ไก่หลนเต้าหู้ยี้แดง หากพูดถึงการหลนแล้วหลาย ๆ คนคงจะรู้จักเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นหลนเต้าเจี้ยวหรือหลนปลาเค็ม ตามร้านอาหารตามสั่งต่าง ๆ แต่น้อยคนนักที่จะสั่งเมนูเต้าหู้ยี้แดงตามร้านอาหาร เต้าหู้ยี้เป็นอาหารอย่างหนึ่งของคนจีนโดยนำเต้าหู้ขาวไปหมักให้เกิดเชื้อราอย่างหนึ่งดองกับน้ำเกลือแล้วใส่อักกั๊กหรือข้าวแดงเพื่อให้มีสีแดง สามารถรับประทานกับข้าวต้มหรือข้าวสวยได้เลย หรือนำไปผสมเป็นน้ำจิ้มปรุงรส ปรุงอาหารประเภทผัดหรือต้มต่าง ๆ ด้วยรูปทรงที่อ่อนนุ่มผ่านกระบวนการทำให้สุกมาแล้ว เมื่อนำไปประกอบอาหารจึงสามารถละลายตัวแทรกซึมเข้ากับส่วนผสมอื่นได้เป็นอย่างดี คุณค่าทางโภชนาการ เต้าหู้ยี้อุดมไปด้วยโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบทุกชนิด มีไขมันที่ประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวและยังมีเกลือแร่ เหล็ก โพแทสเซียมช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก มีธาตุเหล็กช่วยบำรุงโลหิตและวิตามินอีกหลายชนิด เต้าหู้ยี้ที่ได้มาตรฐานต้องเป็นก้อนไม่เละ ส่วนที่เป็นของเหลวต้องไม่แยกชั้น ส่วนประกอบต่างๆต้องกระจายตัวค่อนข้างสม่ำเสมอ มีสีและกลิ่นรสที่ดีตามธรรมชาติ เต้าหู้ยี้แดงสามารถนำไปทำเมนูได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น หมูผัดเต้าหู้ยี้แดง น้ำพริกเต้าหู้ยี้ ซอสเย็นตาโฟ น้ำจิ้มสุกี้ เป็นต้น เมนูเต้าหู้ยี้แดงที่เรารู้จักและคุ้นเคยดีคือหลนเต้าหู้ยี้แดงหมูสามชั้น หมูสับหรือไก่ ด้วยเมนูเต้าหู้ยี้แดง สีอมชมพู มีสีสันที่น่ารับประทาน วันนี้ขอนำเสนอเมนู “ไก่หลนเต้าหู้ยี้แดง” วัตถุดิบ 1.ไก่หั่นชิ้น 150 กรัม 2.เต้าหู้ยี้แดง 3 ก้อน 3.น้ำกะทิ 200 ml. 4.ตะไคร้สับหยาบ 2 ต้น 5.หอมแดงซอย 4 หัว 6.กระเทียมสับหยาบ 4 กลีบ 7.พริกขี้หนู 3 เม็ด 8.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ตั้งไฟให้ร้อนผัดนำกระเทียมหั่นหยาบและไก่ให้สุก 2.ใส่น้ำกะทิลงไป ถ้าได้น้ำกะทิสดจะดีมากเพราะความสดของกะทิทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้น 3.ใช้ช้อนบดเต้าหู้ยี้แดงให้ละเอียดในถ้วยก่อนจะใส่ลงไป เพื่อง่ายต่อการแตกตัวเมื่อนำลงไปใส่ในน้ำกะทิ 4.พอน้ำกะทิเริ่มเดือดและแตกตัวนำเต้าหู้ยี้แดงที่บดไว้แล้วใส่ตามลงไปได้เลยและคนให้เข้ากัน 5.ใส่ตะไคร้ พริกและหอมแดง จากนั้นใส่น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ คนให้น้ำตาลละลาย พริกที่ใช้จะใช้พริกสีแดง สีเขียวหรือหลากสีผสมกับพริกอื่นก็ได้ 6.จากนั้นให้ชิมรสชาติก่อนที่จะตักใส่ถ้วย ถ้าหากใช้ได้แล้วก็ตักใส่ถ้วยโรยด้วยพริกและตะไคร้ที่เราหั่นไว้ลงบนอาหารพร้อมเสริฟ์ได้เลย ลองชิมดูว่าตัวเองชอบรสชาติแบบไหน ถ้าชอบหวานอีกก็เติมน้ำตาลลงไปอีกได้ แต่ไม่ต้องใส่น้ำปลาหรือเกลือเพราะเต้าหู้ยี้แดงมีรสชาติที่เค็มในตัวมันอยู่แล้ว หากต้องการเพิ่มความเค็มอีกก็ตักเต้าหู้ยี้แดงใส่ทีละก้อน อย่าใส่ทีเดียวหลายก้อนเพราะมันจะเค็มมาก อาจจะทำให้เสียรสชาติได้ ที่สำคัญความอร่อยของหลน นอกจากจะอยู่ที่การปรุงแล้ว น้ำกะทิที่ใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก หากได้กะทิดีก็จะเพิ่มระดับความอร่อยของอาหารได้ การเก็บรักษาเต้าหู้ยี้แดง เมื่อเราซื้อเต้าหู้ยี้แดงที่ใส่ขวดโหลพลาสติกมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น เราสามารถนำมาเก็บไว้ในครัวอุณหภูมิปกติได้และเก็บไว้ได้นาน เครดิตภาพทั้งหมดโดย : จูปิเตอร์