วิธีเลือกซื้อมะไฟ แบบไหนหวานอร่อย รสชาติดี อมเปรี้ยว | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่หลายคนมักเลือกซื้อมาทาน เพราะด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ และทานได้ไม่เบื่อ จึงเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจของผลไม้ในกลุ่มนี้ ซึ่งมะไฟเป็นผลไม้ที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวอีกหนึ่งชนิด ที่สามารถพบได้ตามตลาดทั่วไป ที่พอถึงฤดูกาลของผลไม้ชนิดนี้แล้ว เราก็มักจะพบเห็นการขายมะไฟในที่ต่างๆ ในราคาที่ไม่ได้แพงมาก โดยการจะซื้อมะไฟได้ที่ไหนนั้น คุณผู้อ่านน่าจะพอมองภาพออกบ้างแล้วนะคะ ในขณะที่ถ้าเราจะพูดถึงประเด็นที่ว่า มะไฟแบบไหนอร่อยแบบธรรมชาติให้มา หวานอมเปรี้ยว สดใหม่และมีคุณภาพล่ะ มีใครพอจะบอกได้ไหมคะ? โดยที่หลายคนก็อาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่า หน้าตาของมะไฟลูกนั้นต้องประมาณไหน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะในบทความนี้เราจะเรียนรู้เพิ่มเติมกันว่า ถ้าต้องเลือกซื้อมะไฟจากที่ไหนสักที่ มีจุดสังเกตอะไรบ้างที่เราต้องนำไปใช้ เพื่อให้ได้มะไฟแบบคุณภาพจัดเต็มค่ะ และต่อไปนี้คือเทคนิคสำหรับเลือกซื้อมะไฟรสชาติดีค่ะ 1. สังเกตขั้ว ลองสังเกตขั้วของมะไฟดีๆ นะคะ เพราะว่ามะไฟที่ยังสดใหม่ ขั้วจะติดแน่นกับลูกเลยค่ะ แถมยังมีสีเขียวๆ ดูชุ่มชื้น เหมือนเพิ่งเด็ดมาจากต้นใหม่ๆ ตรงขั้วนี่แหละค่ะที่เป็นเหมือนประตูบอกความสด ถ้าขั้วหลุดง่ายๆ หรือดูแห้งๆ เหี่ยวๆ บางทีก็แปลว่ามะไฟลูกนั้นอาจจะเก็บมานานแล้ว ความสดชื่นและรสชาติอร่อยๆ ก็อาจจะลดลงไปบ้าง การเลือกมะไฟที่ขั้วยังดีอยู่ ก็เหมือนเราได้เจอลูกที่ยังมีความสดใหม่ รสชาติก็จะดีตามไปด้วยนั่นเองค่ะ 2. ดูจากลักษณะภายนอก การดูลักษณะภายนอกของมะไฟเป็นเหมือนปราการด่านแรกที่เราจะเจอก่อนได้ลิ้มรสชาติอร่อยๆ เลยค่ะ ลองนึกภาพตามนะคะ ถ้าเราเห็นมะไฟผิวสวย เปลือกตึง สีสันสดใส ไม่เหี่ยวหรือมีรอยช้ำเยอะ มันก็ชวนให้รู้สึกอยากลองชิมแล้วใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งถ้าขั้วยังติดแน่น มีสีเขียวๆ หน่อย ก็ยิ่งมั่นใจได้ว่ามะไฟลูกนั้นน่าจะเพิ่งเก็บมาใหม่ๆ สดๆ รสชาติก็ย่อมดีตามไปด้วยค่ะ เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้เรารู้ล่วงหน้าว่า "ลูกนี้แหละอร่อยแน่นอน" ยังไงยังงั้นเลยค่ะ 3. ลองดมกลิ่น เชื่อไหมคะว่า กลิ่นของมะไฟก็สำคัญไม่แพ้รูปลักษณ์ภายนอกเลยค่ะ มะไฟที่สุกกำลังดีจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ หวานๆ เป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ชนิดนี้ ลองดมเบาๆ ดูนะคะ กลิ่นหอมๆ เป็นสัญญาณบอกว่ามะไฟลูกนั้นน่าจะหวานฉ่ำ อร่อยถูกปาก แต่ถ้าดมแล้วไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นเปรี้ยวๆ เหมือนหมักๆ ก็ให้ระวังไว้นะคะ นั่นอาจจะไม่ใช่มะไฟที่เราตามหาความอร่อยก็เป็นได้ค่ะ ดังนั้นการดมกลิ่นก่อนซื้อก็เหมือนเป็นการแอบส่องรสชาติล่วงหน้าอีกวิธีการหนึ่งค่ะ 4. สัมผัสความแน่น เวลาเลือกมะไฟ ลองใช้นิ้วมือสัมผัสเบาๆ ดูนะคะ มะไฟที่อร่อยกำลังดีจะมีความแน่น เนื้อจะเต่งตึง ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป หรือนิ่มเละจนน่าตกใจ ความแน่นที่พอดีนี้ บ่งบอกว่ามะไฟลูกนั้นสุกกำลังน่ากิน ที่มีน้ำมีเนื้อและรสชาติก็จะหวานฉ่ำกำลังดี แต่ถ้ากดแล้วนิ่มยวบยาบ หรือแข็งโป๊ก ก็อาจจะไม่ใช่มะไฟที่เราอยากได้แล้วล่ะค่ะ การสัมผัสเบาๆ ก็เหมือนเป็นการเช็กความพร้อมของเนื้อมะไฟก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อนั่นเองค่ะ 5. เลือกลูกที่มีขนาดพอเหมาะ การเลือกลูกมะไฟที่มีขนาดพอเหมาะก็เป็นอีกเคล็ดลับที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ เนื่องจากลูกที่เล็กจนเกินไป บางทีก็อาจจะมีเนื้อน้อย หรือยังไม่สุกเต็มที่ ทำให้รสชาติไม่หวานฉ่ำเท่าที่ควร ในทางกลับกัน ลูกที่ใหญ่จนผิดปกติ บางครั้งก็อาจจะไม่ได้อร่อยอย่างที่คิดเสมอไป ดังนั้นการเลือกลูกที่มีขนาดกลางๆ กำลังดี มักจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะโดยทั่วไปแล้วมะไฟขนาดกลางมักจะมีเนื้อที่สมดุลกับเมล็ด และมีรสชาติหวานอร่อยกำลังพอดีค่ะ เหมือนเป็นการเลือกขนาดที่ "พอดีคำ อร่อยลงตัว" นั่นเองค่ะ 6. สังเกตยาง เคยสังเกตไหมคะว่าตรงขั้วของมะไฟบางทีก็มียางสีขาวๆ ไหลซึมออกมานิดหน่อย? โดยยางของมะไฟสามารถเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บอกว่า มะไฟลูกนั้นเพิ่งจะถูกเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ จากต้นเลยค่ะ ซึ่งมะไฟที่ยังมียางอยู่ มักจะมีความสดชื่น เนื้อแน่น และรสชาติก็มักจะดีตามไปด้วยค่ะ เหมือนเป็นตราประทับรับรองความสดใหม่จากธรรมชาติเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาเลือกซื้อมะไฟ ลองมองหาลูกที่มีร่องรอยของยางที่ขั้วดูนะคะ รับรองว่าจะได้มะไฟที่อร่อยและสดใหม่แน่นอนค่ะ 7. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ การเลือกซื้อมะไฟจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ก็สำคัญไม่น้อยเลยนะคะ ลองนึกภาพตามว่าถ้าเราไปซื้อจากตลาดสด ร้านค้า หรือสวนที่ดูสะอาดสะอ้าน มีการจัดวางผลไม้ที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็ย่อมสร้างความมั่นใจให้กับเราได้มากกว่าว่ามะไฟเหล่านั้นได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การขนส่ง ไปจนถึงการวางขาย โอกาสที่เราจะได้มะไฟที่สดใหม่ มีคุณภาพ และรสชาติดีก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ เหมือนเป็นการเลือกซื้อจาก "มืออาชีพ" ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้ของดีมีคุณภาพสมราคาค่ะ 8. ลองชิม ถ้าเป็นไปได้ การได้ลองชิมมะไฟก่อนตัดสินใจซื้อถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดเลยค่ะ เหมือนเป็นการ "ชิมลาง" ดูก่อนว่ารสชาติถูกปากถูกใจเราไหม เพราะบางคนชอบมะไฟหวานเจี๊ยบ บางคนชอบอมเปรี้ยวอมหวาน การได้ชิมจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่ามะไฟที่เราเลือกนั้นตรงกับความชอบของเราจริงๆ ค่ะ ถึงแม้ว่าบางทีอาจจะไม่สะดวกที่จะลองชิมทุกร้าน แต่ถ้ามีโอกาสก็อย่าลังเลที่จะลองนะคะ เพราะรสชาติคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อมะไฟให้อร่อยถูกใจเรานะคะ จากทั้ง 8 ข้อในการเลือกซื้อมะไฟนั้น ในเรื่องของการเลือกซื้อมะไฟจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ ผู้เขียนมักนำมาแนวทางอันดับแรกค่ะ โดยปัจจุบันการหาซื้อผลไม้ชนิดนี้จากคนในชุมชน ที่เป็นเกษตรกรโดยตรงสามารถทำได้แล้วที่นี่ ดังนั้นผู้เขียนมักจะซื้อมะไฟจากคนในพื้นที่ก่อนค่ะ ซึ่งการทำแบบนี้มีโอกาสสูงที่จะได้มะไฟสดใหม่และคุณภาพดี จากนั้นผู้เขียนจะดูในเรื่องของสีสัน ดูขั้วและลองชิมค่ะ โดยเทคนิคที่ผู้เขียนใช้จริงจากข้างต้น เป็นเทคนิคหลักที่ผู้เขียนไม่เคยลืมใช้ ส่วนเคล็ดลับในข้ออื่นๆ ก็ใช้บ้างตามโอกาส ที่ตลอดเวลาจะเป็นการปรับใช้หลายๆ วิธีการไปพร้อมๆ กันค่ะ ซึ่งคุณผู้อ่านเองก็สามารถอ่านทำความเข้าใจและนำไปในใช้ในสถานการณ์จริงได้แบบเดียวกันกับผู้เขียนค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่คล้ายกันโดยผู้เขียน วิธีเลือกอะโวคาโด ลูกสุกพอดี ดูยังไง น่าซื้อ เสาวรสหอมหวาน รสชาติอร่อย ดูยังไงดี สดใหม่ วิธีเลือกขนุนแกะแล้ว กรอบนอก นุ่มใน หวานอร่อย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !