พืช วัชพืช ที่เราพบเห็นมีมากมายหน้าตาแตกต่างกันไป บางชนิดก็เป็นโทษบางชนิดก็เป็นอาหารทานได้ ทั้งปรุงสุก และทานสด แต่ในบางครั้งพืชบางชนิดก็หน้าตาแปลกๆ เราก็อาจไม่เคยรู้ว่าจะนำมาทานได้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะตามบ้านนอกชนบท ที่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ เหมือนกับบ้านของผู้เขียนที่ยังคงอยู่กับธรรมชาติค่อนข้างจะสมบูรณ์ พืชผักพื้นเมือง ยังคงมีขึ้นมีเกิดให้กินตามธรรมชาติมากมาย ซึ่งพืชบางชนิดผู้คนในเมืองก็อาจไม่เคยเห็นหรือเคยเห็นแต่ไม่รู้ว่าสามารถนำมาประกอบอาหารได้ ในบทความนี้ผู้เขียนมีพืชหน้าตาแปลกสำหรับคนในเมือง แต่เป็นพืชที่คุ้นเคยสำหรับคนชนบทมาฝากกันนะคะ กับ2 พืชน้ำ ที่คนส่วนใหญ่มีคำถามว่ามันกินได้เหรอ และมันคืออะไร บทความนี้ผู้เขียนมีคำตอบ และพร้อมกับการประกอบเมนูอาหารที่อร่อยสุดยอดมาให้รู้จักด้วยค่ะ พืชอะไรสีเขียวๆ แหล่งกำเนิดเกิดขึ้นตามแหล่งน้ำ? 1.ไข่ผำ หรือ ผำ ในภาษาพื้นเมืองของอีสาน ค่ะ ส่วนภาคกลางบ้านของผู้เขียนจะเรียก ไข่ผำ ค่ะ ไข่ผำหรือผำจะเป็นพืชที่มีขนาดเล็กมากๆเลยนะคะ คนไม่รู้จักมองเผินๆก็จะว่าจอกแหน โดยผำจะเกิดขึ้นหรือพบ ตามบริเวณบึงหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่มีการขัง มีลักษณะสีเขียว เม็ดเล็กๆคล้ายกับไข่กบหรือไข่ปลาเลยค่ะแต่ผู้เขียนขอเน้นย้ำว่า ไข่ผำ หรือ ผำ จะทานสดไม่ได้นะคะ ต้องทำให้สุกเสียก่อน เพราะถ้าทานสดหรือดิบ ไข่ผำ หรือ ผำ จะเป็นพิษ ได้ทำให้ไปรบกวนระบบการย่อยของกะเพาะ จะเป็นพิษและอันตรายได้ค่ะ รสชาติของไข่ผำ หรือ ผำ เมื่อประกอบอาหารแล้ว จะมีรสชาติทานกรุบๆ เหมือนกับการทานไข่ปลาคาเวียร์ ก็ว่าได้นะคะ แต่จะไม่มีกลิ่นคาวใดๆ ตามชนบทในบางครั้งตามตลาดสดจะมีแม่ค้าเอาขาย โดยใส่เป็นถุงพลาสติกมัดปาก ถุงละ 30บาท หรือ 50บาท ค่ะ ขั้นตอนการล้างทำความสะอาดก่อนนำ ไข่ผำ ไปประกอบอาหาร เราต้องนำ ไข่ผำ หรือ ผำ ใส่ผ้าขาวบาง แล้วใช้น้ำล้างไหลผ่าน เพราะไข่ผำ เล็กมาก ถ้าล้างวิธีที่ไม่ผ่านผ้าขาวบาง อาจทำให้ไข่ผำ ไหลไปกับน้ำหมดค่ะ เราก็จะใช้น้ำล้างไหลผ่านจนกว่าไข่ผำ มีสีเขียวสดใส สะอาด ไม่มีคาบสกปรก เกาะติดค่ะ หลังจากนั้นก็ต้องนำ ไข่ผำ ที่ได้มาทำการลวกผ่านน้ำร้อนเพื่อทำการฆ่าเชื้ออีกครั้ง ก่อนที่เราจะนำไปประกอบอาการหรือเมนูต่างๆค่ะ เมนู จากไข่ผำ ที่นิยมทำง่ายและอร่อยมีอะไรบ้าง? จริงๆแล้ว ไข่ผำ ที่ทำความสะอาดแล้วนำมาทำการลวกสุกแล้ว สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างมากเลยนะคะ ที่ผู้เขียนเคยนำมาทานคือนำมาทำสลัด หรือ จะทำไส้แซนวิช ค่ะ แต่เมนูที่อร่อยสุดและเป็นที่นิยม คือ " "แกงไข่ผำ " ค่ะ วัตถุดิบและอุปกรณ์: ไข่ผำ ที่ผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนเรียบร้อยแล้ว เนื้อหมูหรือเนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ ตะไคร้ พริกสดซอย พริกแห้งตำกับกระเทียม น้ำปลาร้าสุก เครื่องปรุงรส น้ำปลา ใบแมงลัก ขั้นตอนและวิธีการทำ: 1.ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อพอประมาณ ต้มพร้อมกับไข่ผำ ต้มไปจนกว่าจะเดือด 2.เมื่อเดือดแล้ว ให้เราใส่ตะไคร้ พริกแกงที่ตำลงไปแล้วก็คนให้เข้ากัน จากนั้นก็ตามด้วยเนื้อหมู การใส่เนื้อหมูหรือไก่จะทำให้แกงมีรสชาตินัวในภาษาอีสาน แต่ถ้าภาษาของผู้เขียนก็คือทำให้รสชาติเข้ากันได้ดีไม่มีรสชาติโดดไปทางใดทางหนึ่งค่ะ ขากนั้นทำการต้มต่อไปจนกว่าจะเดือดและเนื้อหมูสุก 3.ใส่น้ำปลาร้าลงไป คนจนเดือด แล้วปรุงรสด้วยผงปรุงรสที่เราเตรียมไว้ ปรุงรสชาติ ตามใจชอบ เมื่อได้แล้วให้ใส่พริกสดซอย และใบแมงลักลงไป จากนั้นจึงยกลง เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยค่ะ จะทำให้ได้รสชาติของไข่ผำ ที่เป็นรสชาติกรุบๆกรอบๆ เมื่อเราทำการเคี้ยวค่ะ ผู้เขียนบอกเลยว่าอร่อยมากค่ะ ถ้าจะเปรียบให้ผู้อ่านที่ยังไม่เคยทานได้เห็นภาพ ก็จะเหมือนเราเคี้ยวไข่ปลาที่อยู่บนหน้าซูชินะคะ พืชน้ำแปลกชนิดที่2. เทาน้ำ หรือ เทา หรือ สาหร่ายอีสาน ในภาษอีสานค่ะ เทามีลักษณะเป็นเส้นใยเล็กๆคล้ายตะไคร่น้ำสีเขียวสดใส เราจะพบเห็นได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่อาจจะเป็นน้ำนิ่งหรือน้ำไหล แต่จะพบในแหล่งน้ำที่สะอาดนะคะ ส่วนใหญ่ที่ผู้เขียนพบเจอจะเป็นตามห้วยเป็นแหล่งน้ำสะอาดที่ไหลผ่านตลอดเวลาค่ะ และบางครั้งจะมีแม่ค้าตลาดนัดนำมาวางขายเป็นกองนะคะ ราคาก็ไม่แพงนะคะ ทางบ้านผู้เขียนเขาจะวางขายเป็นกอง ทำเป็นก้อน กองละ20 หรือ 3 กอง 50บาทค่ะ เทาน้ำนี้ จะมีการนำมาประกอบอาหารได้ค่ะ แต่ต้องผ่านกระบวนการทำให้สุกเสียก่อน เพราะถ้าทานสดนั้น จะเป็นพิษไปรบกวนระบบทางเดินอาหารได้ค่ะ อาจจะระคายเคืองกระเพาะได้ค่ะ วิธีการทำความสะอาดเทาน้ำก่อนไปประกอบอาหาร การทำความสะอาดเทาน้ำ ก่อนนำไปรับประทานและปรุงอาหาร จะต้องทำการแช่น้ำ เขย่าๆและซาวขึ้นหลายๆน้ำ เพื่อชะล้างสิ่งแปลกปลอมที่ติดมากับเส้นเทาน้ำ เมื่อมั่นใจว่าสะอาดแล้วให้ซาวขึ้น และบีบน้ำออกให้หมด แล้วมาทำการต้มฆ่าเชื้อ โดยนำไปต้มและใส่เกลือป่นลงไปนิดหน่อยค่ะ แล้วค่อยตักขึ้นมาโดยใช้กระชอนตัก แล้วบีบเอาน้ำออกให้หมด เราก็จะได้เทาน้ำ ที่พร้อมนำมาปรุงอาหารแล้วค่ะ เมนูเทาน้ำที่ผู้เขียนคุ้นเคย และเป็นที่นิยมทำกันคือ ลาบเทาน้ำ ค่ะ วัสดุอุปกรณ์: เทาน้ำ ตะไคร้ข่าซอย เนื้อปลาทูแกะ หรือ เนื้อหอยเชอร์รี่ลวกสุกแล้ว(ภาคอีสาน) พริกสดเขียวแดงซอย ต้นหอมผักชีซอย เนื้อมะเขือขื่นล้างด้วยเนื้อเกลือ ถั่วฝักยาวซอย ข้าวคั่วตำละเอียด น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ผงปรุงรส น้ำปลาร้าต้มสุก วิธีและขั้นตอนการทำ: 1.นำเทาน้ำ ที่ทำการลวกสุกเรียบร้อยแล้ว มาทำการตัดหั่นให้สั้นค่ะ จากนั้นนำลงใส่หม้อตั้งไฟ ทุกขั้นตอนการลาบเทาน้ำต้องอยู่บนเตาตั้งไฟร้อนนะคะ 2.จากนั้นใส่น้ำปลาร้าต้มสุกลงไปในหม้อพอขลุกขลิก อย่าใส่ลงไปเยอะเดี๋ยวเค็มค่ะ คนคั่วไปเรื่อยๆค่ะ 3.ใส่มะเขือขื่น ถั่วฝักยาวซอย เนื้อหอยเชอรี่ และ เนื้อปลาทูลงไป คนให้เข้ากัน จนกว่ามะเขือขื่นกับถั่วฝักยาวจะสุก จากนั้นใส่พริกซอยปรุงรสตามใจชอบ พร้อมใส่ข้าวคั่วลงไป คนให้เข้ากัน เมื่อได้รสชาติเปรี้ยวเผ็ดเค็มตามความต้องการ ก็ใส่หอมผักชีซอยลงไป แล้วยกลง พร้อมเสริฟค่ะ แค่นี้ก็ได้เมนูลาบเทาน้ำ แซ่บๆกันแล้วนะคะ ครบแล้วนะคะกับพืชน้ำ 2 ชนิด ที่ผู้เขียนนำมาแนะนำให้ผู้อ่านได้รู้จักกัน ซึ่งทั้ง ไข่ผำ และ เทาน้ำ มีประโยชน์หลายอย่างเลยนะคะ และที่เห็นชัดๆเลย ที่ผู้เขียนสัมผัสได้เลยคือ ย่อยง่ายค่ะเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ระบบขับถ่ายดีถ่ายคล่อง มีคุณสมบัติดีท็อกซ์ลำไส้ ขับถ่ายของเสียออกมา ด้วยคุณสมบัติของคลอโรฟิลล์ที่เราเห็นได้ชัดจาก เทาน้ำ และไข่ผำ ที่มีสีเขียวสดใสค่ะ นอกจากนี้ทั้งเทาน้ำ และ ไข่ผำ เกิดขึ้นตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่สะอาด และ ปราศจากสารพิษ ทำให้ไม่มีอันตรายกับร่างกายเลย แต่สิ่งที่ผู้เขียนต้องเน้นย้ำและให้ระวังคือก่อนทาน ต้องผ่านกระบวนการทำให้สุกก่อนเท่านั้นนะคะ เครดิตภาพ:จากครีเอเตอร์ ตกแต่งภาพ:ภาพหน้าปกโดย Canva และภาพประกอบเนื้อหาโดยภาพตัดแปะ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !