ช่วงนี้หลายคนพร้อมใจกันกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤติไวรัส COVID - 19 ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศไทย ส่งผลให้บรรดาร้านอาหาร รวมไปถึงร้านค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า ไม่มีผู้คนเดินพลุกพล่าน นั่งทานอาหาร ดูหนัง หรือเดินจับจ่ายใช้สอยกันเหมือนเช่นในวันวาน ซึ่งแน่นอนว่าการป้องกันตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่เราสมควรกระทำ เพราะช่วงเวลาเช่นนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการดูแลรักษาตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและงดการเดินทางไปในที่ที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการติดโรคร้าย แต่สำหรับใครที่เบื่อหน่ายกับการที่ต้องอยู่บ้านนาน ๆ และไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี อยากจะออกไปเดินเล่นหรือสูดอากาศนอกบ้านบ้าง ก็สามารถทำได้แต่ต้องรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เช่น การใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และไม่ใช้สิ่งของที่เป็นของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และที่สำคัญต้องล้างมือ หรือใช้เจลล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อโรคให้บ่อยครั้งขึ้นหลังการหยิบสิ่งของต่าง ๆ ในที่สาธารณะ จึงทำให้การออกนอกบ้านเป็นเรื่องปลอดทั้งต่อตัวเราเองและผู้อื่น นอกจากการออกมาเดินเล่นนอกบ้านจะเป็นการคลายความเบื่อหน่ายและวิตกกังวลแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม เนื่องจากวิกฤติการระบาดของไวรัสครั้งนี้จะสร้างความเจ็บป่วยให้กับผู้คนแล้ว ยังสร้างความบอบช้ำให้กับระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และคลายความวิตกกังวล ในวันนี้จึงมีร้านอาหารแนะนำซึ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า The Mall งามวงศ์วาน ชื่อร้านว่า "Mongkok" (มงก๊ก) สุกี้ยากี้ ซึ่งเป็นร้านสุกี้ยากี้ บุฟเฟ่ต์หม้อไฟสไตล์ฮ่องกง (เนื่องจากคำว่า "มงก๊ก" เป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งในฮ่องกง) โดยความโดดเด่นอยู่ที่ประเภทของนำซุป และวัตถุดิบที่หลากหลาย มีทั้ง ซีฟู้ด เนื้อ เนื้อหมู และของหวานอย่างไอศครีมฮาเก้นดาส และแมกนั่ม ตลอดจนเมนูพริเมี่ยมต่าง ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น สำหรับบรรยากาศภายในร้าน จะเห็นว่าขนาดพื้นที่ภายในร้านกำลังพอดีไม่แคบจนเกินไป แต่ละโต๊ะก็อยู่ห่างกันพอสมควร ไม่เบียดแน่นหรือรู้สึกถึงความแออัด จึงทำให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวพอสมควร และหลังจากที่ได้คิวแล้ว ทางร้านก็จะพาไปนั่งที่โต๊ะโดยมีน้ำซุปมาให้เลือกก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งถือเป็นความโดดเด่นของทางร้านเนื่องจากมีน้ำซุปให้เลือกถึง 5 อย่าง ได้แก่ ซุปมะพร้าว ซุปเยื่อไผ่ ซุปต้มยำน้ำข้น ซุปปลาทะเลน้ำลึก และซุปหมาล่า แถมเป็นสุกี้ยากี้แบบแยกหม้อ แยกเตา ซึ่งขนาดของหม้อก็พอดีกับความสามารถในการรับประทานของแต่ละคน ที่ไม่ใหญ่หรือเทอะทะเกินไป ซึ่งครั้งนี้ผมเลือกน้ำซุปต้มยำน้ำข้น ซึ่งรสชาติจัดจ้านถึงใจแบบต้มยำรสไทยแท้ ส่วนเพื่อนที่มารับประทานด้วยกันอีกคนเลือกน้ำซุปมะพร้าว ซึ่งได้ลองชิมแล้วมีความหอมหวานของมะพร้าว และมีความเป็นต้มยำน้ำใสนิด ๆ แต่โดยรวมแล้วอร่อยลงตัว ขอแนะนำเลยสำหรับซุปมะพร้าว ในส่วนของวัตถุดิบที่ทางร้านมีให้นั้นเรียกได้ว่าจัดใหญ่ให้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของซีฟู้ดที่ขนมาทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึกกระดอง หอยตลับ หอยเชลล์ หอยหลอด ปลากะพง ฯลฯ ซึ่งมีให้เลือกละลานตาจนเลือกไม่ถูก รวมไปถึงเนื้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อน่องลาย เนื้อติดมัน เนื้อสันคอ ส่วนเนื้อหมูก็จัดเต็มไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นหมู่นุ่ม หมู่หมัก หมูบด สันคอหมู เบคอน รวมไปถึงพวกเครื่องในก็มีพร้อม ส่วนเนื้อไก่ก็ไม่น้อยหน้ามีทั้งไก่หมักงา ไก่นุ่ม ฯลฯ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอาหารทานเล่น เช่น ต๊อกโปกิแบบเกาหลี ขนมจีบ ซาลาเปา ฯลฯ และวัตถุดิบประเภทลูกชิ้นหลากหลายชนิด ตลอดจนในส่วนของผักสด ก็มีทั้งผักใบเขียว และเห็ดต่าง ๆ มากมายให้เลือกไปรับประทานกันจนลืมน้ำหนักตัว ในส่วนของน้ำจิ้มซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของอาหารประเภทนี้ ทางร้านก็มีให้เลือกด้วยการถึง 5 แบบ ทั้งน้ำจิ้มสุกี้สูตรดั้งเดิม น้ำจิ้มแบบไต้หวัน น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มหมาล่า จากที่ได้รับประทานครบทั้ง 5 แบบแล้ว ต้องบอกว่าน้ำจิ้มสุกี้สูตรดั้งเดิมของทางร้านนั้น อร่อยเลิศ และเข้มข้นแบบครบรสที่สุดแล้ว รองลงมาก็น้ำจิ้มหมาล่าที่มีความเผ็ดชาใกล้เคียงกับตอนไปรับประทานที่เมืองจีนอยู่บ้าง แต่ระดับความเผ็ดชายังห่างชั้นกันพอสมควร เนื่องจากเข้าใจว่าต้องปรับรสชาติให้สอดคล้องกับบ้านเรา เมื่อรับประทานของคาวกันจนเป็นที่อิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ถึงเวลาไปบรรเลงของหวานที่มีให้เลือกละลานตาไม่แพ้อาหารจานหลัก ไล่กันไปตั้งแต่ ตู้ขนมที่มีทั้งแตงโมหวานฉ่ำเสียบไม้ให้เลือกไปรับประทานดับร้อน หรือจะเป็นในส่วนของมะม่วงปั่น ช็อกโกแลตมูส พุดดิ้งมะม่วง พุดดิ้งทุเรียน พุดดิ้งกล้วย ทีรามิสุ มูสชาไทย มูสช็อกโกแลต เค้กมันม่วงถั่วแดง และยังมีนมกล้วย นมชาเขียว นมมอคค่า นมทุเรียน ที่มีให้หยิบเป็นขวด ๆ แบบไม่อั้น รวมไปถึงความโดดเด่นแบบพรีเมี่ยมอีกอย่างคือไอศกรีมฮาเก้นดาส และแมกนั่งที่มีให้เลือกหยิบแบบเต็มที่หมดก็เติมเรื่อย ๆ ไม่มีกั๊ก ซึ่งแค่มาทานไอศกรีม 2 ยี่ห้อนี้ก็คุ้มแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ทางร้านยังมีเมนูพิเศษ เช่น วอฟเฟิ้ลฮ่องกง และบิงซู ที่สามารถสั่งพิเศษได้เรื่อย ๆ หากใครที่เป็นคอสุกี้ยากี้ หรืออาหารประเภทชาบูหม้อไฟอยู่แล้วก็ไม่ควรที่จะมาลองรสชาติสไตล์ฮ่องกง และจีนของที่ร้านนี้ โดยราคาต่อคนจะอยู่ที่ 499 บาท (ยังไม่รวม VAT) รับประทานได้ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งก็คุ้มค่ามาก ๆ ถ้าเทียบกับวัตถุดิบที่ได้ กับจำนวนเมนูอาหารที่ครบทั้งคาวหวาน รวมไปถึงการได้ทานน้ำซุปแบบเต็ม ๆ โดยไม่ต้องไปแชร์หม้อกับใครให้วุ่นวายจนเสียรส สำหรับร้านสุกี้ยากี้ Mongkok นี้ ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 สาขาด้วยกัน ได้แก่ สาขาชิดลม ที่ Mercury Ville สาขาเอกมัย และสาขาที่ผมมารับประทานในครั้งนี้ คือที่สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ซึ่งอยู่ที่ชั้น 5 โดยสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมหรือจองโต๊ะได้ที่ หมายโทรศัพท์ 02–121–4735 เรื่องและภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน