อาหารบางอย่างที่หลายคนชื่นชอบอาจจะหากินได้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่อาหารบางอย่างกว่าจะได้กินนี่ต้องไปที่ร้านที่มีเท่านั้นหรือประจวบเหมาะกับโอกาสจริง ๆ ถึงจะได้กิน อาการที่กำลังพูดถึงอยู่นี่ก็คือ กุ้งเต้น หรือบางที่เรียกว่า กุ้งโคโยตี้ ที่บอกว่าเป็นอาหารที่หากินไม่ใช่ง่าย ๆ นั่นก็เพราะว่าจะมีแค่บางที่และก็ช่วงเฉพาะของฤดูกาลเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้กินไม่ใช่ว่าเดินไปตามร้านทั่วไปก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีนะของอร่อย ๆ แบบนี้ แล้วทำไงถึงจะได้กินของที่หลายคนนั้นชอบรับประทานเมนูนี้ ว่าแล้วไปหาคำตอบกับ “กุ้งเต้นอาหารแสนง่าย แต่หากินไม่ง่าย” กุ้งที่จะนำมาทำเป็นเมนูแสนแซ่บที่เลื่องชื่ออย่างเมนู กุ้งเต้น นั้นจะต้องเป็นกุ้งฝอยน้ำจืดที่อยู่ตามหนอง ตามคลองที่สะอาด เมนูนี้หากใครไปตามร้านอาหารอีสานก็จะมีเป็นบางร้านเท่านั้นหรือถ้าอยากจะกินแบบและไปที่นี่ต้องแน่ ๆ ก็จะเป็นร้านอาหารตามเขื่อนน้ำเพราะมักจะหากุ้งฝอยได้ง่ายถือว่าเป็นเมนูประจำร้านเหล่านั้นเลยก็ว่าได้ แล้วทำไมถึงต้องบอกว่ามีเป็นบางฤดูกาล ก็เพราะว่าปรกติแล้วเจ้ากุ้งฝอยคนที่เป็นคนหากุ้งฝอยนั้นจะไม่นิยมออกหาในช่วงหน้าฝน อาจจะเพราะด้วยสาเหตุช่วงนั้นน้ำอาจจะมีระดับสูงทำให้หาเจ้ากุ้งฝอยนี้ลำบากขึ้นก็ได้ แต่อย่างไรแล้วหากจะหารับประทานแบบซื้อมารับประทานเองก็ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ บอกไว้ก่อนนะว่าในห้างเองก็อาจจะไม่มีกุ้งฝอยขายก็ได้ แต่หากใครหาได้แล้วแต่ไม่รู้วิธีทำวันนี้มีวิธีทำง่าย ๆ แซ่บ ๆ มาฝากกัน วิธีการทำดังนี้ เมื่อได้กุ้งฝอยมาล้างด้วยน้ำสะอาดซักสองถึงสามน้ำ แล้วพักไว้ในชามใหญ่ที่พอจะคลุกได้ บีบมะนาว ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วโรยด้วยหอมซอยตบท้าย หากชอบรสชาติอะไรก็สามารถเติมรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ดได้ตามชอบหรือหากอยากจะได้รสชาติเผ็ดหน่อย ซอยพริกสดใส่เพิ่มลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ มักจะทานคู่กับผักเคียง เช่น ต้นหอม ผักชีลาว แตงกวา หรือผักอื่น ๆ ตามชอบได้เลย แต่หากใครที่ไม่ชอบกินกุ้งดิบก็จะเอาไปลวกให้สุกก่อนค่อยนำมาทำก็ได้เช่นกันระดับความแซ่บนั้นก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ กุ้งเต้นหรือกุ้งโคโยตี้ เป็นแหล่งคุณค่าทางอาหารอย่างดีเพราะว่าตัวของกุ้งเต้นนั้นอุดทไปด้วย โปรตีนและเคลเซียมซึ่งเป็นผลดีต่อกระดูก นอกจากนั้นยังมีคอเลสเตอรอลต่ำอีกด้วยหมดปัญหาสำหรับคนที่ห่วงเรื่องว่ากินแล้วจำทให้อ้วนไปได้เลย แต่กระนั้นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนั่นก็คือการทานกุ้งดิบนั้นก็เสี่ยงที่จะมีพยาธิด้วยเช่นกันเพราะว่ากุ้งน้ำจืดนั้นมักจะมีพยาธิอยู่ในตัวของกุ้งอยู่แล้ว หากจะรับประทานก็ควรที่จะทำความสพอาดด้วยการล้างหลายๆน้ำหรือทำให้สุกจะดีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่น่าใจหายคือปริมาณของกุ้งเต้นที่อยู่ตามแม้น้ำลำคลองนั้นแทบจะค่อย ๆ ที่จะลดหายไป เนื่องจากมีสารเคมีปนเปื้อนลงในน้ำหรือสารเคมีจากการทำการเกษตรส่งผลให้การเจริญเติบโตของกุ้งตามธรรมชาตินั้นค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ แต่ก็มีเกษตรกรบางรายที่เลี้ยงกุ้งในบ่อซีเมนต์เพื่อเป็นอาชีพ ซึ่งการเลี้ยงนั้นก็ต้องใส่ใจเรื่องน้ำเพื่อความสะอาดในการที่จะนำมาบริโภคด้วยเช่นกัน เห็นไหว่าแม้จะเป็นเมนูที่ง่าย ๆ แต่จะหามารับประทานแต่ละครั้งก็ไม่ได้ง่ายเลย แต่ก็เหมือนคำที่ว่า “ของล้ำค่า ย่อมหาได้ยาก อาหารรสเริส ต้องฝ่าฟันถึงจะได้ลิ้มลอง” ว่าไหมล่ะ เครดิตภาพปก เทพ สุวรรณ ผู้เขียน เครดิตภาพ เทพ สุวรรณ ผู้เขียน