เชื่อว่าเพื่อนๆ รู้จัก “ลองกอง” และชอบรับประทานด้วย เพราะหอม หวาน เย็น สดชื่น วันนี้ผมจะพาไปรู้จักลองกองแบบลึกซึ้งถึงต้นพ่อต้นแม่กันเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อน เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมลองกองสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าง ลองกองยะลา ลองกองตันหยงมัส ถึงมีขายอยู่ตลอดปี และทุกย่านทั่วเมืองไทย ขอเฉลยตรงนี้ว่า ลองกองของทางชายแดนใต้นั้นจะออกชุกช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม ของทุกปี อาจมีบ้างหลงฤดู หรือเกษตรกรมีสูตรเด็ดบังคับให้ออกนอกฤดู แต่ก็ไม่มากหรอก ทั้งนี้นอกจากทางใต้แล้ว ภาคตะวันออก ก็ผลิตได้เยอะเหมือนกัน และแทบจะออกมาตลอดปีด้วยซ้ำ ต้นกำเนิดลองกอง ลองกองนั้น ต้นตำรับต้องยกให้ จ.นราธิวาส ถือเป็นต้นกำเนิดเลยก็ว่าได้ ต้นกำเนิดลองกองของนราธิวาส จริงๆ แล้วอยู่ที่ บ้านซีโป ต.เฉลิม ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ ต.ตันหยงมัส ทั้งสองตำบลอยู่ในอำเภอเดียวกัน คือ ระแงะ แต่ผู้คนดันเรียกว่าลองกองตันหยงมัสไปซะฉิบ นั่นคงเป็นเพราะตันหยงมัสเป็นเมืองศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญกว่าซีโปนั่นเอง ลักษณะของลองกองตันหยงมัส (หรือซีโป) เป็นแบบหัวจุก นั่นเพราะในช่อจะมีลูกดกเบียดกันจนเป็นเรียวจุก กลิ่นหอม รสหวาน เป็นที่ยอมรับว่าต้นแม่ของลองกองตันหยงมัส และต้นแม่ของลองกองทั่วไทย อยู่ในพื้นที่ของ “แบมะ” ทางจังหวัดติดป้ายให้ด้วยนะว่าลองกอง 300 ปี แต่ในความเป็นจริงต้นที่อายุ 300 ปี ล้มไปแล้ว เหลือต้นลูก ยืนต้นอยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็ใกล้ 300 ปีเต็มที คือต้นที่ผมโอบกอดอยู่นั่นแหละ เพื่อนๆ อาจสงสัยว่า อายุตั้ง 300 ปี ทำไมโอบแค่คนเดียวเอง ครับ! ลองกองเป็นต้นไม้ที่ค่อนข้างผอม อันนี้ไม่ได้มุกหรือแซว แต่เป็นเรื่องจริง (ต้นลองกอง 300 ปีที่ผู้เขียนโอบ ถ่ายภาพโดยชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ เฟซบุ๊ค Chumsak Nararatwong) แบมะเล่าว่า ในป่า ในเขาย่านนี้ มีลองกองอายุเหยียบ 300 ปี อยู่อีกหลายต้น แต่อยู่ในป่าลึกเท่านั้นเอง และต้นที่อยู่ในพื้นที่แกเป็นแม่พันธุ์ของหลายต้นที่แพร่กระจยอยู่ทั่วไทยขณะนี้ (ลองกองช่อใหญ่ หนัก 1.5 กิโลกรัม ถ่ายโดยนายวิเชียร รัตนบุญโน เฟซบุ๊ค นายวิเชียร รัตนบุญโน) ที่มาของชื่อลองกอง เพื่อนๆ สงสัยไหม ทำไมถึงเรียกพืชชนิดนี้ว่าลองกอง นั่นเพราะเมื่อสมัยเจ้าเมืองระแงะนานมาแล้ว ทหารได้นำช้างมาเลี้ยงแถวบ้านซีโป แล้วพบลองกองช่อใหญ่มาก รสดี จึงเก็บไปถวายเจ้าเมือง โดยการห่อผ้าแล้วอุ้มไป ลักษณะคล้ายอุ้มเด็กทารก ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า “ดูกง” จึงเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่าดูกง แล้วก็เพี้ยนเป็นลองกอง ในที่สุด อันว่าด้วยสิ่งคล้ายลองกอง เพื่อนๆ ครับ ลองกองมีหลายพันธุ์ ไม่รู้เคยกินกันบ้างไหม ดังนี้ 1. ลองกองชั้นเลิศ รสหอมหวานที่เรารู้จักกันนี่แหละ 2. ดูกู รสเปรี้ยวอมหวาน เมล็ดเยอะกว่าเนื้อ มีน้ำมาก ยุคลองกองราคาแพง พ่อค้าแม่ค้าหัวใสจะหลอกลูกค้าว่า “ลองกองน้ำ” ส่วนลองกองปกติ จะเรียกว่า “ลองกองแห้ง” 3. กือแม เป็นลองกองอีกชนิดที่หาทานได้ยาก ลักษณะหนึบๆ คล้ายตังเม อร่อยไม่ใช่น้อย และ จะมีญาติของลองกอง ที่มักโดยพ่อค้าแม่ค้าหัวใสหลอกขายอยู่เสมอ โดยอ้างว่า นี่แหละ คือ “ลองกองขาว” จริงๆ แล้วมันคือ “ลางสาด” ปัจจุบันลองกองปลูกอยู่หลายพื้นที่ ราคาที่เคยสูงก็ตกลง แต่ถึงอย่างไร หากต้องการรสชาติที่แท้จริง ต้องที่ซีโป นราธิวาสครับ ผมยืนยัน ********