เพื่อน ๆ คงเคยได้ชิมชาเขียว ชาญี่ปุ่น และหลงใหลในรสชาติของชาในร้านอาหารญี่ปุ่นหลาย ๆ แห่ง ซึ่งผู้เขียนเองเคยได้ไปศึกษากรรมวิธีขั้นตอนการการชงชาญี่ปุ่น ซึ่งมีความพิถีพิถันมาก ไม่แปลกที่เวลาชงชาออมาแล้วหอม อร่อย ได้กลิ่นถึงความเป็นชาและการชงของเขาต้องคนให้เกิดฟองอีกด้วย วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำแต่ละขั้นตอนในการชงชากันซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายและสามารถซื้อปุกรณ์ได้ในประเทศไทยด้วยนะ ความสำคัญของการชงชาเขียวร้อน : การชงชาเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่เรียกว่า (ซะโด) วันนี้เราจะมารีวิวขั้นตอนและอุปกรณ์การชงชากันซึ่งสามารถซื้ออุปกรณ์ชงชาได้ง่าย ๆ อีกด้วย ต้นกำเนิดการชงชาญี่ปุ่น : เกิดมาแล้ว 1,000 กว่าปีก่อน ในศตวรรษที่ 9 หรือตอน พ.ศ. 1344 – พ.ศ. 1443 โดยมีพระสงฆ์ชื่อ เอชู ได้เดินทางมาจากประเทศจีน และได้ถวายชาเขียวแก่ องค์จักรพรรดิญี่ปุ่น ซึ่งภายหลังก็ได้มีพิธีการชงชาจริงจังที่พัฒนาในแบบของตนเองไม่เหมือนของจีน อุปกรณ์ในการชงชาแบบธีธีของญี่ปุ่น กระดาษ “ไคชิ”ไว้รองขนมหวาน ซึ่งเวลาทานชาเขียวแบบญี่ปุ่นแล้วต้องมีขนมหวานด้วย เช่น ขนมโมจิ เพื่อให้รสชาติหวานหอม เข้าถึงรสกลมกล่อมในการทานชาไปด้วย โถใส่ผงชามัตฉะ ชะฉะคุ ช้อนตักชา โดยทั่วไปทำจากไม้ไผ่ มีลักษณะเล็กและยาว ชะเซน อุปกรณ์ชงชาให้เข้ากัน ผ่านการคนแบบแรง ๆ ในถ้วย หลังจากเทรินน้ำร้อนลงในถ้วยใส่ชา ชะคะมะ กาน้ำสำหรับต้มน้ำใส่ชา สถานที่ซื้ออุปกรณ์ชงชา : เราสามารถซื้อได้ที่ไดโซะ โคโมโนยะ ร้านขายของญี่ปุ่นในประเทศไทยเยอะแยะเลยหรือใครอยากสั่งซื้อออนไลน์ กับทางไดโซะก็ได้ คลิก ถ้วยชา ขนมหวาน โมจิ ผงชา ซึ่งเราสามารถใช้ผงชาเขียวมัตฉะ หรือผงชาไทยก็ได้ มาประยุกต์ได้เหมือนกัน ขั้นตอนการชงชา1. ขั้นตอนแรกเลยคือเริ่มทานขนมหวาน หรือขนมโมจิญี่ปุ่นก่อนเลย ซึ่งวัฒนธรรมญี่ปุ่นเจ้าบ้านอาจจะมีขนมโมจิหรือของหวานมาให้ และเราก็จะต้องเปิดแล้วทานขนมหวาน ก่อนเริ่มทำชาดื่มกันซึ่งการทานขนมหวานก่อนชา ในความรู้สึกของผู้เขียนคิดว่า มันทำให้ได้กลิ่นและความเข้มของชามากขึ้น2. ใช้ ชะฉะคุ ที่ตักผงชาด้วยไม้ ตักผงชาจากโถใส่ลงถ้วยชา สัก 1/2 ช้อนโต๊ะ หรือใครชอบเข้มอาจจะตักเพิ่มเป็น 1 ช้อนชา ก็ได้จ๊ะ แต่รสชาติหากเข้มไปจะขมมาก ๆ 3. ใช้กระบวยตักน้ำชา หรือที่เรียกว่า ฮิชะคุ (Hishaku) ใช้ตักน้ำร้อน ใส่ถ้วยชาที่มีผงชาอยู่แล้ว 4. ใช้ชะเซน (Chasen) คนชาให้เข้ากัน โดยการจับชะเซน คนชาอย่างแรงขึ้นลงให้ชาแตกฟอง ยิ่งฟองเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งตามแบบญี่ปุ่นแล้วเราจะชงโดยจับชะเซน ให้แน่น คนแบบรูปฟันปลา ขึ้นลง ให้แรง ๆ จนเกิดฟอง 5. ผู้ดื่มชายกถ้วยชาขึ้นมาด้วย มือขวา แล้ววางลงบนฝ่ามือซ้าย ส่วนผู้หญิง ถือถ้วยชาด้วยมือซ้าย สลับกันจ๊ะ (ยึดหลักจามวัฒนธรรมญี่ปุ่น) 6. ให้หมุนถ้วยชาตามเข็มนาฬิกา เพื่อให้ส่วนหน้าของถ้วยชาที่มีลวดลายอาจจะเป็นลายดอกไม้ ลายต่าง ๆ หันออกด้านที่ผู้อื่นมองเห็น6.หลังจากที่เราดื่มแล้วก็ เช็ดขอบถ้วยตรงบริเวณที่ดื่ม แล้วหมุนถ้วยชาทวนเข็มนาฬิกา 3 ครั้ง 7. วางถ้วยชาและคำนับเพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าของบ้านหรือเพื่อนที่นำชามาให้ความประทับใจ : การชงชาในปัจจุบันสามารถนำมาประยุกต์ได้ ไม่ว่ากับชาเขียวนม ใส่น้ำแข็งหรือชาไทย ให้รสชาติอร่อยเหมือนกัน และจากการที่ผู้เขียนได้ลองทำ การชงชาแบบเกิดฟองซึ่งเป็นการชงชาแบบญี่ปุ่น จะให้รสสัมผัสที่กลมกล่อม เข้าเนื้อสัมผัสชา กว่าการชงแบบใส่ผงชาในกระดาษกรองที่นำไปแช่ในน้ำร้อนอีกนะ ยังไงลองไปชงชาแบบญี่ปุ่นดื่มกันดูนะ ภาพที่ 1-2 จาก Pixabay1, Pixabay2 ภาพที่ 3-10 และภาพปกโดยผู้เขียน และ ภาพที่ 11 และภาพพื้นหลังปกจาก unsplash11