ในยุคที่เราต้องเผชิญกับภาวะเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คุกคามและแพร่ระบาดไปทั่วโลกนั้น การออกไปใช้ชีวิตประจำวันภายนอกบ้านดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่นัก รัฐบาลก็ออกประกาศให้อยู่บ้านจะปลอดภัยมากที่สุด รวมถึงการอยู่บ้านเปรียบเสมือนเป็นการช่วยชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งพออยู่บ้านก็ไม่ได้ออกไปนั่งทานข้าวนอกบ้านเหมือนแต่ก่อนเพราะร้านข้างนอกหลายร้านก็ทยอยปิดตัว และบางร้านก็ให้ซื้อกลับมาทานที่บ้านเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั่นเอง วันนี้ผู้เขียนนึกอยากทานอาหารญี่ปุ่นขึ้นมา เลยเดินไปหาของกินที่ร้านสะดวกซื้อแถวบ้านก็ไปสะดุดตากับปลาซาบะนอร์เวย์ย่าง พร้อมซอสเทอริยากิ ในตู้แช่แข็ง เลยไม่พลาดที่จะหยิบใส่ตระกร้ามารีวิวให้ผู้อ่านดูค่ะ ภาพโดย: ผู้นำแมว หน้าตาของปลาซาบะนอร์เวย์ย่างก็จะเป็นดังรูปข้างบนนี้ค่ะ ผู้เขียนซื้อมาในราคา 55 บาท โดยไม่ได้ให้ทางร้านอุ่นในไมโครเวฟให้ ผู้เขียนเอามาอุ่นเองที่บ้าน โดยในกล่องจะมีซองของซอสเทอริยากิอยู่ข้างใน ให้นำออกก่อนจะเอาไปเข้าในไมโครเวฟนะคะ ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีโดยปริมาณที่ให้มาอยู่ที่ 85กรัม ภาพโดย: ผู้นำแมว นอกจากนี้คุณค่าทางโภชนาการของปลาซาบะย่างนี้ยังมีค่อนข้างสูง โดยให้พลังงานทั้งหมด 200 กิโลแคลอรี่ มีโอเมก้า 3,6,9 มี DHA 1,139 มิลลิกรัม มีโปรตีนทั้งหมด 15 กรัม ปลาซาบะนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานปลาและรักสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง ภาพโดย: ผู้นำแมว ปริมาณปลาซาบะที่ให้มาค่อนข้างชิ้นใหญ่สมราคา จากในรูปก็จะเห็นว่าอาหารค่อนข้างตรงปก เนื้อปลาชิ้นใหญ่เหมือนรูปภาพที่ใช้โฆษณา มาต่อกันที่รสชาติ เหมือนกินปลาซาบะย่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังเลยล่ะ เนื้อปลามีความนุ่มฉ่ำไม่แห้งแข็ง ยิ่งทานคู่กับซอสเทอริยากิด้วยแล้วรู้สึกว่าเหมือนนั่งทานในร้านอาหารญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อปลาขนาดนี้ถ้าไปนั่งทานที่ร้านต้องมีอย่างต่ำ 200++ บาทแล้วค่ะ ซึ่งพูดเลยว่าคุ้มค่ามากๆในราคานี้กับรสชาติคุณภาพที่ได้ ภาพโดย: ผู้นำแมว จะเอามาทานคู่กับข้าวร้อน ๆ ก็อร่อย หรือจะทานเป็นสเต็กคู่เคียงกับผักก็รสชาติเข้ากันมากๆ ถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกเมนูนึงเลยก็ว่าได้ ทั้งสะดวกและมีประโยชน์มากมาย ในยุคนี้เราต้องรู้จักปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าหากเราปรับตัวได้และดำเนินชีวิตไปด้วยความระมัดระวังเราก็จะอยู่รอดกับสถานการณ์นั้นไปได้ตลอดรอดฝั่ง ภาพประกอบบทความ โดย ผู้นำแมว🐱