ช่วงอยู่บ้านว่าง ๆ ถ้าไม่ทำอาหาร ทำขนม ก็ปลูกผัก จะเน้นผักปลูกง่าย โตเร็ว ปลูกครั้งเดียว ทานได้นาน ๆ ผักหนึ่งอย่างที่มีคุณสมบัติครบตามที่พูดคือ ผักกุยช่าย คือมันปลูกง่ายมาก ปลูกทีมีให้กินตลอด กินแทบไม่ทัน พอมันมีเยอะเข้าไม่รู้จะเอามาทำอะไรทานที่จะจัดการเจ้ากุยช่ายให้หมดในทีเดียว ก็เห็นจะมีขนมกุยช่ายนี่ละที่จะจัดการกับเจ้ากอกุยช่ายกอโตในสวนครัวหลังบ้าน ขนมกุยช่ายมีสองแบบคือแบบทอด (จริง ๆ ต้องบอกว่านึ่งแล้วทอด) และแบบนึ่ง แบบทอดคือเอาผักกุยช่ายผสมแป้งนึ่งเป็นถาดแล้วเอามาทอดอีกที แบบนึ่งก็นวดแป้งห่อไส้กุยช่ายแล้วเอาไปนึ่ง ที่บ้านผู้เขียนชอบทานแบบนึ่ง วันนี้เลยเอาขนมกุยช่ายแบบนึ่งมาฝาก ให้ได้นำไปลองทำกันดูค่ะ อันดับแรกมาดูวัตถุดิบกันก่อน ส่วนไส้กุยช่าย 1. กุยช่าย 2 กิโลกรัม (ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วหั่นเป็นท่อนประมาณครึ่งเซ็น) 2. เกลือทะเล 1 ช้อนชา 3. น้ำตาล 2 ช้อนชา 4. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนแป้ง 1. แป้งข้าวเหนียว 25 กรัม 2. แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม 3. แป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม (สำหรับทำแป้ง) 4. แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม (สำหรับทำแป้งนวลมือ) 5. แป้งท้าว 50 กรัม 6. น้ำเปล่า 700 กรัม 7. น้ำมันพืช 150 กรัม ส่วนของน้ำจิ้มกุยช่าย 1. น้ำส้มสายชูข้าว 100 กรัม 2. น้ำตาล 125 กรัม 3. ซีอิ้วดำ 25 กรัม 4. เกลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ 5. พริกขี้หนูซอย 5 เม็ด ขั้นตอนการทำ 1. ทำส่วนไส้ โดยเอาส่วนผสมทุกอย่างใส่ในชามผสม ขย้ำทุกอย่างให้เข้ากัน พอเข้ากันดี เทลงตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ พักไว้ (เนื่องจากเกลือจะไปดึงน้ำในกุยช่าย ถ้าไม่ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ เวลาห่อไส้นะแฉะห่อยาก) 2. ทำส่วนของน้ำจิ้ม เอาส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นพริกขี้หนูซอย) ใส่ลงไปในหม้อ ยกตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนเดือด ยกลงพักให้เย็น เมื่อเย็นแล้วให้ใส่พริกขี้หนูซอยลงไป 3. ทำส่วนแป้งห่อ โดยเอาส่วนผสมแป้งทุกอย่างผสมรวมกันเทลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งสุกประมาณ 70-80 % สังเกตุว่าแป้งจะใสขึ้น น้ำมันที่ใส่ลงไปเร่ิมแยกตัวออกจากก้อนแป้ง ให้นำแป้งออกจากกระทะ ใส่ลงไปในถาดที่โรยแป้งมันสำหรับนวลมือเล็กน้อยค่อย ๆ นวดให้เป็นก้อนกลม ปิดด้วยพลาสติกกันแป้งแห้ง พักไว้ 4. รีดแป้งให้เป็นแผ่นบาง ใส่พิมพ์กลมกด แล้วตักไส้ที่เตรียมไว้ลงไป ห่อให้มิดจนหมดแป้งและไส้ 5. นำแป้งที่ห่อไส้แล้ววางลงในลังถึงที่รองด้วยใบตอง นึ่งไฟแรงประมาณ 10-15 นาที ยกลง พักให้เย็น ทานคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บ เคล็ดลับการทำกุยช่ายเพิ่มเติม : -ผักกุยช่ายถ้าไม่ได้ปลูกเองต้องล้างหลายน้ำและแช่ด้วยเบคกิ้งโซดา เพราะกุยช่ายมีสารเคมีตกค้างเยอะ แนะนำให้ปลูกทานเอง เวลาล้างเสร็จต้องสะเด็ดน้ำให้แห้ง เวลาผสมไส้จะได้ไม่แฉะมาก จะห่อง่าย -ในส่วนของน้ำจิ้ม แนะนำให้ใส่พริกขี้หนูซอยตอนส่วนผสมเย็นแล้ว หากใส่พริกตอนส่วนผสมยังร้อน สีของพริกจะดูไม่น่าทาน -ในส่วนของแป้ง กวนให้สุกเพียง 70-80 % จะรีดแป้งและห่อแป้งได้ง่าย ถ้าสุกมากไปเวลารีดแป้งจะไม่ค่อยยืดหยุ่น แล้วให้ห่อแป้งปิดไส้ให้มิด ขนมจะได้ไม่แตกเวลานึ่งสุกแล้ว -การนึ่งให้ตั้งน้ำให้เดือดก่อน จากนั้นนำขนมขึ้นนึ่ง แล้วจับเวลา เวลาสุกสังเกตแป้งจะบางใสมองเห็นไส้ด้านใน ขนมกุยช่ายทำไม่ยากเลย สามารถทำทานกันที่บ้านได้ค่ะ อยากให้เพื่อน ๆ ลองทำทานดูค่ะ แต่ข้อควรระวังของการทานกุยช่าย โดยเฉพาะกุยช่ายแก่ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารอาจทานได้ในปริมาณไม่มากนะค่ะ ขอให้อร่อยกับขนมทำง่าย ๆ กับขนมกุยช่ายแป้งบาง ๆ นะคะ ^^ ภาพประกอบโดบผู้เขียน (เพจ Sugar Foam)