กินเค้ก กินขนม กินเบอเกอรี่ ต่างชาติมาก็แยะแล้ว วันนี้มาลองเปลี่ยนบรรยากาศกันดูสักหน่อย หาอะไรแบบไทยๆ ดั้งเดิมๆ กินบ้าง มาเชียงใหม่ ถ้าจะกินขนมหวานแบบไทยๆ ชื่อที่นึกขึ้นมาได้คงหนีไม่พ้นร้านนี้ครับ หวานละมุน เพราะเป็นอีกหนึ่งร้านขนมไทยที่ขึ้นชื่อในเชียงใหม่ที่สุดเลยก็ว่าได้ และวันนี้จะพามาชิล ชิมขนมหวานแบบไทยๆ ในบรรยากาศริมแม่น้ำปิงกันครับ กับที่นี่ หวานละมุน ริมน้ำ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นาน โดยตั้งอยู่ ติดกับโรงแรมศาลาลานนา บนถนนเจริญราษฎร์ โดยสาขานี้จะมีทั้งอาหารและขนม และยังมีที่จอดรถหน้าร้านสะดวกสบายครับ ก่อนอื่นเราลองดูบรรยากาศในร้านกันก่อนดีกว่าครับ วันนี้มาช่วงสายๆ เลยยังไม่ค่อยไม่มีคน ร้านดูหรูหรานั่งสบายดีแท้ ตกแต่งมาอย่างสวยงามตามสไตล์แบบพื้นเมือง โดยร้านจะมีที่นั่งสองโซนทั้งโซนห้องแอร์และโซนด้านนอก (Open Air) ซึ่งมาทั้งทีมีรึเราจะไปนั่งห้องแอร์ มันต้องกินบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ ริมน้ำกันสักหน่อยดีกว่า ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็คือ ตลาดวโรรสนั่นเอง ได้ที่นั่งที่ถูกใจแล้ว เราไปเลือกขนมหวานกันดีกว่าครับ โดยขนมหวานที่นี่ ก็เหมือนตามสาขาอื่น ๆ จะใส่ไว้ในกล่องให้เราไปเลือกได้เลยว่าอยากจะกินอะไร แต่ๆ ในเรื่องขนมไทยเรานั้นไม่สันทัด เลยยกหน้าที่นี้ให้พี่ที่ไปด้วยท่าจะดีกว่า พอเลือกเรียบร้อยแล้วพนักงานก็จะเอาไปจัดเตรียมใส่จานให้อย่างสวยงาม ซึ่งออกมาเป็นแบบนี้ครับ เลือกเมนูของหวานมา 4 อย่าง ดูจากสีสันสวยงามน่ากินมากๆ ครับ ทั้งรูป ทั่้งกลิ่น ทั้งสี คราวนี้อยากรู้รสแล้วไปชิมกันทีละอย่างดีกว่า เริ่มด้วย ฝอยทอง (ราคา 120 บาท) ฝอยทองของที่นี่ มาในรูปลักษณ์ที่แปลกตากว่าทุกที่ที่เคยเห็น ทำให้นึกถึงรังไหมเลย เส้นก็ดูบางๆ ไม่หนาจนเกินไป ที่สำคัญฝอยทองโดยทั่วไปที่เคยกินจะมาพร้อมกับความหวานนำ (จนแสบคอเลยก็มี) แต่ที่นี่ ไม่หวานมากจนเกินไป และยังได้ความหอมอบอวลไปทุกสัมผัสจริงๆ สงสัยเป็นที่มาของชื่อร้าน เพราะมันหวานละมุนนั่นเอง พี่ที่ไปด้วยกระซิบบอกว่า ฝอยทองของที่นี่ ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของเชียงใหม่เลยนะ ถึงราคาจะแอบแรงไปหน่อย แต่มาแล้วต้องห้ามพลาดจริงๆ ต่อด้วย ขนมเหนียว (ราคา 50 บาท) อันนี้ไม่เคยกินเลยครับ และเชื่อว่ามีหลายคนที่อาจจะไม่รู้จักขนมโบราณเมนูนี้เท่าไหร่ โดยมาเป็นเส้นก้อนแป้งหลากสีสีน คลุกเคล้ามาพร้อมกับมะพร้าว และเวลากินต้องกินพร้อมข้าวพองและรอยด้วยน้ำตาลอีกหน่อย แห่ม...ไม่อยากบอกเลยว่ามันละมุนอีกแล้วกับขนมไทยโบราณเมนูนี้ ต่อด้วย ขนมต้ม (ราคา 50 บาท) ขนมต้มน่าจะเป็นเมนูที่หลายคนเคยกินกันมาอยู่แล้ว แต่ความพิเศษของที่นี่ผมว่า แป้งที่ไม่หนาจนเกินไปและพอกัดเข้าไป ความหอมของมะพร้าวออกมาอย่างเต็ม ๆ ครับ สุดท้าย หม้อแกง (ราคา 60 บาท) หม้อแกงมาในขนาดกำลังน่ารักครับ ส่วนรสชาติก็กำลังดีครับ ทั้งความหอมและเนื้อสัมผัส กินแล้วให้ความแตกต่างจากหม้อแกงที่เคยกินมาจริงๆ ครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับขนมหวานแบบไทยโบราณ ต้องบอกเลยว่าร้านนี้เปิดมิติใหม่ให้ผมสำหรับขนมหวานไทยเลยก็ว่าได้ครับ เพราะความที่สูตรของที่นี่ในขนมทุกอย่างจะไม่เน้นหวานมาก ทำให้ได้อร่อยกันยาวๆ เลยครับสำหรับผมที่ไม่ค่อยชอบหวานเท่าไหร่ สำหรับใครที่มาเชียงใหม่ครั้งหน้าต้องอย่าลืมแวะมานะครับ เพราะนอกจากจะได้หวานละมุนกับรสชาติขนม ยังได้ละไมกับบรรยากาศดีๆ อย่างแน่นอน พิกัด : หวานละมุน ริมน้ำ (เวลาเปิด-ปิด 7.00 -22.00 น.) (ใครอยากกินขนมต้องมาแต่เช้านะครับ) อ่านบทความทั้งหมดได้ที่ > นิยมเล่าเป็นเรื่อง