มื้อพิเศษเที่ยงนี้ทำ “ปลาทับทิมย่างเกลือ” กับน้ำจิ้มสุดแซ่บ อิ่มกันทั้งครอบครัว สดใหม่ ประหยัด มื้อเที่ยงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ สำหรับใครหลายคนอาจจะเป็นโอกาสดีในการพาครอบครัวออกไปทานอาหารนอกบ้าน แต่สำหรับครอบครัวของผมในวันนั้น เราตัดสินใจกลับกันตรงข้าม เราเลือกที่จะทำอาหารพิเศษกินเองที่บ้านแทน เพราะเชื่อว่าการทำอาหารร่วมกัน ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความสุข และเมนูที่ถูกโหวตกันในครอบครัววันนั้นก็คือ “ปลาทับทิมย่างเกลือ” เมนูยอดฮิตที่หลายคนมักจะนึกถึงเวลานั่งร้านอาหารอีสาน แต่แท้จริงแล้วการทำกินเองที่บ้านก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม และมีความตั้งใจสักหน่อย ก็จะได้จานเด็ดที่ทั้งหอม อร่อย และสดใหม่กว่าซื้อจากร้านแน่นอน 🐟 การเตรียมวัตถุดิบ – เริ่มต้นด้วยความสดใหม่ เช้าวันนั้น (ผู้เขียน)ออกไปตลาดสดใกล้บ้านพร้อมกับแม่ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จุดมุ่งหมายหลักคือการหาปลาทับทิมสด ๆ ที่ยังดิ้นพล่านอยู่ในถังน้ำ ตลาดสดถือเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุด เพราะสามารถเลือกได้ด้วยตา เห็นได้ชัดว่าปลาตัวไหนสด เนื้อแน่น ตาใส ไม่มีกลิ่นคาวแรง ๆ หลังจากเดินดูอยู่พักหนึ่ง เราก็ได้ปลาทับทิมขนาดกำลังดี 2 ตัว น้ำหนักตัวละเกือบกิโล แม่ยังแอบกระซิบว่า “ถ้าเลือกปลามาทำย่างเกลือ ต้องเอาตัวอ้วน ๆ หน่อย จะได้เนื้อแน่นไม่แห้ง” ผมพยักหน้าและจำใส่ใจ เพราะนี่คือเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ร้านอาหารบางร้านอาจมองข้าม นอกจากปลาแล้ว เรายังซื้อเกลือเม็ดหยาบ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และผักสดอย่างผักกาดหอม แตงกวา และผักชีฝรั่งสำหรับทานเคียง รวมถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือวัตถุดิบทำ น้ำจิ้มแซ่บ ไม่ว่าจะเป็นพริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และข้าวคั่วหอม ๆ ที่คั่วเองจากกระทะเล็ก ๆ ที่บ้าน 🔥 ขั้นตอนการทำปลาทับทิมย่างเกลือ เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อกับน้องก็เข้ามาช่วยกันจัดแจงเตรียมอุปกรณ์ย่าง โดยเราจะใช้เตาถ่านแบบบ้าน ๆ กลิ่นควันหอม ๆ ของถ่านไม้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับปลาย่างยิ่งขึ้น 1. การทำความสะอาดปลา เราล้างปลาให้สะอาด ขอดเกล็ดเล็กน้อยตรงบริเวณครีบและท้อง จากนั้นควักไส้ออกและล้างด้วยน้ำสะอาดผสมเกลือเพื่อดับกลิ่นคาว 2. การยัดสมุนไพร เราเตรียมสมุนไพรอย่างตะไคร้หั่นท่อน ข่าหั่นบาง ๆ และใบมะกรูดยัดเข้าไปในท้องปลา สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยให้เนื้อปลาหอมขึ้นเวลาย่าง 3. การชโลมเกลือ ขั้นตอนสำคัญคือการทาเกลือเม็ดหยาบให้ทั่วตัวปลา โดยเราจะละลายน้ำเกลือเล็กน้อยแล้วพรมลงบนผิวปลาก่อน จากนั้นจึงเอาเกลือเม็ดหยาบโรยและกดให้ติดกับผิวปลา เนื้อเกลือจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของเนื้อปลา ทำให้ไม่แห้งและยังช่วยดึงรสชาติให้กลมกล่อม 4. การย่างบนเตาถ่าน เรานำปลาไปวางบนตะแกรงเหนือถ่านที่ไฟกลาง ๆ ไม่แรงเกินไป ย่างช้า ๆ พลิกกลับไปมา ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ระหว่างที่ย่าง กลิ่นหอมของปลากับสมุนไพรลอยอบอวลไปทั่วบ้าน เสียงหนังปลากรอบ ๆ แตกดัง “แป๊ะ” เป็นระยะ ๆ เรียกน้ำย่อยได้อย่างดี 🌶️ น้ำจิ้มสุดแซ่บ – คู่หูปลาย่างเกลือ ถ้าพูดถึงปลาย่างเกลือแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ น้ำจิ้มสุดแซ่บ ที่จะทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น น้ำจิ้มที่เราทำมี 2 แบบ: 1. น้ำจิ้มซีฟู้ด – ใช้พริกขี้หนูสวน กระเทียม น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล และผักชีซอย ตำรวมกันจนได้รสเปรี้ยวเค็มหวานเผ็ดครบเครื่อง 2. น้ำจิ้มแจ่ว – ใช้พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และข้าวคั่วหอม ๆ เคล้ากันจนได้กลิ่นหอมชวนหิว ความพิเศษของน้ำจิ้มที่บ้านคือการทำใหม่ทุกครั้ง ไม่มีการเก็บค้าง ทำให้ได้รสชาติสดจัดจ้านกว่าในร้านหลายแห่ง 🍽️ บรรยากาศการกินร่วมกัน เมื่อปลาสุกได้ที่ หนังเกลือกรอบแตก เนื้อขาวนวลด้านในส่งกลิ่นหอม พ่อก็จัดการยกปลาขึ้นมาเสิร์ฟบนถาดใหญ่ จัดวางเคียงคู่กับผักสดและน้ำจิ้มทั้งสองถ้วย บรรยากาศรอบโต๊ะอาหารในวันนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เนื้อปลาชิ้นโตใส่จานให้แม่ แม่ก็หัวเราะบอกว่า “อย่าเอาแต่หนังให้สิ ขอเนื้อด้วย” ส่วนผมกับน้องก็แข่งกันลองน้ำจิ้มว่าแบบไหนอร่อยกว่ากัน คนหนึ่งบอกว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด อีกคนยืนยันว่าน้ำจิ้มแจ่วหอมข้าวคั่วที่สุด ทุกคำที่ตักเข้าปาก เนื้อปลานุ่มชุ่มฉ่ำ ละมุนกับรสเปรี้ยวเผ็ดของน้ำจิ้ม กลายเป็นความอร่อยที่ไม่ต้องเสียเงินหลายร้อยเหมือนนั่งร้าน เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดในวันนั้น ปลาทับทิมสด 2 ตัว ราคาไม่ถึง 200 บาท สมุนไพรและผักสดอีกไม่เกิน 100 บาท รวม ๆ แล้วมื้อใหญ่สำหรับครอบครัว 4 คนตกเพียง 300 บาทเท่านั้น แต่ถ้าหากเราไปทานที่ร้านอาหารอีสานทั่วไป ปลาย่างเกลือตัวหนึ่งก็อาจจะราคาตั้งแต่ 200–250 บาทขึ้นไป แถมยังต้องเสียค่าเดินทางและเครื่องดื่มเพิ่มอีก ดังนั้น การทำกินเองที่บ้านไม่เพียงแค่คุ้มค่า แต่ยังมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบสดใหม่ ปลอดภัย และได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร “ปลาทับทิมย่างเกลือ” จึงไม่ใช่แค่อาหารธรรมดา แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการใช้เวลาร่วมกัน ความใส่ใจในรายละเอียด และการสร้างความทรงจำดี ๆ ภายในครอบครัว บางครั้งเรามักคิดว่าอาหารอร่อยต้องหาซื้อนอกบ้าน แต่แท้จริงแล้ว ความอร่อยที่สุดอาจเกิดจากฝีมือของเราเอง และสิ่งที่ทำให้มื้อนั้นสมบูรณ์แบบ คือคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะมากกว่าวัตถุดิบหรือสูตรลับใด ๆ ภาพประกอบ/ภาพหน้าปกโดย:ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !