เมนูที่หาทำได้ยากครั้งหนึ่งในชีวิต บางครั้งแค่จ้องมองยังไม่กล้าจับ เพราะจั๊กจี้ราบรื่นหลุดมืดไปไม่ได้กิน เลยไม่กินปล่อยไปตามกรรม ในความคิดการมอง เหมือนประนมกรวิงวอนชีวิต ดวงตาจับจ้องผิดคอยรับฟัง ถ้าเผลอกระโดดโลดขึ้นฝั่งหายทันที เกิดมานานเคยนั่งคิดไหม ทำไมเราถึงไม่กินสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งที่คนอื่นคืออาหารโปรดปราน ต้องทานทุกครั้งที่ได้พบเห็น แต่สำหรับบางคนอาหารที่คนอื่นโปรดปรานกลับเป็นอาหารที่ไม่ทาน ทุกอย่างบนโลกใบนี้มีความเป็นไปได้ทั้งหมด ตั้งแต่ตื่นนอนไปไหนมาไหนในหนึ่งวันเราได้เจออะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง ต่างจิตต่างใจ เพราะอย่างนั้นเราไม่สามารถที่จะไปพูดหรือบอกกล่าวอะไรได้ ตอนที่ยังเด็กมีคนหนึ่งถามเราว่า หนูอยากทานอะไรอร่อยๆ ไหม ในใจตอนนั้นเป็นคนที่ในชีวิตกินอาหารอยู่ไม่กี่อย่างนั่นคือสิ่งที่เราอร่อยและชอบแล้วในตอนนั้น คำตอบที่ได้กลับไปนั่นคือไม่ต้องการทานของที่อร่อย ทุกวันที่กินอยู่อร่อยทุกอย่างแล้ว แต่ก่อนหน้าที่จะโตเด็กทุกคนต้องเคย วันนี้จะพาไปชมอาหารที่หาทานได้ยาก กว่าจะมาเป็นอาหารนอนอยู่บนเหล็กไม้ปิ้งนั้นต้องใช้เวลานานเกือบสามเดือน ยากไปกว่านั้นคือยากกับการทำอาหาร ด้วยตัวของมันที่ลื่นและจับยาก ความนิยมในการทำอาหารของคนสมัยใหม่ จึงไม่ค่อยมีแล้วที่จะออกหากบในเวลากลางคืนวันฝนตก แต่จะมีเพิ่มขึ้นคือการเลี้ยงกบ อนุบาลตั้งแต่ยังเป็นลูกอ๊อด ตัวเล็ก เลี้ยงมาเรื่อยจนมีแขนมีขากลายเป็นกบหนุ่ม จนพอดีกับการประกอบเป็นอาหาร เราจะบอกว่าเป็นการเลี้ยงดูแลเพื่ออนาคตของเราเองก็ว่าได้ ปิ้งกบ เมนูอีสานที่แม้แต่บางครั้งคนอีสานก็ทานไม่เป็น เพราะไม่เคยทานซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุ อย่างแรกอาจจะเพราะหาทานได้ยาก กบนั้นจะไม่ค่อยมีจำนวนมาก มีน้อยต้องตื่นแต่เช้ามืดออกไปหา พอจะไปซื้อที่ตลาดหนึ่งตัวต้นทุนสูง กว่าอาหารอย่างอื่นบางทีก็ต้องเลือกตัดใจทานอาหารใหม้ ถ้าเป็นอาหารที่เคยทานแต่ก่อนตอนเด็กๆ ก่อนที่จะเลิกกินกบไปตลอด คือป่นกบ เมนูอาหารที่ชอบ จะไม่ได้พบกระดูกของกบเลย เพราะการต้มกบก่อนที่จะนำมาประกอบเป็นเมนูอาหารอร่อย การต้มกบจะใส่เครื่องเทศ ยอดมะขาม ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม 🧄 และอีกหลายอย่างที่คนทำต้องการใส่ เพื่อดับกลิ่นคาวและทำให้อาหารอร่อย ต้มเสร็จแล้วจะนำมาป่นต่อ แม่บอกตอนเด็กๆเรากิน จุดเปลี่ยนของการเลิกกินกบ ด้วยครั้งหนึ่งคนเราเติบโตขึ้นสิ่งใดที่เราไม่เคยได้พบเจอจะได้เจอตามรายทางที่เรานั้นเลือกเดิน เส้นทางทำให้พบเจอกับพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านเทศนาเรื่องสัตว์ที่ร้องขอชีวิต เพื่อที่ตนเองนั้นจะได้มีชีวิตรอดต่อไป ขอความสงสารจากมนุษย์ ด้วยการทำขาทั้งสองข้างประกบกันทำเหมือนการประนมมือ ทำให้พระอาจารย์ท่านนั้นไม่ทานกบ เพราะความสงสารและความพยายามในการร้องขอชีวิต นั่นเองจึงทำให้เราเองก็คิดเช่นเดียวกัน เลยหันมากินลูกกบแทน ขำ 🤣 ความจริงแล้วกลตัวโตนั้นไม่อร่อยสำหรับเรา แต่คนอื่นอาจจะว่าอร่อย จึงเลิกกินมากินลูกกบแทน ถึงว่ามนุษย์เรานั้นมีเหตุผลมากมายเสียจนหาความจริงได้ยาก วันนี้บอกชอบอีกชั่วโมงต่อไปอาจจะหาเหตุผลที่จะจากกันได้ เราอย่าไปจริงจังกับชีวิตเกินไป ไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจคนเราเสียทุกอย่างมีสมหวังบ้าง ไม่สมหวังบ้างสลับกันไป กลับมาที่ปิ้งกบกันต่อ วิธีการทำอาหาร กบปิ้งไม่เหมือนปิ้งหมู ปิ้งไก่ เมื่อเรานำกลออกมาจากคอกที่เราเลี้ยง 🐸 กบธรรมชาติและกบเลี้ยง กบเลี้ยงจะกระโดดช้าหน่อยเพราะอ้วนถ้วนสมบูรณ์ด้วยอาหาร แต่ถ้าหากกบที่จับตามทุ่งนา เติบโตเองจะเร็วสีสันของกบก็จะแตกต่างกันถ้าหากเราสังเกต การทำอาหาร จะต้องแหวกตรงกลางท้องและนำบีของกบออก ขั้นตอนนี้จะต้องระวัง ถ้าไม่เชี่ยวชาญอาจจะทำให้บีของกบแตกและอาจจะทำให้ขมเวลากิน การทำอาหารจะต้องมีศิลปะ ละเอียด ระมัดระวัง กบเลี้ยงขาสั้นกว่ากบธรรมชาติไหม ทำท่าแบะไม่ประนมมือ การปิ้งกบนั้นไม่ต้องมีการปรุงอะไรมากเพียงเรานั้น นำเกลือโรยหน้าใส่ทันทีที่นำขี้และบีออก โรยด้วยเกลือธรรมชาติ เกลือเม็ดใหญ่จะมีกลิ่นหอมและจะไม่เค็มมาก โรยประมาณสองรอบ จากนั้นนำกบวางใส่เหล็กปิ้ง ครั้งนี้กบตัวใหญ่เพราะคนเลี้ยงเลี้ยงอย่างดี จึงต้องระวัง การปิ้งกบเราจะใช้เตาถ่านดีที่สุด แม้เราจะอบไมโครเวฟก็ทำให้กบไม่อร่อยเท่ากับการปิ้ง ที่ใช้เวลานาน แต่อร่อยคุ้มค่ากับการรอ เมื่อไฟร้อนเรานำกบย่างไฟ แต่ห้ามใช้ไฟแรงมากเพราะไขมันของกบจะหยดลงไปในถ่านไฟแล้วกลับกลายทำให้มีไฟลุกขึ้นอาจจะทำให้กบของเราดำได้ ต้องเฝ้าและคอยยกกบขึ้นหรือถอยไฟออกให้ไฟไม่แรงมากได้ ในชีวิตเคยมีเวลานั่งปิ้งกบไหมในหนึ่งปี เพราะในแต่ละวันต้องรีบเร่งใส่เวลาไม่มีแม้แต่เวลาในการทำอาหารนอนเล่น กลับถึงบ้านต้องรีบนอนเตรียมงานในวันพรุ่งนี้ ชีวิตไม่ค่อยมีสีสันอัไรมากนัก แต่เมื่อเราได้มานั่งอยู่กับเตาของความร้อน แต่ต้องทำใจของเราให้เย็นเฝ้าดูเมนูอาหารที่กำลังจะสุกพร้อมเสริฟ สายลมที่พัดผ่านปะทะตัวของเราร้อนบ้างเย็นบ้าง ควันรถที่เกิดจากการสัญจรไปมาบนถนนใหญ่พร้อมสายตาที่มองมาด้วยความสงสัยนั่งทำอะไร เราไม่มีทางที่จะไปตอบคำถามให้ได้หมดทุกคน เหมือนกับในชีวิตจริง เราก็ไม่ต้องไปสนใจกับคำถามของคนอื่น แคร์กับคำพูดของคนอื่นมากนักเพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรเรา เหมือนกันกับเราปิ้งกบเราก็ปิ้งคนเดียวไม่มีใครมาช่วยเราปิ้ง เพราะมันเรื่องของเรา คนอื่นแค่มองผ่านๆ ไปก็เท่านั้น ส่วนเราก็ปิ้งไปดูแลกบไม่ให้กระโดดลง และไม่ไหม้ดำเกรียมพอ เหล็กปิ้งในตำนาน ถ้าตามตลาดปิ้งกบขายจะนำตัวของกบนั้นใส่กับไม้ปิ้งแล้วปิ้งแบบหมุนไปมารอบ แต่ถ้าเราปิ้งทานกันเอง กบตัวใหญ่เราจะใช้เหล็กปิ้งที่ง่ายต่อการดูแลวางไว้เลย เวลาที่จะพลิกนำอีกทางประกบแล้วพลิกได้อย่างง่ายดาย อาหาร 🥘 การเปลี่ยนรูปจากกบที่เนื้อแน่นสวยเปียกไม่น่ามอง กลับหอมกรุ่นมีเกรียมบ้างแต่ไม่ถึงกับดำ เพราะความใส่ใจเวลาที่ไขมันของกบหยดลงเกิดประกายไฟลุก เราก็จะอัตโนมัติในการยกกบของเราขึ้นสูงพอประมาณ เพราะไฟแรงที่เผานั้นจะทำให้ผิวหนังของกบนั้นดำสนิทดูไม่น่ารับประทาน รสชาติในการทานกบปิ้ง เมื่อเรานำมาที่จานสามารถที่จะเลือกทานได้เลยตามใจ อาจจะทานขาของกลก่อน หรือน่องขาที่มีเนื้อ หรือถ้าใครชอบเครื่องในก็สามารถที่จะล้วงทานได้เลย จะมีรสชาติอย่างเดียวคือเค็มจากเกลือ เค็มมากเค็มน้อยตามอัตราของการใส่เกลือ หนังจนถึงกระดูกเคี้ยวได้เลย เพราะแห้งและสุกเข้ากันเรียบร้อย รับรองว่ามีคำแรกแล้วต้องมีคำต่อไป การทานปิ้งกบส่วนมากนั้นจะทาน ควบคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือจะเป็นกับน้ำพริก (แจ่ว) ที่ออกในแนวอีสานหน่อย อร่อยจนต้องกลืนน้ำลายแน่นอน เวลาที่เรามองดูกบในตอนนี้ เหมือนไม่มีอะไรกินเพราะเนื้อแห้งผิวหนังติดสนิทแล้ว เกลือตอนนี้ได้ละลายติดไปกับตัวของกบแล้ว อีกไม่นานเกินรอก็จะกลายเป็นอาหารสำหรับคนที่ชอบและรอคอย ถ้าเราเดินไปตลาดหาซื้อปิ้งกบ อาจจะยากที่จะได้กิน ถ้าเป็นที่บ้านกบนั้นจะปิ้งตามเทศกาลสำคัญ และจะปิ้งด้วยไฟแรง ทำให้สุกแบบไม่อร่อย เราอาจจะนึกถึงปลาที่ย่างแบบใช้ไฟแรงซึ่งจะทำให้ด้านนอกไหม้แต่ด้านในมีเลือดแดงไม่สุก หลังจากที่สุกพร้อมทานแล้ว เราสามารถนำเหล็กคีบใส่จานได้เลย ไม่ต้องมีการเตรียมเครื่องปรุงอะไรใส่อีก เพราะมีความกลมกล่อมของเกลือที่ใส่ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว พอนำมาใส่จานสามารถที่จะฉีกขาหรือน่องกลเข้าปากได้เลย ยิ่งถ้าเป็นกลปิ้งด้วยนำใส่ปากแล้วเคี้ยวกลืนกินลงทั้งหมดเลย เพราะกระดูกของกบนั้นอ่อนเคี้ยวกลืนได้สะดวก กบสัตว์ที่สามารถเคี้ยวแล้วกลืนกินได้ทั้งตัว ซี่งอาจจะเป็นสัตว์อีกชนิดที่มนุษย์นิยมนำมารับประทาน จนเกิดเป็นการเลี้ยงประกอบอาชีพ เพราะวิวัฒนาการการเจริญเติบโตของกบนั้นรวดเร็ว และสามารถที่จะรับประทานได้ในทุกวืวัฒนาการ ซึ่งถ้าหากเรานั้นเคยสังเกต จะเห็นการเจริญเติบโตสี่ขั้น ซึ่งในตอนแรกคือไข่ ไข่ของกบนั้นจะวางไข่ไว้บนผิวน้ำบ้าง ตรงน้ำไหลบ้าง แต่แม่กบนั้นจะดูความปลอดภัย ในเวลาไม่นาน จากไข่ก็กลายเป็นลูกอ๊อด ตัวสีดำหัวกลมๆเล็กมีหางงอกออกมา เมื่อหางงอกออกมาเรื่อยๆ จากนั้น จะเริ่มมีขา และสุดท้ายก็กระโดดไปมาได้ หางสั้นลงกลายเป็นกบที่เจริญเติบโตเต็มวัย คนที่ชอบกินกบ ถ้าคนที่ชอบกินตัวเล็กของกบ จะเรียกลูกอ๊อดนำมาแกง นำมาห่อหมก สามารถเคี้ยวได้ทั้งตัว จนมาถึงกลตัวโตเต็มวัย เราอาจจะทำลาบกบ แกงกบ ตุ๋นกบ แล้วแต่การคิดเมนู ถ้าหากว่ายังไม่ชอบในต่างประเทศที่เป็นที่นิยมคือ โจ๊กกบ ผัดกบ ซึ่งได้รับความสนใจเรียกได้ว่าเข้าคิวรอสองสามชั่วโมง เพื่อรอโต๊ะว่าง สำหรับการนำกลมาแกง หรือทำป่นได้เป็นที่นิยมในภาคอีสาน รสชาติดีเนื้อนุ่ม และราคาถือว่าไม่แพงมาก แต่อร่อยคุ้มค่า กระดูกชองกบนั้นอ่อนเคี้ยวได้สบาย ถ้าหากใครที่ไม่เคยลองอาหารไทยอีสานอย่างต้มกบต้องลองชิมก่อนที่จะตัดสินว่ามันน่าเกลียด แต่สำหรับต่างประเทศนั้นจะไม่นิยมกินลูดอ๊อด ลูกกบตัวเล็กๆ เพราะเขามองว่ามันตัวเล็กเกินไป ไม่รู้ว่าจะมีอะไรให้กิน ขอกินแบบตัวใหญ่ อาหารเมนูของชาวอีสาน มีศิลปะ มีความประณีตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเข้าปาก บางครั้งเราอาจจะไม่รู้ว่าที่เรานั้นกำลังทานคือเนื้ออะไร เพราะวิธีการออกแบบและดับกลิ่นจากเครื่องเทศระดับยอดเยี่ยม คงไม่แปลกที่เมื่อไหร่ที่คนอีสานเดินทางไปที่ไหน ก็จะต้องมีร้านอาหารอีสาน เพราะเสน่ห์รสชาติความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร อาหารจะอร่อยบางทีอยู่ที่คนทำ วัตถุดิบเป็นเพียงสิ่งประกอบที่ทำให้เกิดเมนูอาหารขึ้นมา จึงมีคำที่บอกว่า คนที่ทำอาหารอร่อยและรวดเร็วเป็นคนเก่งสมองดี คิดเมนูใหม่ได้ตลอดเวลา และอร่อยติดปากคนที่ลองทาน อย่าลืมลองทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ อย่างการนั่งปิ้งกบสักตัวให้สุกอย่างใจเย็น เราอาจจะมองว่าง่ายแต่ลองได้ทำแล้วอาจจะเปลี่ยนความคิดเพราะกบอาจจะกระโดดลงจากเหล็กปิ้งต่อหน้าต่อตา ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป