สวัสดีค่าเพื่อน ๆ ใครเป็นสาวกผักโขมอบชีสกันบ้างเอ่ย เรามั่นใจว่านี่คือหนึ่งในเมนูยอดฮิตของใครหลาย ๆ คน รวมถึงเราด้วย เวลาไปทานที่ร้านที่ไรรู้สึกทานไม่จุใจเลยค่ะ บางทีก็ได้รสชาติที่ไม่ถูกปากไปบ้าง เพราะบางร้านก็ทำรสชาติติดเค็มไปหน่อย หรือบ้างทีก็รู้สึกว่าได้ชีสไม่จุใจ อยากกินแบบผักโขมเยอะ ๆ ชีสแน่น ๆ อารมณ์แบบนี้คนรักชีสจะเข้าใจดีเลยค่ะ วันนี้เราก็เลยมีสูตรผักโขมอบชีสที่ทำง่ายและอร่อยมาก ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วยค่ะ ยิ่งช่วงนี้ได้อยู่บ้านยาว ๆ จากสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้เรามีเวลาได้ลุกออกมาทำกับข้าวกินเองกันบ่อย ๆ อยู่แล้วด้วย เผื่อใครเบื่อทำกับข้าวไทยแล้ว มาทำกับข้าวฝรั่ง ๆ หน่อย ก็เป็นไอเดียเปลี่ยนบรรยากาศการกินที่ดีนะคะ วัตถุดิบ เนยสด : 15 กรัม กระเทียมสับ : 1 ช้อนโต๊ะ เบค่อนหั่นเต๋า : 150 กรัม ผักโขมนึ่งสุกสับหยาบ : 150 กรัม นมจืด : 300 กรัม ชีสมอสซาเรลล่า : 50 กรัม แป้งสาลีอเนกประสงค์ : 3 ช้อนโต๊ะละลายน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น : 1/2 ช้อนชา เกลือ : ½ ช้อนชา ออริกาโน่ตามชอบ เริ่มต้นด้วยการนำกระทะตั้งไฟปานกลาง นำเนยและกระเทียมสับใส่ลงไป ใช้ตะหลิวคนให้กระเทียมโดนเนยให้ทั่วกัน ไม่ต้องรอให้กระเทียมถึงขั้นสุกเหลืองกรอบนะคะ แค่เหลืองนิด ๆ ก็นำแฮมหั่นเต๋าลงไปผัดในกระทะได้เลยค่ะ นำผักโขมสุกที่เราหั่นหยาบ ๆ ลง ใช้ตะหลิวผัดให้ผักกระจายตัว และเข้ากับส่วนผสมของแฮม เมื่อผักเข้ากันดีกับแฮมแล้ว เทนมสดรสจืดตามลงไป คนอีกครั้งให้นมเคลือบไปทั่วทั้งผักโขมและแฮม ต่อจากนั้นให้ตักนำแป้งสาลีอเนกประสงค์ที่เราได้ละลายเอาไว้ลงไปที่ละช้อน พร้อมกับคนไปด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นแป้งจะสุกและเป็นก้อนได้ จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และออริกาโน่ ผัดทุกอย่างด้วยไฟกลางจนน้ำเริ่มงวด อย่าให้ไส้มีน้ำเยอะเกินไปนะคะ พอตอบอบผักโขมจะคายน้ำออกมาอีก อาจทำให้ตัวไส้มีความแฉะเกินไปจนไม่น่าทานค่ะ นำผักโขมใส่ภาชนะที่เข้าเตาอบได้ เช่นถ้วยเซรามิค หรือ ถ้วยฟอยล์ จากนั้นโรยด้วยชีสมอสซาเรลล่าด้านบนปริมาณมากน้อยตามใจชอบค่ะ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส 15 - 20 นาที เมื่ออบจนครบเวลา ยกออกจากเตาอบ รอให้หายร้อนสักนิด ก็พร้อมทานได้เลยค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับวิธีการทำผักโขมอบชีสแบบ Step By Step วัตถุดิบน้อย ขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก ทำกินเองจะใส่ผัก ใส่แฮม หรือใส่ชีสเยอะเท่าไรก็ได้ เป็นเมนูที่เหมาะกับทุกวัย เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี เพื่อน ๆ ลองนำสูตรผักโขมอบชีสนี้ไปทำทานกันดูนะคะ รับรองว่าจะต้องติดใจแน่ ๆ ค่ะ *ภาพหน้าปกและภาพประกอบทุกภาพโดยผู้เขียน