สำหรับผู้เขียนแล้ว กล้วย เป็นผลไม้ที่เป็นเพื่อนแท้ยามหิว ตั้งแต่เด็กแล้ว สมัยอยู่รวมกันเป็นกงสีใหญ่ในบ้านอากง ที่มีหลานตัวน้อย ๆ อยู่รวมกันนับสิบคน ขนมที่พวกเรามักได้กินกันเสมอ ช่วยบรรเทาความหิวขณะเล่นซน และยังไม่ถึงเวลามื้ออาหารก็คือ กล้วย “กล้วยน้ำว้า” นี่แหละ ผู้ใหญ่ในบ้านล้วนแต่งานเต็มมือ ไม่มีเวลามาเอาใจพาไปซื้อขนม หรือทำขนมอะไรพิเศษให้กิน แต่จะแขวนกล้วยไว้ทั้งหวี ใครหิวก็มาปลิดไปกิน กล้วยที่แขวนไว้ ไม่เคยมีทีท่าว่าจะ "ค้างหวี" จนงอมเปลือกเปลี่ยนเป็นสีดำ เพราะเด็ก ๆ แต่ละคน แข่งกันมาปลิดกิน บางคราว ต้องแขวนไว้ถึงสองหวี ให้นึกว่า นี่ลูกลิงหรือลูกคน กินกล้วยกันเก่งมาก วันนี้ ที่บ้านมี กล้วย และ เนื้อมะพร้าว ที่เหลือจากการดื่มน้ำมะพร้าวเผา เลยคิดว่า ไม่ควรทิ้งไว้ให้เสียเปล่า ควรจะทำ ขนมกล้วย กินสักหน่อย ^__^อยากรู้ว่า กินกล้วยเปล่า ๆ กับเวลาเอามาเข้าเครื่อง มันจะฟินต่างกันอย่างไร วิธีการทำ จำได้เลา ๆ ว่า ต้องใส่แป้งกับอะไรอีกนิด ก็เลยเข้าไปเรียนจากครูกูเกิล และครูยูทูป ดูไปดูมา ก็สรุปว่า เราจะทำ ขนมกล้วย แบบนี้แล้วกัน ของที่เตรียมไว้สำหรับทำขนมกล้วย กล้วยน้ำว้าสุก หลังจากไหว้ลาจากศาลปู่ที่หน้าบ้าน ก็ปลิดมาทำสักครึ่งหวี นับแล้วได้ 10 ลูก เท่านี้แหละ เนื้อมะพร้าวจากมะพร้าวเผา 3 ลูก ดื่มน้ำหมด เนื้อก็ยังทำประโยชน์ได้ ^_^แป้งข้าวเจ้า ประมาณเกือบเต็มหนึ่งถ้วยน้ำซุปแป้งมัน ครึ่งหนึ่งของแป้งข้าวเจ้าแป้งท้าวยายม่อม ราว ๆ หนึ่งช้อนโต๊ะ น้ำกะทิ จากกะทิสำเร็จรูป 1 ขวด ขนาด 250 มิลลิลิตร (ผู้เขียนใช้ของ อัมพวา หาซื้อง่าย ๆ จากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน)น้ำตาลทราย เกือบเต็มหนึ่งถ้วยน้ำซุป ครบแล้วก็ลงมือทำกันค่ะ เราจะนำกล้วยน้ำว้ามา ปอกเปลือก แล้ว หั่น ให้เป็นแว่นบาง ๆ รอไว้ ใช้ที่ขูดมะพร้าว ขูดเนื้อมะพร้าวให้เป็นเส้น ๆ สำหรับโรยหน้าขนมประมาณหนึ่ง แล้วจึงเลาะเอาเนื้อที่เหลือทั้งหมดออกจากลูก เพื่อมา หั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ สำหรับคลุกลงไปในส่วนผสมกล้วยและแป้งทั้งสามชนิดข้างต้น มา นวดแป้ง กันค่ะ เทแป้งทั้งสามชนิด คือ แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งท้าวยายม่อมลงในอ่างผสม แล้ว เทน้ำกะทิ ตามลงไป ไม่ต้องมาก แค่พอให้นวดแป้งเป็นก้อน ไม่ติดภาชนะก็พอ จากนั้น ก็เทกล้วยที่หั่นไว้ใส่ลงไป ตามด้วย น้ำตาลทราย จัดการหา ทัพพี มาบี้ ๆ กล้วยกับแป้งที่นวดไว้ให้เข้ากันกับน้ำตาลทราย ชิ้นกล้วยก็ไม่ต้องบี้จนละเอียดให้เหลือไว้ได้พอเคี้ยวบ้างต่อมา เราก็เท เนื้อมะพร้าวที่หั่นชิ้นเล็ก ๆ ไว้ลงไป พร้อมกับ เท น้ำกะทิที่เหลือในขวด ไปทั้งหมด คนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี 6. เตรียม ถาดนึ่งขนม ผู้เขียนใช้ถาดกลม ตัดใบตองมารองก้นถาดสักนิด และตั้งเตาต้มน้ำเตรียมไว้ นำซึ้งมารอ พอน้ำเดือด ก็นำถาดใส่ขนมกล้วยที่โรยหน้าขนมด้วยมะพร้าวขูดเป็นเส้น มาใส่ไปได้เลย (อ้อ ก่อนนึ่งทั้งถาดใหญ่นั้น ผู้เขียนตักขนมกล้วยส่วนหนึ่ง มาใส่ถ้วยตะไลใบย่อม ๆ แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ ทำให้สุก และชิมรสว่า ใช่อย่างที่ต้องการหรือไม่ เผื่อปรับเพิ่ม-ลดส่วนผสมบางอย่าง ให้ถูกใจเราเอง)7. ปิดฝาซึ้ง นึ่งด้วยไฟกลาง ประมาณ 20 นาที จากนั้นเปิดฝาออกมา ลองใช้ ส้อม จิ้มขนม ถ้าไม่มีแป้งขาว ๆ ติดขึ้นมา ก็แปลว่า สุกดีแล้ว ปิดไฟ และตั้งทิ้งไว้ให้เย็น แล้วก็ค่อยเอามีดมาตัดแซะออกมากินกัน ทำแล้วก็พอใจ เพราะตัวขนมกล้วยของเรา กัดเข้าไปคำไหน ก็เจอกล้วย เจอมะพร้าว คำนั้น หอมกลิ่นกะทิ และหวานกำลังดี แม้หน้าตาและสีสันอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นไร เราทำเอง กินเอง แค่คนที่บ้านบอกว่า อร่อย ค่อย ๆ ตักกินกันคนละหนุบคนละหนับ ไม่นานก็หมดถาด แบบนี้ คนทำก็ใจฟู อยากทำขนมไม่รู้เบื่อ #kamon #TrueIDIntrend #Food #อาหาร #ขนมไทย #ขนมกล้วยๆ #ขนมกล้วย #กล้วย #กล้วยน้ำว้า #มะพร้าว #น้ำตาลทราย #กะทิสำเร็จรูป #ทำเองกินเอง #อร่อยง่ายๆที่บ้าน #MyOnlineDiary เครดิตภาพปกและภาพประกอบ โดยผู้เขียน