แกงไตปลา เป็นอาหารไทยของชาวภาคใต้ มีรสชาติจัดจ้าน ค่อนข้างเผ็ดนัว แต่เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติทุกๆคนต่างติดใจซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีวิธีทำที่แตกต่างกัน สามารถนำมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ผักเครื่องเคียงก็ได้ หรือจะทานร่วมกับขนมจีนก็อร่อยเข้ากันดี คุณประโยชน์ของแกงไตปลา เป็นอาหารหลักของทางภาคใต้เลยก็ว่าได้ ไตปลาทำมาจากการนำพุงปลา หรือกระเพาะปลามาทำการหมักดองไว้ถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งเมื่อหมักได้พอประมาณแล้วก็นำมาทำแกง ให้เกิดรสชาติเผ็ด เค็มครบเครื่อง ซึ่งประโยชน์ของแกงไตปลานั้นเป็นอาหารดองที่มีโปรตีนสูง นำมาทำอาหารเครื่องปรุงนั้นล้วนแต่มีผักสมุนไพรต่าง ช่วยแก้เรื่องท้องผูกรสเผ็ดช่วยให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น ไขมันปลาเป็นไขมันดี ได้วิตามีนจากผักมากมาย มีกากใยที่ช่วยในเรื่องขับถ่ายได้ดี ข้อเสียของแกงไตปลา เพราแกงไตปลาเป็นอาหารที่มีรสชาติเผ็ดจัด มีความเค็ม เพื่อหลีกเลี่ยงเราจึงไม่ควรรับประทานน้ำแกงไตปลามากเกินไป และควรพยายามทานด้วยเครื่องเคียงที่เป็นผักเยอะๆ หรืออาจรับประทานร่วมกับอาหารอย่างอื่นก็ได้ตามเข้าไป ที่ไม่ทำให้เค็มเกินไปเพราะความเค็มนั้น จะทำให้ไตของเราทำงานอย่างหนัก เนื่องจากความเค็ม อาจจะทำให้เกิดปัญหาของโรคไตก็ได้ เครื่องแกงไตปลานั้น ก็ถือว่าเป็นอาหารอย่างหนึ่งที่มีรสเค็ม ซึ่งวันนี้เราจะมาแจกสูตรแกงไตปลา ที่สามารถทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน หรือหอพัก เพราะบางทีหาซื้อทานก็ไม่ถูกปากเท่าทำกินเองจริงๆ ไปกันเลย!! เตรียมอุปกรณ์ เครื่องปรุง 1. เครื่องแกงไตปลาจะแบบน้ำแกงหรือแบบแห้งก็ได้ 2. เนื้อปลาทูแกะ 3. น้ำเปล่า 4. หน่อไม้ต้มหั่นชิ้นพอดีคำ 5.มะเขือเปราะ 6. ถั่วฝักยาว 7. ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 8. ใบมะกรูด 9. ตะไคร้ 10. ข่า วิธีทำ ตั้งหม้อให้เดือด เทเครื่องแกงไตปลาลงไปของเราจะใช้แบบแห้งค่ะ เคี้ยวให้ละลายเข้ากัน ใส่ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูดฉีด เคี้ยวต่อไป จนมีกลิ่นหอม ใส่ฟักทอง ต้มต่อไปพอฝักทองสุกใส มะเขือเปราะ หน่อไม้ต้ม ถั่วฝักยาว แล้วต้มต่อไปอาจจะปรุงรสด้วยน้ำตาลหรือน้ำมะขามเปียกก็ได้ ต้มต่อไป ต้มต่อไปอีก ใส่เนื้อปลาทูที่แกะไว้ เคี้ยวต่อจนเดือด เมื่อมะเขือเปราะสุก ใส่ใบมะกรูดเพิ่มความหอม เป็นอันเสร็จ ยกเสิร์ฟ แกงไตปลาถือเป็นอาหารช่วยลดน้ำหนักอีกอย่างหนึ่ง เพราะในแกวนั้นประกอบไปด้วยผักหลากหลายชนิด และไม่มีกะทิและความเผ็ดของแกงช่วยในเรื่องของการเผาผลาญแคลอรี่ได้ด้วย แกงไตปลา 1 ถ้วยให้แคลอรี่ประมาณ 50 แคลอรี่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก