ขนมโคหัวรก สำหรับแก้บนหลวงปู่ทวด หากกล่าวถึง "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะท่าน คือ พระเกจิอาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา และคอยปัดเป่าทุกภัยให้กับชาวบ้านคนไทย ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยามาแล้ว อีกทั้งยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทั่วไป โดยเฉพาะคนทางภาคใต้ จะเรียกขานกันว่าท่านพะโค๊ะ เมื่อต้องการจะให้ท่านช่วยสิ่งไหนก็ทำการบนบาน และเมื่อสำเร็จผลที่ต้องการแล้ว จะทำการแก้บนด้วย "ขนมโคหัวรก" ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า "ยามเกิดเหตุไม่ดีกับผู้คน ท่านกล่าวว่าให้ลูกหลานสมเด็จเจ้าพะโค๊ะทุกคน ได้ทำขนมโคหัวรกกินกันทั้งครอบครัว" ต่อมาจึงได้ทำการแก้บนด้วยวิธีนี้ สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน วิธีการขนมทำโคหัวรก ทำแบบไหนนั้นมาดูกันต่อเลยค่ะ วิธีทำขนมโคหัวรก 1. มะพร้าวอ่อนที่ค่อนไปทางแก่ 1 ลูก 2. แป้งข้าวเหนียว 3. น้ำตาลแว่น เป็นน้ำตาลโตนดที่เคี่ยวจนงวด เพื่อไล่น้ำออกไปให้มากที่สุด แล้วนำมาหยอดใส่กระด้ง ที่มีใบตาลขดเป็นบล๊อกวงกลมคอยกั้นไว้ รอจนน้ำตาลเย็นตัวลง ก็จะได้น้ำตาลแว่นเก็บไว้ใช้ได้นาน 4. เกลือ วิธีทำ 1. ปอกมะพร้าวอ่อน แยกเอาน้ำเก็บไว้ แล้วจึงใช้มือแมวขูดเนื้อมะพร้าวอ่อนออกมา แล้วนำไปนึ่งโรยเกลือป่นเล็กน้อย 2. นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำมะพร้าวอ่อน จนแป้งหมาด ๆ พอปั้นเป็นก้อนได้ 3. นำน้ำตาลแว่นมาหั่นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วนำไปใส่ในแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอคำ ปั้นจนหมดแป้ง พักไว้ 4. ต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของขนม ใส่ใบเตยเพิ่มความหอม นำแป้งที่ปั้นไว้ลงไปต้ม 5. เมื่อแป้งสุกจะลอยตัวขึ้นมา ใช้ตะแกรงตักแป้งขึ้นมาใส่ถาดที่มีมะพร้าวอ่อนโรยไว้ทั่วถาดแล้ว จับถาดเขย่าเบา ๆ เพื่อให้แป้งคลุกกับมะพร้าวจนทั่วทุกลูก เสร็จแล้วจึงตักแบ่งใส่จาน นำไปไหว้แก้บนหลวงปู่ทวดได้ ประโยชน์ของขนมโคหัวรก ได้พลังงานจากแป้งข้าวเหนียวและน้ำตาลโตนด กินแล้วอิ่มนาน นอกจากนี้ยังได้รับสารอาหารสำคัญที่อยู่ในน้ำตาลโตนด คือ ได้รับความหวานจากธรรมชาติ ซึ่งน้ำตาลจากดอกของต้นตาล ทำให้ซึมเข้าสู่เส้นเลือดช้า ผู้ป่วยเป็นเบาหวานก็กินได้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ด้านอื่น เช่น มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สำหรับมะพร้าวอ่อน มีสารที่ช่วยบำรุงร่างกายอีกหลายอย่าง ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และมีไขมันชนิดดี ที่จำเป็นต่อร่างกาย ในสมัยโบราณการทำขนมส่วนใหญ่ จะใช้วัตถุดิบที่หาได้จากในสวนหลังบ้าน และลงมือทำกันเองทุกขั้นตอน การที่ได้ให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีส่วนร่วม ช่วยกันทำขนม จึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ให้กระชับยิ่งขึ้น ช่วยให้คนในครอบครัวมีความสุข เมื่อได้ร่วมวงกินขนมด้วยกัน เครดิตภาพทั้งหมดโดย : สุภาพร