ร้านอาหารที่มีชื่อว่า The Peak Wine and Grill ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย อยู่บนชั้น 10 รูฟท็อปของโรงแรมห้าดาว ที่แต่เดิมเคยชื่อโรงแรมดุสิตธานี แต่ตอนนี้มีชื่อว่า เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี ( The Riverie by Katathani ) The Peak Wine and Grill เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 - 24.00 น. (ออเดอร์สุดท้ายก่อนครัวปิดคือเวลา 22.15 น.) ร้านแห่งนี้เป็นร้านอาหารสไตล์นานาชาติ มีการตกแต่งร้านสไตล์ยุโรปร่วมสมัย ภายในร้านมีโต๊ะที่นั่งทั้งบริเวณ Indoor และ Outdoor อีกทั้งยังมีดนตรีสดทุกค่ำคืน หากใครที่ชอบเสียงเปียโน และไวโอลีนสด ไม่ควรพลาด เมื่อมาถึงร้าน พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใส เดินนำพวกเราไปนั่ง โดยครั้งนี้ฉันเลือกที่จะนั่งชมวิวกลางคืนของตัวเมืองจังหวัดเชียงราย จึงเลือกโต๊ะ Outdoor วิวยามค่ำคืนสามารถมองเห็นวิวของน้ำแม่กก และเห็นไกลไปถึงเจ้าแม่กวนอิมของวัดห้วยปลากั้ง (สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ วัดห้วยปลากั้งได้ที่นี่ https://bit.ly/31qdaMd) บริกรนำเมนูมาให้เลือก ชื่อของเมนูเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด พวกเราเลือกจะรับประทานอาหาร Full Course ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟทางร้านได้จัดเตรียมอาหารทานเล่นไว้รอ นั่นก็คือ Black Sesame Bread Stick with Black Olive Tapenade เป็นขนมปังโรยงาดำแท่งยาว บางคนอาจเรียกขนมปังขาไก่งาดำ ทานคู่กับ มะกอกดำปรุงรส จากนั้นบริกรอีกท่านจึงนำขนมปังสดหอมกรุ่นจากเตา ใส่ตะกร้ามาให้เลือกทานคู่กับเนยเค็ม สำหรับเมนู Full Course ที่ได้เลือกมีดังนี้ 1. Seared Scallop เมนูจานนี้เป็นการนำหอยเชลล์มาย่าง ตกแต่งด้วยมะเขือเทศ และโฟมไวน์ขาว (เมนู Compliment จากทางร้าน) 2. Asparagus Soup ซุปหน่อไม้ฝรั่งรสชาติเข้มข้นนุ่มลิ้น ที่มีเนื้อกุ้งผสมอยู่ในซุป พร้อมอัลมอนต์ฝานโรยหน้า เหยาะหน้าซุปด้วยน้ำมันพาร์สลีย์กลิ่นหอม ราคา 250 บาท 3. Chiang Rai River Prawns เป็นการคัดกุ้งแม่น้ำตัวโตจากเชียงราย ราดด้วยครีมไวน์ขาว เสิร์ฟคู่กับสลัดมันฝรั่ง ซัลซ่ามะเขือเทศ-อโวคาโด ตกแต่งจานด้วยFluid Gel มะม่วง ราคา 450 บาท 4. Lychee and Jasmine Sherbet พักครึ่งด้วยเชอร์เบทรสลิ้นจี่ และดอกมะลิ ก่อนจะนำเข้าสู่ Main Course (เมนู Compliment จากทางร้าน) 5. Pork duo เมนูนี้เป็นการนำเนื้อสันในหมูคุโรบุตะ และหมูสามชั้นทอดกรอบ จัดอยู่ในจานเดียวกัน ราดด้วยซอสพุทรา และครีมชีสกอร์กอนโซล่า ตกแต่งจานด้วย แครอท มะเขือเทศ และบ็อคชอย ราคา 500 บาท 6. Pan Seared Pacific Salmon Trout เป็นการนำปลาแซลม่อนเทร้า มาย่างให้หนังพอกรอบ ราดด้วยซอสฮอลแลนเดซ รับประทานพร้อมกับ มันฝรั่ง เห็ดแชมปิญอง ตกแต่งจานด้วย เมล็ดถั่วลันเตาทรัฟเฟิลเพียวเร่ และ Fluid Gel มะเฟือง ราคา 510 บาท 7. Trio Crème Brulee ตบท้ายด้วยของหวานสไตล์ยุโรปที่มีให้เลือก 3 รสชาติ คือ รสดอกมะลิ, รสวนิลา และรสชาเขียว ราคา 220 บาท ทางร้านขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งรวมไวน์ชั้นเลิศของจังหวัดเชียงราย แต่เนื่องด้วยฉันไม่ค่อยชอบดื่มไวน์ และทางร้านไม่มี Sangria ดังนั้นเครื่องดื่มที่พวกเราเลือกสำหรับรับประทานคู่กับอาหารเย็นมีดังนี้ 1. เบียร์สิงห์ ราคา 140 บาท/ขวด 2. Jack and Coke ราคา 250 บาท/แก้ว เป็นการผสมวิสกี้กับโคล่าเข้าด้วยกัน 3. Chiang Rai Paradise ราคา 240 บาท/แก้ว เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ฉันชื่นชอบเพราะรสชาติหวาน ดื่มง่าย เครื่องดื่มมีส่วนผสมของ วอดก้า รสพีช, Triple Sec, น้ำสับปะรด, น้ำเสาวรด และเกรนาดีน 4. น้ำแร่ Evian ราคา 110 บาท/ขวด การได้มาเยือนที่ร้านอาหารแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในทริปดี ๆ ที่น่าประทับใจ เป็นการดินเนอร์ใต้แสงดาว ในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาของเมืองเชียงราย อาหารทุกจานทำมาจากวัตถุดิบที่สดใหม่ มีรสชาติอร่อย และมีบริการระดับห้าดาวสมชื่อสมราคา สำหรับอาหารเย็นในมื้อนี้อยู่ที่ราคา 3,160 บาท ไม่รวมทิป 20% Photos by : Prapaporn Prapunkul ที่อยู่ The Peak Wine and Grill : 1129 ถ.ไกรสรสิทธิ์ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000