เคล็ดลับกับข้าวแสนอร่อย รสแซ่บร้อนแรงถูกใจคนไทยด้วยกะเพราป่า! หลายคนคงเคยรับประทานอาหารที่ร้านอาหารตามสั่ง ผักยอดนิยมที่พบเห็นในอาหารตามสั่งยอดนิยมอย่างเมนูผัดกะเพราก็คือ ‘ใบกะเพรา’ นั่นเอง สมัยก่อนเราอาจจะได้รับประทานผัดกะเพราที่มีรสเผ็ดฉุนร้อนแรง แต่ในปัจจุบัน รสชาติเหล่านั้นกลับหายไป สาเหตุเป็นเพราะใบกะเพราที่พ่อค้าแม่ขายเลือกใช้กันนั่นเองที่มีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม สังเกตได้จากเวลาเดินตลาด จะหาซื้อกะเพราซักกำ ก็จะเห็นกะเพราใบใหญ่เป็นพิเศษ นั่นคือกะเพราที่ร้านอาหารตามสั่งในปัจจุบันเลือกใช้เป็นจำนวนมาก กะเพราที่นิยมใช้ประกอบอาหารในปัจจุบันคือพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงพันธ์ทางการเกษตร แต่ขนาดใบที่ใหญ่กลับแปรผกผันกับความหอมและความฉุน ซึ่งแตกต่างจาก ‘กะเพราป่า’ หรือ ‘กะเพราบ้าน’ ใครได้ลองรับประทานกะเพราชนิดนี้รับรองว่าต้องติดใจกับรสชาติเผ็ดร้อน ทั้งฉุนและหอม ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงอาหารไทย ๆ ได้อย่างเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว กะเพราป่ามีลักษณะทั่วไปคล้ายกับกะเพราขาว แต่ใบมีขนาดเล็กและมีกลิ่นฉุนกว่า การขยายพันธุ์ก็ทำได้ง่าย ทั้งวิธีปักชำและเพาะเมล็ด นำมาประกอบอาหารเป็นเมนูยอดนิยมอย่างผัดกะเพรา ได้กลิ่นหอมฉุนกลบกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ เคล็ดลับที่ทำให้ผัดกะเพราอร่อยคือการใส่ดอกกะเพราแก่เข้าไปในการผัดด้วย น้ำมันหอมระเหยจากดอกกะเพราป่าจะช่วยให้ผัดกะเพราของเรามีกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อนน่ารับประทานเป็นที่สุด อาหารไทยที่มีส่วนประกอบอย่างพวกพริกแกงต่าง ๆ เช่น พริกแกงเผ็ด สามารถใส่ดอกของกะเพราป่าโคลกร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ทำให้พริกแกงมีความหอมฉุน พริกแกงเขียวหวานก็เช่นเดียวกัน นอกจากได้เรื่องรสชาติแล้ว ยังช่วยเพิ่มสีสันของแกงเขียวหวานให้ได้สีเขียวจากธรรมชาติ นำไปละลายในกะทิเดือด ๆ สีสวยน่ารับประทานโดยไม่ต้องใส่สีแปลกปลอมเลยทีเดียว กะเพราป่านอกจากจะใช้ประกอบอาหารให้มีรสชาติอร่อยร้อนแรงตามสไตล์อาหารไทยแล้ว สรรพคุณทางสมุนไพรก็มีมากเช่นกัน เนื่องจากมีรสฉุนเผ็ดร้อน จึงช่วยเรื่องแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ ช่วยให้เจริญอาหารและช่วยเผาผลาญพลังงานจากรสชาติที่เผ็ดร้อน และมีสรรพคุณอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ ถือได้ว่าเป็นทั้งพืชผักสวนครัวและพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ ปลูกไว้ที่บ้านได้ทั้งตำรับยาและตำรับอาหารรสแซ่บ ถูกปากถูกใจคนรับประทานด้วยรสชาติร้อนแรงสไตล์กะเพราป่า ซึ่งแตกต่างจากกะเพราชนิดอื่น ๆ ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ภาพโดย K.N.