วิธีเลือกมะเขือเปราะ แบบไหนอร่อย สดใหม่ และน่าซื้อ | บทความโดย Pchalisa การเลือกมะเขือเปราะสดใหม่นั้นสำคัญมากพอๆ กับเลือกผักสดและใหม่ชนิดอื่นค่ะ เพราะความสดใหม่จะส่งผลต่อรสชาติ โดยจากที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเลือกมะเขือเปราะมาประจำนั้น จึงได้รู้มาว่า มะเขือเปราะมีเคล็ดลับเฉพาะในการดูค่ะ ที่ผู้เขียนได้นำมาบอกต่อแล้วในบทความนี้ ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น งั้นเรามาอ่านต่อไปพร้อมๆ กันดีกว่าค่ะ กับวิธีเลือกมะเขือเปราะดีๆ ด้วย 10 วิธีง่ายๆ ดังนี้ 1. สังเกตสีผิว มะเขือเปราะที่ดีจะมีผิวสีเขียวเข้มสดใส ไม่มีรอยช้ำ รอยด่าง หรือจุดสีเหลือง สีเขียวเข้มสดใส เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามะเขือเปราะมีความสดใหม่ ผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องค่ะ โดยที่มะเขือเปราะที่เริ่มแก่หรือเก็บไว้นานเกินไป จะมีสีผิวที่ซีดลง หรือมีจุดสีเหลืองปรากฏ ซึ่งบ่งบอกว่าคุณภาพไม่ดีและจะมีรสชาติอาจไม่อร่อยเท่าที่ควรนะคะ ซึ่งสีผิวที่สดใสเป็นตัวบ่งชี้ที่ง่ายที่สุดในการประเมินความสดใหม่ของมะเขือเปราะค่ะ ดังนั้นการสังเกตสีผิวจะช่วยให้คุณเลือกซื้อมะเขือเปราะที่สดใหม่และมีคุณภาพได้ 2. สังเกตใบ ในบางครั้งมะเขือเปราะที่เราไปซื้ออาจมีใบติดมาด้วย ซึ่งใบมะเขือเปราะสามารถบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสดใหม่และสุขภาพของตัวมะเขือเปราะได้เป็นอย่างดีค่ะ การสังเกตใบก่อนตัดสินใจซื้อจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้การสังเกตสีผิวหรือขั้ว โดยใบมะเขือเปราะที่สดใหม่จะมีสีเขียวเข้มสดใส ไม่มีรอยเหลืองหรือจุดด่าง ใบควรมีความเรียบเนียน ไม่มีรอยยับหรือรอยฉีกขาด ใบควรมีความแข็งแรง ไม่เหี่ยว และใบไม่ควรมีร่องรอยของแมลงกัดกินหรือไข่แมลงค่ะ 3. ดูขั้ว ขั้วมะเขือเปราะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผลกับต้น เมื่อขั้วยังสดและแข็งแรง ก็แสดงให้เห็นว่ามะเขือเปราะยังคงความสดใหม่และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี การสังเกตขั้วจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณผู้อ่านเลือกซื้อมะเขือเปราะได้อย่างมั่นใจค่ะ โดยขั้วที่ยังคงสีเขียวเข้มสดใส บ่งบอกว่ามะเขือเปราะเพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังไม่เหี่ยวเฉา ให้เลือกมะเขือเปราะที่มีขั้วที่ไม่เหี่ยวจะแข็งแรงและติดแน่นกับตัวมะเขือค่ะ ขั้วที่ติดแน่นกับตัวมะเขือเปราะแสดงว่ามะเขือเปราะยังคงความสดใหม่ และไม่หลุดร่วงง่าย ที่ขั้วไม่ควรมีรอยช้ำ รอยขีดข่วน หรือรอยแตก และ 4. เลือกมะเขือที่มีความแน่น การดูความแข็งของมะเขือเปราะเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการประเมินความสดใหม่ของมะเขือเปราะค่ะ เนื้อมะเขือเปราะที่แน่นและแข็งแสดงให้เห็นว่ามะเขือเปราะยังคงความสดใหม่และมีน้ำหนักอยู่ภายใน โดยเมื่อบีบเบาๆ ที่ตัวมะเขือเปราะ จะรู้สึกถึงความแน่น ไม่นิ่มยวบ เมื่อกดลงไปที่ผิวมะเขือเปราะ รอยบุ๋มจะหายไปอย่างรวดเร็ว และผิวกลับมาเรียบตึงเหมือนเดิม ที่ไม่ควรรู้สึกถึงความนิ่มหรือมีน้ำซึมออกมา ซึ่งมะเขือเปราะที่เก็บไว้นานหรือเริ่มเน่าเสีย จะมีเนื้อที่นิ่มยวบเมื่อกด แต่มะเขือเปราะที่สดใหม่จะมีปริมาณน้ำภายในสูง ทำให้เนื้อมีความแน่น 5. สังเกตขนาด มะเขือเปราะที่เล็กเกินไปมักจะมีเมล็ดน้อย เนื้ออาจแข็ง และไม่ค่อยมีรสชาติ มะเขือเปราะขนาดใหญ่จะมีเมล็ดเยอะกว่ามะเขือเปราะขนาดเล็ก ที่โดยทั่วไปแล้วมะเขือเปราะขนาดกลางจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีทั้งเนื้อแน่น หวาน และเมล็ดไม่เยอะค่ะ 6. ดมกลิ่น กลิ่นเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการประเมินคุณภาพของมะเขือเปราะ กลิ่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของมะเขือเปราะค่ะ มะเขือเปราะที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากมะเขือเปราะที่เริ่มเน่าเสียหรือเก็บไว้นานเกินไป มะเขือเปราะที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง มะเขือเปราะที่เริ่มเน่าเสียจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือมีกลิ่นเหม็นอับ โดยให้ดมใกล้ๆ กับขั้วมะเขือเปราะ เพื่อรับรู้กลิ่นได้ชัดเจนขึ้นค่ะ 7. ดูน้ำหนัก น้ำหนักของมะเขือเปราะเป็นตัวบ่งบอกถึงปริมาณน้ำภายในผล ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับความสดใหม่และคุณภาพของมะเขือเปราะค่ะ มะเขือเปราะที่สดใหม่จะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับขนาดของผล โดยในขณะที่ถือมะเขือเปราะขึ้นมา จะรู้สึกว่ามีน้ำหนักค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับขนาดของผล เมื่อเขย่าเบาๆ จะไม่รู้สึกถึงความว่างเปล่าภายใน เพราะมะเขือเปราะที่สดใหม่จะไม่เบาจนเกินไปค่ะ ซึ่งมะเขือเปราะที่น้ำหนักดีจะมีเนื้อแน่น หวาน และอร่อยนะคะ ทั้งนี้การสังเกตน้ำหนักจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเลือกซื้อมะเขือเปราะที่เหี่ยวแห้งหรือเน่าเสียค่ะ 8. หลีกเลี่ยงมะเขือเปราะที่มีรอยแผล รอยแผลบนผิวมะเขือเปราะเปรียบเสมือนประตูเปิดให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าไปทำลายเนื้อในได้ง่าย ทำให้มะเขือเปราะเน่าเสียเร็วขึ้น และอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ และรอยแผลทำให้มะเขือเปราะสูญเสียน้ำ ทำให้เนื้อแห้งและแข็ง รวมไปถึงมะเขือเปราะที่มีรอยแผลจะมีรสชาติเปลี่ยนไป อาจจะไม่อร่อยเท่าที่ควรอีกด้วย การเลือกซื้อมะเขือเปราะที่ไม่มีรอยแผลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้มะเขือเปราะที่มีคุณภาพดี สดใหม่ ซึ่งการสังเกตผิวมะเขือเปราะอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณผู้อ่านเลือกซื้อมะเขือเปราะได้อย่างถูกต้องค่ะ 9. เลือกมะเขือเปราะที่ปลอดสารเคมี หากเป็นไปได้ให้เลือกซื้อมะเขือเปราะที่ปลูกแบบปลอดสารเคมี เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ เพราะมะเขือเปราะที่ปลูกแบบปลอดสารเคมีจะไม่มีสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยลักษณะภายนอกที่สามารถสังเกตได้ คือ มะเขือเปราะปลอดสารเคมีอาจมีรูปร่างไม่สมบูรณ์เท่ามะเขือเปราะที่ใช้สารเคมี เนื่องจากไม่ได้ใช้สารเคมีเร่งการเจริญเติบโต สีสันอาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และสภาพแวดล้อมในการปลูก และผิวสัมผัสอาจไม่เรียบเนียนเท่ามะเขือเปราะที่ใช้สารเคมีค่ะ 10. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อมะเขือเปราะจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ นอกจากจะช่วยให้เราได้มะเขือเปราะที่สดใหม่และปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย ดังนั้นให้เลือกซื้อมะเขือเปราะจากตลาดสด ร้านค้าที่ได้มาตรฐาน หรือจากเกษตรกรโดยตรง ก็เพื่อความมั่นใจในคุณภาพค่ะ เพราะแหล่งที่น่าเชื่อถือมักมีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ที่จะทำให้เราได้มะเขือเปราะที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่ๆ จะมีรสชาติอร่อยค่ะ จบแล้วนะคะ ซึ่งเคล็ดลับทั้ง 10 ข้อข้างต้นนั้นคือแนวทางที่ไม่ได้ยากจนเกินไปใช่ไหมคะ? และถ้าอยากได้มะเขือเปราะสดใหม่ น่าซื้อกลับมาทำอาหาร ให้ปรับใช้หลายแนวทางในคราวเดียวกันค่ะ เพราะการปรับข้อมูลแบบนี้ผู้เขียนปรับใช้ประจำ โดยมักเลือกซื้อมะเขือเปราะจากคนในพื้นที่ปลุกได้และนำมาขาย จากนั้นจะเลือกมะเขือเปราะขนาดพอดีๆ ที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปค่ะ จากนั้นจะดูเรื่องสีและผิวขอมะเขือค่ะ โดยที่การดมกลิ่นสามารถทำได้แค่บางครั้งเท่านั้น และจากที่ได้เลือกมะเขือเปราะมาตลอดก็พึงพอใจค่ะ เพราะได้มะเขือเปราะคุณภาพดีมาประจำ โดยตลาดสดใกล้บ้านคือแหล่งที่ผู้เขียนไว้ใจที่จะเลือกซื้อมะเขือเปราะค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/RJ0XA5RXkGVJ https://food.trueid.net/detail/NkG8X8MnnMqQ https://food.trueid.net/detail/18p9oxa4VlLW เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !