เมื่อพูดถึง มะละกอ ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกายของมนุษย์มากมายมหาศาล ที่สำคัญผลไม้ชนิดนี้สามารถรับประทานได้ทั้งดิบ และ สุก พบได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย มะละกอเป็นผลไม้ ที่มีลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลักษณะใบเป็นก้านเดี่ยวหรือใบเป็นแฉกขนาดใหญ่ ส่วนผล มีลักษณะเป็นรูปวงรี เมื่อเป็นดอกแล้วจะกลายเป็นผล ซึ่งผลมะละกอ สามารถนำไปทำเป็นอาหารคาว และ อาหารหวาน ได้หลายชนิด ส้มตำ เมนูนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของ ประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี ก็คือนำมะละกอมาขูดเป็นเส้น ตำกับพริก , มะนาว , น้ำปลา , น้ำตาลปี๊บ ปรุงรสให้มีความแซ่บ อร่อย ใส่มะเขือเทศ , ถั่วฝักยาว , มะเขือเจ้าพระยา โรยด้วยกุ้งแห้ง , ปูดอง และ ถั่วลิสงคั่ว ปัจจุบันมีการดัดแปลงโดยเพิ่มวัตถุดิบที่หลากหลาย แกงมะละกอใส่ไก่ เมนูนี้เป็นเมนูที่คล้ายกับแกงฟักเขียว การนำมะละกอมาแกงกับเนื้อไก่ หรือ เนื้อหมู โดยมีเครื่องแกงของแต่ละพื้นที่แต่ละท้องถิ่น ต่างกันออกไป ส้มตำทอด เมนูนี้ก็คือ เมนูส้มตำ แต่แตกต่างตรงที่เส้นมะละกอจะนำไปคลุกกับแป้งอเนกประสงค์ ทอดจนสีเหลืองกรอบ แล้วนำน้ำส้มตำราดลงไป เท่านี้ก็จะได้เมนูใหม่นั่นก็คือ เมนูส้มตำทอด ที่รสชาติอร่อย เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้ลิ้มลองเป็นอย่างมาก สำหรับเส้นมะละกอทอด สามารถทานแบบเปล่า ๆ เป็นอาหารว่าง จิ้มกับน้ำจิ้มถั่ว ก็อร่อยเข้ากันได้ดีมาก ๆ มะละกอเชื่อม การหั่นมะละกอดิบเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปเชื่อมกับน้ำตาลทราย และ น้ำตาลปี๊บ จนน้ำตาลซึมเข้าไปในเนื้อมะละกอ แล้วอบให้แห้ง สามารถทานเปล่า ๆ หรือ นำไปโรยพุดดิ้งหรือเมนูของหวานได้เป็นอย่างดี มะละกอปั่น และ มะละกอสุก สำหรับท่านที่ชอบทานมะละกอปั่น หรือ มะละกอสุกซึ่งทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น การรับประทานแบบนี้จะช่วยให้อยู่ท้อง ดีต่อผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก และ ดูแลรูปร่างได้ดีเลยทีเดียว มะละกอ ยังมีประโยชน์ และ มีสรรพคุณมากมายเช่น ช่วยบำรุงสายตา , บำรุงประสาทและบำรุงสมอง , ดูแลระบบขับถ่าย , รักษาแผลในกระเพาะอาหาร , ช่วยบำรุงผิวพรรณ , ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายอีกด้วย หมายเหตุ รูปภาพผู้เขียนเป็นผู้ถ่ายเองทั้งหมด