ปกติคนไทยน่าจะคุ้นเคยกับกิมจิผักกาดขาว หรือแพชูกิมจิ (배추김치) แต่จริงๆ แล้วกิมจิมีหลากหลายประเภท และสามารถใช้ผักหลายชนิดมาทำได้ด้วย เช่นกิมจิแตงกวา หรือโออีกิมจิ (오이김치)กิมจิหัวไชเท้า หรือคักดูกิกิมจิ (깍두기김치)กิมจิต้นหอม หรือพากิมจิ (파김치)กิมจิใบงา หรือแกนิบกิมจิ (깻잎김치)แต่ปัจจุบัน ตามความชอบของแต่ละคนสามารถนำผักชนิดอื่นๆ มาทำกิมจิได้เหมือนกัน อย่างกิมจิเห็ดเข็มทอง หรือแพงอีบอซอทกิมจิ (팽이버섯김치) ด้วยเท็กซ์เจอร์ของเห็ดเข็มทองที่มีความกรุบๆ และยังเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย มีทั้งโปรตีน เกลือแร่ และเส้นใย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งหากรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ฯลฯโดยอีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำเห็ดเข็มทองมาปรุงในปริมาณมากๆ เพื่อเก็บไว้รับประทานก็คือ การทำในรูปแบบกิมจิ ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาทำซอสกิมจิให้ยุ่งยาก สามารถสั่งซอสกิมจิเพื่อนำมาใช้ปรุงได้เลย ทำให้การทำใช้เวลาน้อย และไม่ยุ่งยากเลย โดยมีส่วนผสมเพียง 3 อย่างเห็ดเข็มทองต้นหอมซอสกิมจิสำเร็จรูปมิสเตอร์เคกิมจิ1. เริ่มด้วยการตัดส่วนโคนของเห็ดเข็มทองออกให้หมด และดึงเห็ดเข็มทองให้ออกจากกัน เพื่อไม่ให้จับกันเป็นก้อน และนำไปล้างน้ำให้สะอาด2. ตั้งน้ำเปล่าเดือดเพื่อลวกเห็ดเข็มทอง โดยไม่ต้องลวกให้นานเกินไป3. นำเห็ดเข็มทองที่ลวกแล้วมาล้างน้ำอีกครั้งเพื่อลดอุณหภูมิ โดยใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็นก็ได้ จากนั้นบีบน้ำออกให้มากที่สุด4. ใส่เห็ดเข็มทอง ต้นหอมหั่น และซอสกิมจิในภาชนะที่เตรียมไว้ และคลุกเคล้าให้เข้ากัน ให้ซอสกิมจิซึมเข้าไป5. นำกิมจิเห็ดเข็มทองใส่กล่องและแช่ไว้ในตู้เย็นถ้าชอบผักเยอะๆ ก็สามารถใส่แครอทเพิ่มได้ด้วย และในชุดซอสกิมจิสำเร็จรูปมิสเตอร์เคกิมจิจะมีพริกป่นและงาขาวมาให้ด้วย หากชอบรสจัดเข้มข้นก็สามารถใส่พริกป่นเพิ่ม และโรยงาขาวด้านบนโดยหลังจากทำเสร็จสามารถรับประทานแบบสดๆ ได้ทันที หรือหากชอบแบบรสเปรี้ยวนิดหน่อยก็สามารถเก็บไว้ 3 - 5 วันในตู้เย็นแล้วค่อยนำมารับประทานกับข้าวสวย หรือคู่กับเนื้อสัตว์อื่นๆ ก็ได้รูปภาพ: NOMADICLIFESTYLEห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป