สูตรต้มน้ำกระเจี๊ยบ ทำง่าย ไปโรงทาน เปรี้ยวหวานอร่อย | บทความโดย Pchalisa น้ำสมุนไพรต้มอร่อยๆ เป็นอีกเมนูที่ปกติหลายคนก็ชอบดื่ม อีกทั้งหากพูดถึงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำหวานแบบนี้ เราอาจนึกถึงการทำน้ำหวานไปโรงทานหรือทำเป็นน้ำปานะไปวัด ซึ่งประสบการณ์นี้ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสทำให้เกิดขึ้นในชีวิตเหมือนกันค่ะ โดยได้ทำน้ำกระเจี๊ยบไปโรงทาน ที่ปกติหากขยันหน่อยน้ำหวานที่อร่อยพอดีจากสมุนไพร ก็เป็นเมนที่ผู้เขียนทำเองได้และนำดื่มบ้าง และในบทความนี้ผู้เขียนต้องการแจกฟรีสูตรทำน้ำกระเจี๊ยบค่ะ ที่หลายคนอาจมองว่ามันไม่น่าจะยากขนาดนั้น จริงๆ ไม่ยากค่ะ แต่น้ำกระเจี๊ยบอร่อยต้องมีสูตรชัดเจน ซึ่งแบบเปรี้ยวหวานกลมกล่อม ที่ดื่มแล้วฟินอินทุกหยอด ต้องเป็นไปตามสูตรในเนื้อหาของบทความนี้เลยค่ะ เพราะผู้เขียนคิดสูตรขึ้นมาเอง จากการลองทำและชิมจนได้ที่ว่า สูตรนี้ล่ะที่ฉันตามหามานานแล้ว ดังนั้นอ่านจบและนำไปทำตามรับรองได้น้ำกระเจี๊ยบแบบสมใจนึกค่ะ ดังสูตรต่อไปนี้ค่ะ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1. กระเจี๊ยบแห้ง จำนวน 1 ขีด 2. น้ำตาลทรายแดง จำนวน 4 ถ้วยตวง 3. เกลือแกง จำนวน 1/2 ช้อนชา 4. น้ำสะอาด จำนวน 3 ลิตร ขั้นตอนในการทำ 1. เทน้ำสะอาดใส่ในหม้อที่ต้องการต้มน้ำกระเจี๊ยบ 2. เทกระเจี๊ยบแห้งลงไป และยกตั้งไฟกลางจนน้ำเดือด 3. ใส่เกลือแกงและน้ำตาลทรายแดงที่ตวงเอาไว้ลงไป จากนั้นคนให้น้ำตาลทรายละลายดี 4. จากนั้นต้มให้เดือดจัดอีกประมาณ 10 นาที 5. เมื่อได้ที่แล้ว ยกลงจากเตาและกรองกากดอกกระเจี๊ยบแดงออก และทิ้งน้ำกระเจี๊ยบให้เย็น 6. จัดเสิร์ฟตามชอบ โดยไปโรงทานอาจต้องมีขวดที่ปลอดภัยสำหรับใส่อาหารค่ะ หรือจะไปตักน้ำกระเจี๊ยบเสิร์ฟแบบเป็นแก้วก็ได้ค่ะ ตามสะดวกและเข้ากับสถานการณ์ของเรา น้ำกระเจี๊ยบสูตรนี้ดียังไง? ด้วยความที่ผู้เขียนเคยดื่มน้ำกระเจี๊ยบมาทั่วราชอาณาจักรานั้น สิ่งที่พบว่าน้ำกระเจี๊ยบส่วนมากเป็นเหมือนกัน คือ ความเปรี้ยวกับความหวานมันสวนทางกัน ซึ่งสูตรนี้ดีกว่าเพราะผู้เขียนทำให้รสชาติของความเปรี้ยวกับความหวานไปในทิศทางเดียวกัน ที่ออกมาอย่างลงตัว ถึงแม้ว่าคนทำจะเป็นมือใหม่หรือไม่เคยทำมาก่อนก็ตามค่ะ ซึ่งถ้าทำตามนี้ความหอมจากน้ำตาลทรายแดงทำให้น้ำกระเจี๊ยบสูตรนี้น่าสนใจมากขึ้น ที่ดื่มแล้วหวานอร่อยกลมกล่อมและสดชื่นค่ะ เคล็ดลับเพิ่มเติม กรณีต้มหลายหม้อสามารถนำกากของดอกกระเจี๊ยบจากหม้อก่อนหน้ามาต้มต่อได้ค่ะ ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ลดการใช้ปริมาณของดอกกระเจี๊ยบแห้งในหม้อถัดมาได้ หากต้องการให้น้ำกระเจี๊ยบมีรสชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ให้รวมนำกระเจี๊ยบจากทุกหม้อเข้าด้วยกันค่ะ ในหม้อท้ายๆ มีความจำเป็นต้องกรอกน้ำกระเจี๊ยบด้วยผ้าขาวค่ะ เพราะอาจมีกากใยธรรมชาติจากที่ดอกกระเจี๊ยบเปื่อยจากการต้มด้วย ที่อาจดูไม่สวยงามได้ในบางกรณีค่ะ หากไม่มีน้ำตาลทรายแดงสามารถใช้น้ำตาลทรายขาวได้ แต่ผู้เขียนพบว่าน้ำตาลรายแดงให้ความหอมหวานแบบกลมกล่อมมากกว่าค่ะ เพื่อรสชาติที่อร่อยกว่าแนะนำให้แช่เย็นหรือเสิร์ฟแบบเย็นค่ะ คือส่วนตัวเคยดื่มน้ำกระเจี๊ยบร้อนเป็นน้ำปานะ ตอนไปปฏิบัติธรรม พบว่า ก็ดื่มได้แต่สิ่งที่หายไปคือความสดชื่นค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับน้ำกระเจี๊ยบสูตรอร่อยเด็ด เปรี้ยวหวานลงตัว ดื่มแล้วอยากดื่มอีก นำไปแจกโรงทานมีต้องขอเพิ่ม นำไปเสิร์ฟเป็นน้ำปานะ มีถามหาคนทำ เพราะอร่อยจริงจังค่ะ ยังไงนั้นลงไปทำตามดูค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/kBxr2vkooAjV https://news.trueid.net/detail/GJbln5eEv41Z https://travel.trueid.net/detail/31VQb4WmKO27 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !