ในวันปีใหม่ของปีที่ผ่านมา ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ลูก ๆ หลาน ๆ จะกลับมาพร้อมหน้ากันที่บ้านพ่อ และล้อมวงกินสุกี้ฝีมือแม่ร่วมกัน สุกี้ของแม่เราต่างจากสุกี้ที่ขายในร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้า เพราะแม่จะต้มเป็นหม้อแกงใหญ่ แล้วตักแจกลูก ๆ หลาน ๆ ไปคนละถ้วย ส่วนใครที่กินไม่อิ่มก็ตักเพิ่มได้ด้วย เพราะแม่ทำไว้เยอะ แม่ค่อนข้างพิถีพิถันในการทำน้ำซุปมาก แม่จะเรียกหลายชายคนเล็ก ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ชอบตำชอบโขลกมาช่วยในการตำรากผักชีเข้ากับกระเทียมและพริกไทย ตำกันจนแหลก กลิ่นหอมเข้ากันดีเชียวหล่ะ ระหว่างหลานตำเครื่อง แม่ก็ต้มน้ำซุปด้วยซอสปรุงรสต่าง ๆ ที่มีอยู่ในครัว สุกี้ฝีมือแม่ปลอดผงชูรสแน่นอน เพราะแม่แพ้ผงชูรส แม่เลยไม่ใช้ผงชูรสในการทำกับข้าวทุกชนิด ดังนั้น ลูกหลานคอไม่แห้งแน่นอนเวลาที่ได้กินสุกี้ของแม่ ส่วนผักสดนั้น แม่จัดเต็มมาก โดยแม่จะนัดหมายพรีออเดอร์กับรถขายกับข้าวที่มาจอดขายอยู่หน้าบ้าน ทั้งผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ผักขึ้นฉ่าย ต้นหอม ผักชี ข้าวโพดอ่อน เห็ดเข็มทอง และสารพัดเห็ด ฯลฯ จากนั้นเมื่อได้ผักมาแล้วแม่จะล้างอย่างสะอาดในกะละมังใบใหญ่มาก ๆ และมีเราเป็นลูกมือในการหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว ส่วนเครื่องสุกี้ แม่จะให้หลานสาว กับลูกเขยไปหิ้วกันมาจากเทสโก้โลตัสใกล้บ้าน ทั้งลูกชิ้นรักบี้ ลูกชิ้นปิงปอง กุ้ง หมูนุ่ม หมูสไลด์ ฮอทดอก ปูอัด ฯลฯ เครื่องเคียงมหาศาลกินกันได้ทั้งบ้าน ส่วนน้ำจิ้มสุกี้ก็หิ้วกันเข้ามาจากเทสโก้โลตัสเช่นกัน หาซื้อได้ง่าย ๆ เผ็ดมาก เผ็ดน้อย หรือน้ำจิ้มหมูกระทะก็อร่อยดีค่ะ สุกี้ฝีมือแม่มัดใจพ่อและลูกหลานมาหลายสิบปีแล้ว ยิ่งการได้ล้อมวงกินสุกี้กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ได้รำลึกถึงเรื่องราวในอดีตที่มีร่วมกัน เรียกเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในครอบครัว แต่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พ่อเราไม่อยู่แล้ว แต่แม่ยังคงต้มสุกี้ให้ลูก ๆ หลาน ๆ กินอยู่เสมอในช่วงวันหยุดยาว เพราะทำสุกี้หม้อเดียว กินกันได้หลายคน และหลายมื้อ แม่บอกว่าประหยัดดี ในความรู้สึกของเรา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไหน สุกี้ของแม่ก็ยังคงอร่อยเสมอ แต่เสียดายที่พ่อไม่ได้อยู่กินด้วยกันอีกแล้ว … หากเพื่อน ๆ ยังมีพ่อกับแม่ที่ยังรอคอยอยู่ที่บ้าน วันปีใหม่นี้อย่าลืมหาโอกาสกลับไปกินกับข้าวฝีมือแม่ และกินข้าวร่วมกับพ่อและพี่ ๆ น้อง ๆ นะคะ ความสุขของคนเรา บางครั้งก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล อยู่ในบ้านของเรานี่เองค่ะ