เคล็ดลับเลือกน้ำเต้าหู้ ไม่ผสมแป้งเยอะ มีคุณภาพ ดูยังไง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล การเลือกซื้อน้ำเต้าหู้ที่ตลาดสดนั้น อาจจะยากกว่าการเลือกซื้อน้ำเต้าหู้แบบสำเร็จรูปหรือแบบผงนะคะ เพราะว่าไม่มีฉลากให้ดูเลย ที่สำคัญตอนเขาทำเราก็ไม่เห็นอีก ที่ก็ทำให้หลายคนอดคิดมากไม่ได้เวลาต้องไปซื้อ ด้วยความที่ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงและสังเกตยังไง ทำให้ในบางครั้งก็ได้น้ำเต้าหู้ที่ไม่ค่อยถูกใจนัก ยังตกอยู่ในสถานการณ์นี้อยู่หรือเปล่าคะ? แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะปัญหานั้นหายไปแน่นอน ถ้าคุณผู้อ่านได้ลองเนื้อหาในบทความนี้ให้จบ เพราะในบทความนี้ผู้เขียนมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากค่ะ ที่เป็นเคล็ดลับเฉพาะเอาไว้ใช้ตอนไปเลือกน้ำเต้าหู้เลย ที่เราสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองง่ายๆ และรู้ได้ทันทีค่ะ ซึ่งมีเคล็ดลับอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ? งั้นอ่านต่อกันเลยดีกว่า 1. สังเกตสีและเนื้อสัมผัส การสังเกตสีและเนื้อสัมผัสของน้ำเต้าหู้ เป็นวิธีง่ายๆ ในการประเมินคุณภาพเบื้องต้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ สีของน้ำเต้าหู้ที่ดีจะขึ้นอยู่กับชนิดของถั่วเหลืองที่นำมาทำ และความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยทั่วไปแล้วสีจะออกเหลืองอ่อนๆ หรือสีครีม สีที่สดใสเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าน้ำเต้าหู้มีความสดใหม่ สีที่ผิดปกติอาจบ่งบอกว่ามีการเติมสารอื่นๆ ลงไป ถ้าพบว่าน้ำเต้าหู้มีสีเหลืองเข้มผิดปกติ อาจเป็นเพราะการคั่วถั่วเหลืองมากเกินไป หรือมีการเติมสีสังเคราะห์ น้ำเต้าหู้ที่ดีเมื่อคนหรือเขย่าแล้ว 2. ดมกลิ่น กลิ่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงคุณภาพของน้ำเต้าหู้ การดมกลิ่นก่อนการเลือกซื้อจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าน้ำเต้าหู้ที่ได้นั้นมีความสดใหม่และทำจากวัตถุดิบคุณภาพดี กลิ่นถั่วเหลืองเป็นกลิ่นที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของน้ำเต้าหู้แท้ที่ทำจากถั่วเหลืองคุณภาพดี โดยกลิ่นนี้จะหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนรุนแรง และเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยของคนที่ชื่นชอบน้ำเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ที่เพิ่งต้มใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมของถั่วเหลืองชัดเจน หากมีกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นอื่นๆ ปนมา อาจบ่งบอกว่าน้ำเต้าหู้นั้นบูดเสียแล้ว หรือเก็บไว้นานเกินไป กลิ่นของน้ำเต้าหู้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของถั่วเหลืองที่นำมาใช้ หากกลิ่นผิดปกติ อาจเป็นเพราะมีการเติมสารปรุงแต่งอื่นๆ ลงไป กลิ่นที่ไม่ควรมี ได้แก่ กลิ่นเปรี้ยว: บ่งบอกว่าน้ำเต้าหู้นั้นบูดเสียแล้ว กลิ่นเหม็น: อาจเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย กลิ่นอื่นๆ ที่ผิดปกติ: เช่น กลิ่นไหม้ กลิ่นเค็ม หรือกลิ่นหืน 3. สังเกตความข้น ความข้นของน้ำเต้าหู้เป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงคุณภาพและรสชาติ การเลือกน้ำเต้าหู้ที่มีความข้นพอดี จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้รับคุณค่าจากสารอาหารต่างๆ ในถั่วเหลืองอย่างเต็มที่ และได้เพลิดเพลินกับรสชาติที่อร่อยด้วย ซึ่งความข้นพอดี หมายถึงความข้นของน้ำเต้าหู้ที่ไม่เหลวจนดูเหมือนน้ำเปล่า และไม่ข้นจนเหมือนแป้งหรือวุ้น ความข้นที่เหมาะสมจะทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม และสัมผัสที่นุ่มนวลเมื่อดื่ม หากน้ำเต้าหู้ข้นผิดปกติ อาจมีการเติมแป้งเพื่อเพิ่มความข้น ความข้นที่พอดีจะช่วยให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม หากเหลวเกินไปจะได้รสชาติจืดชืด หากข้นเกินไปจะรู้สึกหนืดและเลี่ยน และวิธีสังเกตความข้น มีดังนี้ค่ะ เทน้ำเต้าหู้ลงในแก้ว: สังเกตดูว่าน้ำเต้าหู้ไหลลงมาช้าเร็วแค่ไหน หากไหลเร็วเกินไปแสดงว่าเหลวเกินไป หากไหลช้ามากแสดงว่าข้นเกินไป ใช้ช้อนคน: คนน้ำเต้าหู้เบาๆ สังเกตความข้นและความเนียนของเนื้อ ดื่ม: การดื่มจะทำให้รู้สึกได้ถึงความข้นของน้ำเต้าหู้ได้ชัดเจนที่สุดค่ะ 4. สังเกตความสะอาด การสังเกตความสะอาดของภาชนะและบริเวณที่ขายน้ำเต้าหู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำเต้าหู้ที่เราจะซื้อไปบริโภคนั้นมีความสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพค่ะ โดยภาชนะที่บรรจุน้ำเต้าหู้ควรสะอาด ไม่มีคราบสกปรกหรือเศษอาหารติดอยู่ ควรเลือกภาชนะที่ทำจากวัสดุที่สะอาดได้ง่าย เช่น สแตนเลส หรือพลาสติกที่ได้มาตรฐาน ภาชนะควรมีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือแมลงเข้าไปปนเปื้อน ภาชนะควรจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไม่วางซ้อนกันจนเกินไป บริเวณที่ทำการขายควรสะอาด ไม่มีเศษขยะหรือสิ่งสกปรก อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำน้ำเต้าหู้ เช่น หม้อ ช้อน ควรสะอาด วัตถุดิบ เช่น น้ำเชื่อม ลูกเดือยต้ม ควรจัดเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท และอยู่ในที่สะอาด 5. เนื้อสัมผัส น้ำเต้าหู้ควรมีเนื้อละเอียด ไม่จับตัวเป็นก้อน หรือมีตะกอนลอยอยู่ เนื้อสัมผัสของน้ำเต้าหู้ที่เนียนละเอียด เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดีของน้ำเต้าหู้ เพราะแสดงให้เห็นว่าถั่วเหลืองถูกบดละเอียดเป็นอย่างดี และผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง ไม่ได้มีการเติมสารอื่นๆ เพิ่มเติมมากเกินไป หากน้ำเต้าหู้จับตัวเป็นก้อน หรือมีตะกอนลอยอยู่ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาหลายอย่างได้แก่ การเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธี: การเก็บน้ำเต้าหู้ไว้ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม หรือเป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้น้ำเต้าหู้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ทำให้โปรตีนจับตัวเป็นก้อนได้ การเติมแป้ง: ผู้ผลิตบางรายอาจเติมแป้งลงไปในน้ำเต้าหู้เพื่อเพิ่มความข้นหนืด ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง แต่จะส่งผลต่อรสชาติและคุณค่าทางอาหารของน้ำเต้าหู้ การปนเปื้อน: อาจมีสิ่งปนเปื้อน เช่น ฝุ่นละออง หรือจุลินทรีย์เข้าไปในน้ำเต้าหู้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและเคมี คุณภาพของถั่วเหลือง: ถั่วเหลืองที่นำมาผลิตน้ำเต้าหู้ อาจมีคุณภาพไม่ดี หรือมีปริมาณโปรตีนต่ำ ทำให้น้ำเต้าหู้มีเนื้อสัมผัสที่ไม่ดี 6. ซื้อในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากว่าน้ำเต้าหู้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ การเก็บรักษานานๆ อาจทำให้น้ำเต้าหู้เสียรสชาติ ความสดใหม่ และคุณค่าทางอาหารลดลงได้ เมื่อเก็บน้ำเต้าหู้ไว้นาน อาจมีโอกาสที่แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์อื่นๆ จะเข้าไปปนเปื้อน ทำให้น้ำเต้าหู้นั้นบูดเสีย อีกทั้งโปรตีนในน้ำเต้าหู้เมื่อสัมผัสกับอากาศและความร้อนเป็นเวลานาน อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ทำให้เนื้อสัมผัสของน้ำเต้าหู้เปลี่ยนไป อาจจับตัวเป็นก้อน หรือมีกลิ่นผิดปกติค่ะ ดังนั้นการซื้อน้ำเต้าหู้ในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยให้เราได้ดื่มน้ำเต้าหู้ที่สดใหม่และคุณภาพดีค่ะ 7. หลีกเลี่ยงน้ำเต้าหู้ที่มีฟองมากเกินไป การมีฟองในน้ำเต้าหู้เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากโปรตีนจากถั่วเหลืองเมื่อถูกความร้อนจะเกิดการจับตัวเป็นฟอง แต่ หากมีฟองมากเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาบางอย่างได้ เช่น การเติมแป้ง: ผู้ผลิตบางรายอาจเติมแป้งลงไปในน้ำเต้าหู้เพื่อเพิ่มความข้นหนืด ทำให้เกิดฟองมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อรสชาติและคุณค่าทางอาหารของน้ำเต้าหู้ การเติมสารอื่นๆ: นอกจากแป้งแล้ว อาจมีการเติมสารอื่นๆ เช่น สารเพิ่มความข้น หรือสารกันบูด เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งสารเหล่านี้หากมีปริมาณมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ค่ะ การหมัก: หากน้ำเต้าหู้ถูกหมักนานเกินไป อาจทำให้เกิดการหมักดอง ซึ่งจะทำให้เกิดฟองจำนวนมาก และอาจส่งผลให้น้ำเต้าหู้มีรสเปรี้ยวหรือมีกลิ่นผิดปกตินะคะ ดังนั้นถึงแม้ว่าฟองในน้ำเต้าหู้จะเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีฟองมากเกินไป ก็ควรระวังค่ะ เพราะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าน้ำเต้าหู้นั้นมีการเติมสารอื่นๆ เพื่อเพิ่มปริมาณหรือปรับปรุงลักษณะ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ พอจะมองภาพออกกันแล้วใช่ไหมคะว่า น้ำเต้าหู้ที่ดีและน่าซื้อเป็นแบบไหนและดูยังไง ซึ่งเคล็ดลับดีๆ ในนี้ผู้เขียนก็ได้นำไปใช้เหมือนกันค่ะ ที่มักเลือกจากร้านที่ไว้ใจได้ ซึ่งในตอนแรกเราจะยังไม่รู้ ดังนั้นอาจต้องลองซื้อน้ำเต้าหู้จากหลายๆ ร้านดูก่อน เพื่อเลือกร้านที่ดีที่สุด ที่ก็ต้องไม่ลืมที่จะต้องดูเรื่องของความข้น กลิ่นหอมตามธรรมชาติของน้ำเต้าหู้ และผู้เขียนมักซื้อมาแค่พอดีๆ ค่ะ ซึ่งส่วนมากจะซื้อ 1-2 ถุง แบบใส่เครื่องแต่ไม่เติมน้ำตาล ยังไงนั้นคุณผู้อ่านก็สามารถนำข้อมูลในบทความนี้ไปใช้ได้ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/2lx8Y15oGDDl https://food.trueid.net/detail/84b8LLpvwGaY https://food.trueid.net/detail/Dl6mKwLKGdxZ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !