จริงของมันเทศแต่ละสายพันธุ์ค่ะ เพราะแต่ละสายพันธุ์จะมีช่วงเวลาที่ให้ผลผลิตดีที่สุด และมีรสชาติหวานมันแตกต่างกันออกไป ซึ่งเหตุผลว่าทำไมต้องเลือกซื้อมันเทศตามฤดูกาล ก็เพราะว่า รสชาติอร่อยที่สุด: เมื่อถึงฤดูกาลของมันเทศแต่ละชนิด จะได้รสชาติที่หวาน มัน หอม อร่อยเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่มันเทศได้รับแสงแดดและธาตุอาหารอย่างเพียงพอ ความสดใหม่: มันเทศที่เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูกาลจะมีความสดใหม่กว่า เพราะไม่ต้องผ่านการเก็บรักษานาน ราคาถูกกว่า: ในช่วงฤดูกาลผลผลิตมันเทศจะออกมามาก ทำให้ราคาถูกลงกว่าช่วงอื่นๆ และตัวอย่างมันเทศตามฤดูกาล เช่น มันเทศญี่ปุ่น: มีหลากหลายสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปจะให้ผลผลิตดีในช่วงฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ มันเทศไทย: สายพันธุ์พื้นเมืองของไทย มีหลายสี หลายขนาด สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ละสายพันธุ์จะมีช่วงที่ให้รสชาติอร่อยแตกต่างกันออกไป มันเทศเบอร์มิวดา: มีขนาดเล็ก รูปทรงยาว ปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่จะอร่อยที่สุดในช่วงฤดูร้อน 9. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อมันเทศจากแหล่งที่น่าเชื่อถือนั้นสำคัญมากค่ะ เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามันเทศที่เราซื้อมานั้นมีความสดใหม่ สะอาด และปลอดภัยต่อการบริโภค จากที่ร้านค้าหรือตลาดที่น่าเชื่อถือ มักจะมีการหมุนเวียนสินค้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราได้มันเทศที่เก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ มีการคัดเลือกมาแล้วว่ามีคุณภาพดี ไม่มีรอยช้ำ หรือรอยเน่าเสีย ก็จบแล้วค่ะ พอจะมองเห็นภาพแล้วนะคะว่า มันเทศสดใหม่ ที่จะให้รสชาติอร่อยต้องประมาณไหน โดยเคล็ดลับในนี้ที่ผู้เขียนประยุกต์ใช้บ่อยๆ ก็คือการดูสีผิว การจับดูความแน่นและการซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ค่ะ เพราะถ้าไม่เลือกเลยโอกาสได้มันที่มีแมลงกัดกินได้ในบ่อยมาก และมันเทศแบบนี้มักพบว่ามีรสขมค่ะ แต่พอเลือกมันเทศด้วยเคล็ดลับข้างต้น ก็จบปัญหาเรื่องมันเทศคุณภาพไม่ดีค่ะ ดังนั้นคุณผู้อ่านอย่าลืมนำเคล็ดลับในนี้ไปใช้นะคะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/V3GXqoOvazLR https://food.trueid.net/detail/Y0dPe3Dez7V0 https://food.trueid.net/detail/m0ewNQrMKP3W เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !