ถ้าพูดถึง “อาหารข้างทาง” พวกคุณจะคิดถึงอะไร? ฉันคิดถึงชีวิตในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปี 4 ช่วงเวลาที่ยุ่งวุ่นวายอีกหนึ่งครั้งในชีวิต ช่วงเวลาที่ต้องการอาหารมาคอยเยียวยาจิตใจมากที่สุด ช่วงเวลาที่ต้องนอนดึกหรืออดหลับอดนอนยาวนานมากที่สุดครั้งหนึ่ง อาหารการกินในช่วงนั้นก็มีทั้งอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดเนื่องจากต้องการความสะดวก รวดเร็ว และบุฟเฟ่ต์หลังจากทุกอย่างได้ผ่านพ้น แต่ไม่ว่าเวลาตลอดหนึ่งปีการศึกษาจะต้องผ่านอะไรมาก็ตาม จะมีสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องทำเกือบทุกเช้า นั่นคือ...การเดินไปซื้อ “ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ตับปิ้ง” ที่ร้านของคุณป้าในซอยหอ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นอาหารที่ง่ายและสะดวกเหมาะกับเวลาเช้าแบบฉบับไทย ๆ ข้าวเหนียวร้อน ๆ หอม ๆ เมื่อผสมผสานกับหมูปิ้งชุ่มฉ่ำในปากแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่ฉันมีตลอดคืนการปั่นโปรเจคนั้นได้มลายหายไปสิ้นแล้ว และถ้าวันไหนมีน้ำพริกตาแดงช่วยตัดเลี่ยนและเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับมื้อนั้นนะ ฉันพูดได้เลยว่ารู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ! และนอกจากฉันซึ่งทำหน้าที่ลูกค้าที่ดีด้วยการจ่ายเงินให้คุณป้าแม่ค้าทุกวันแล้วนั้น...ฉันยังได้รับภารกิจใหญ่หลวง นั่นคือ การปิ้งหมู และ คอยขายหมูปิ้งแทนคุณป้าอีกด้วย!?! หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะมึนงงและสงสัย ว่าฉันไปทำหน้าที่ตรงส่วนนั้นได้อย่างไร ฉันอยากจะบอกว่า ไม่เพียงแต่คุณเท่านั้นที่สงสัย ฉันก็สงสัยเหมือนคุณนั่นแหละ แรกเริ่มเดิมที ฉันก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่รอเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและเข็มนาฬิกาที่บ่งบอกว่านี่คือเวลา 6 นาฬิกา หรือเป็นเวลาที่คุณป้าคนหนึ่งมาเปิดร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง แต่เมื่อเริ่มนานวันเข้า จาก 1 วัน กลายเป็น 1 สัปดาห์ เปลี่ยนเป็น 1 เดือน และเวลาก็ล่วงเลยมาเรื่อย ๆ ความช่างพูดช่างเจรจาของเด็กคนนี้ก็ทำให้เกิดความสนิทสนมกับคุณป้ามากขึ้นทุกวัน ทุกวัน หลังจากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งจากร้านคุณป้ามาหลายเดือน ก็ได้รับรู้ว่า ราคาหมูปิ้งไม้ละ 5 บาท ที่ฉันกินมันทุกวันนั้น แทบจะไม่สร้างกำไรให้คุณป้าผู้ใจดีคนนี้เลย วันไหนที่ขายหมดก็ดีไป แต่วันใดที่ฝนตก หรือ ออกมาขายช้า หมูปิ้งพวกนี้ก็จะเหลือกลับไปทุกครั้ง แต่โรคของคุณป้าที่รุมเร้าอยู่ทุกวันนั้น คอยกัดกินกำลังเรื่อย ๆ จนเริ่มถดถอยลงไปช้า ๆ ทำให้บางครั้งคุณป้าไม่มีกำลังมากพอ และฉันซึ่งยืนกินหมูปิ้งมาตลอดนั้นก็ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้นั่นเอง ด้วยความเป็นคนขี้สงสารหรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้ฉันคอยช่วยคุณป้าทีละนิดๆ ทุกวัน และกว่าจะรู้ตัว สิ่งนี้ก็เป็นกิจวัตรประจำวันของฉันไปเสียแล้ว... หากคุณสงสัยว่าหมูปิ้งที่ขายไม่หมดนี้คุณป้าทำอย่างไรกับมัน ฉันขอเฉลยด้วยภาพด้านล่างนี้แล้วกัน เป็นเรื่องปกติสำหรับร้านขายอาหารที่ยั่วน้ำลายขนาดนี้ซึ่งจะมีน้องหมามาวนเวียนอยู่โดยรอบ ร้านของคุณป้าก็เช่นกัน ไม่ว่าหมูปิ้งนั้นจะเหลือหรือไม่ก็ตาม คุณป้าก็จะคอยโยนหมูปิ้งให้เจ้าสี่ขาพวกนี้อยู่เสมอ มีครั้งหนึ่งฉันเห็นคุณป้าดุเจ้าพวกสี่ขาที่คอยจ้องจะขโมยหมูปิ้งบนเตาย่างที่แสนจะยั่วยวนตาเป็นมัน แต่เมื่อฉันเผลอไปแป๊บเดียว หันมาอีกที ฉันก็เห็นคุณป้าหยิบหมูปิ้งที่แสนยั่วน้ำลายไม้นั้นให้เจ้าที่ขาไปซะแล้ว...นี่แหละหนา คุณป้าถึงจะปากร้ายขนาดไหนก็ตาม แต่ก็ยังมิวายช่วยเหลือเจ้าสี่ขาพวกนี้อยู่เนือง ๆ และนี่คือโฉมหน้าของคุณป้าที่ฉันคิดถึงเสมอเวลาเจอร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ในวันที่ฉันย้ายออกจากหอเนื่องจากได้สำเร็จการศึกษาแล้วนั้น ฉันเสียใจที่ยังไม่มีโอกาสได้ล่ำลากับคุณป้าเลย ในตอนนั้นคุณป้าขายข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่ที่ซอยลาดกระบัง 50/2 ในตอนเช้า ซึ่งฉันไม่รู้ว่าในปัจจุบันคุณป้ายังคงขายอยู่หรือไม่ แต่หนูยังคิดถึงคุณป้าเสมอนะคะ :) ปล. ก่อนบทความนี้จะจบลง ฉันอยากฝากเรื่องหนึ่งสำหรับทุกคน ฉันอยากฝากให้ทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะคะ ไม่ใช่เพียงแค่ภาพลักษณ์ที่ถูกมองเข้ามาหรอก แต่ยังรวมไปถึงเรื่องของสุขอนามัยของทุกคนในบริเวณนั้นด้วยนะ ด้วยรักและห่วงใย...