"ทัศนาด้วยสายตา รับฟังด้วยเสียง และเพลิดเพลินไปกับความสนุกกลมกล่อมที่มีมากกว่าแค่รายการทำอาหาร" ผ่านมาแล้วหลายซีซั่นสำหรับรายการโชว์ทำอาหารจากเหล่าคนรักการทำอาหารทั่วสารทิศในประเทศไทย ในครัวแห่งการแข่งขันนี้มีผู้ที่มีใจรักในการทำอาหารหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยน ตบเท้ากันเข้ามาประชันฝีมือ ช่วงชิงตำแหน่งมาสเตอร์เชฟประเทศไทยมาแล้วหลายต่อหลายซีซั่น เพราะเป็นพื้นที่สำคัญที่จะให้โอกาส Home Cook จำนวนมากได้เข้ามาพิสูจน์ฝีมือ ความสามารถและสานฝันของตัวเองให้เป็นจริง แต่ถึงอย่างนั้นแล้วการแข่งขันในรายการก็เต็มไปด้วยบททดสอบที่ท้าทายฝีมือเป็นอย่างมาก ในแต่ละซีซั่นเองก็มีรูปแบบโจทย์ใหม่ๆที่ทวีความยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารไทยโบราณในรายการ MasterChef ประเทศไทยแล้วก็ถือว่าเป็นโจทย์หินและโหดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารไทยโบราณรสชาติแบบดั้งเดิมเป็นอะไรที่ต้องใช้ความละเอียดและพิถีพิถันในการทำเป็นอย่างมาก เหล่านี้จะเป็นบททดสอบทักษะในการทำงานของผู้เข้าแข่งขันได้เป็นอย่างดี วันนี้เราเลยขอพาทุกคนย้อนไปดูเมนูอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากจากรายการ MasterChef Thailand มาฝากกันค่ะ ตามไปดูกันเลย!(1). ฉู่ฉี่ลูกรอก (EP.10 --- MasterChef Thailand Season 2)อาหารไทยโบราณชนิดหนึ่งที่ทำจากไข่ นำไปใส่ไส้ ต้มจนสุก แล้วนำมาหั่นเป็นแว่นๆ อีกหนึ่งโจทย์ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องทำเมนูนี้ออกมาให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยลูกรอกที่ดีจะต้องมีลักษณะที่สวยได้รูป มีความสวยงาม ที่สำคัญจะต้องไม่มีกลิ่นคาวของไส้เป็นเด็ดขาด ในขณะที่เครื่องแกงฉู่ฉี่เองก็จะต้องมีรสชาติตรงตามต้นฉบับให้ได้มากที่สุดนอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขอีกประการคือ กรรมการไม่อนุญาตให้ใช้น้ำมันในการผัด ซึ่งหมายความว่าผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้วิธีการแบบโบราณดั้งเดิมคือเคี่ยวกะทิให้แตกมันเอง และแน่นอนว่าไม่ได้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนผ่านโจทย์นี้ไปได้อย่างง่ายดาย หลายคนเจอปัญหาการใช้ไส้ผิดด้าน รวมไปถึงปัญหาเรื่องเครื่องแกง บอกเลยว่าไม่มีความง่ายเลยจริงๆโดยส่วนตัวจากใจคนที่มีโอกาสได้ลิ้มลองลูกรอกมาแล้วบอกเลยว่ามันก็มีความอร่อยเลิศอยู่นะคะ รสสัมผัสของมันจะมีความหนึบๆ เนื้อไข่แน่นเด้งคล้ายกับเต้าหู้ไข่ แต่กรรมวิธีการทำนั้นก็ใช่ว่าจะง่ายซะทีเดียว ยิ่งต้องทำตามโจทย์ที่มีความละเอียดทุกขั้นตอน บอกเลยว่างานนี้ยากมากจริงๆ และนี่ขนาดยังไม่นับรวมองค์กระกอบอย่างเครื่องแกงฉู่ฉี่ที่ต้องทำด้วยอีก บอกเลยว่าเป็นโจทย์ที่หินมากจริงๆค่ะ(2.) ชุดเครื่องว่างไทย 4 อย่าง (EP.15 --- MasterChef Thailand Season 3)การปรากฎขึ้นของเมนูอาหารไทยโบราณอย่างชุดเครื่องว่างไทย 4 อย่างนี้เกิดขึ้นใน EP.15 ซึ่งเป็นโจทย์สุดท้ายของการแข่งขัน ในรอบ Semi Final ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากที่สุด เนื่องจากต้องใช้ความละเอียดและความความประณีตในการทำสูง นั่นก็เพื่อคัดคนที่จะเข้าไปแข่งขันในรอบ Final นั่นเอง โดยชุดเครื่องว่างไทยนี้ประกอบไปด้วย กระทงทอง ช่อม่วง หมูโสร่ง และล่าเตียง เมนูเหล่านี้เป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมการรับประทานของว่างยามบ่ายรองท้องก่อนรับประทานอาหารเย็น งานนี้ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้ความประณีตและแม่นยำในการทำเป็นอย่างมาก เพราะของว่างทั้ง 4 อย่างมีรสชาติไส้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยคุณสมบัติของเมนูชุดเครื่องว่างไทยทั้ง 4 อย่างที่กรรมการต้องการคือกระทงทอง --- ต้องทอดกระทงทองให้ก้นกระทงตั้งได้ มีความบางกรอบ มีสีเหลืองทองสวย ไส้ในมีรสชาติเค็มนำ ปนหวานของน้ำตาลทรายช่อม่วง --- รูปร่างต้องสวยงาม ไส้ข้างในมีรสชาติเค็มนำ ตามด้วยรสหวานจากน้ำตาลปี๊บหมูโสร่ง --- ไส้ข้างในมีรสชาติเค็ม หอมกลิ่นรากผักชี กระเทียม พริกไทย เวลาพันโสร่งต้องทำให้เป็นดอกจันทร์ทั้งหัวและท้าย โดยเส้นหมี่ซั่วจะต้องไม่ดีดตัวออกมาเป็นอันขาดล่าเตียง --- ตัวไข่ที่สานเป็นร่างแหจะต้องไม่แตก ไส้ข้างในจะต้องมีรสเค็มและหวานเสมอกันเจอแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็ต้องช็อกตามๆกันแน่นอน บอกเลยว่าโจทย์นี้ยากมาก ทำให้ใน EP.นี้เป๋าเป้ หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรอบนี้พลาดโอกาสที่จะเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย ในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้วขอมอบคะแนนความยากชุดเครื่องว่างทั้ง 4 อย่างนี้อยู่ที่ 9.5 / 10 คะแนนเลยค่ะ เพราะแค่หนึ่งอย่างก็ว่ายากแล้ว แต่นี่เจอไปถึง 4 อย่างบอกตรงนี้เลยว่ายากมากจริงๆโดยส่วนตัวหลังจากที่เคยได้รับชม EP.นี้ไป ผู้เขียนเข้าลุกขึ้นครัวไปทำเมนูหมูโสร่งทานกันเลยทีเดียว สำหรับเมนูอื่นเห็นทีจะไม่น่ารอดค่ะ เพราะงานนี้นอกจากจะต้องใช้ฝีมือในการทำแล้วก็ต้องมีความละเอียดและแม่นยำเพื่อให้ออกมาสวยงามอีกด้วย ไม่เซียนจริงๆผ่านด่านทดสอบนี้ไปไม่ได้แน่ๆค่ะ(3.) ขนมเบื้องญวนสูตรโบราณ (EP.2 --- MasterChef All Stars Thailand)อีกหนึ่งขนมไทยโบราณที่สร้างความท้าทายอยู่ไม่น้อย อีกทั้งโจทย์นี้เคยใช้แข่งขันในรายการมาแล้ว ขั้นตอนในการทำแต่ละส่วนประกอบนั้นต้องใช้ความละเอียดและแม่นยำในการทำมากพอสมควร ยิ่งเป็นโจทย์ที่ต้องตอบโจทย์ความเป็นขนมเบื้องญวนสูตรดั้งเดิมด้วยแล้ว ตัวแป้งจะต้องบางกรอบ (ใช้ช้อนตักก็คือต้องได้ยินเสียงความกรอบกระแทกโสตประสาทกันเลยทีเดียว) ไส้ข้างในใช้กุ้งแม่น้ำ ซึ่งจะต้องแห้ง ไม่แฉะ ไม่มีความกระด้าง สีของไส้เป็นสีธรรมชาติของมันกุ้ง มีรสชาติเค็มอมหวาน และปิดท้ายด้วยเครื่องเคียงอย่างน้ำอาจาดที่ต้องมีรสชาติครบ 3 รสคือ เปรี้ยว หวาน และเค็มโดยไม่ให้เหลือกลิ่นของน้ำส้มสายชู แต่ความยากของโจทย์จะยากแค่ไหนก็ต้องยอมให้กับเวลาที่ใช้ในการทำเพียง 35 นาทีเท่านั้น!! แถมใน MasterChef All Stars นี้ทำให้เกิดช็อตเด็ดสำคัญที่หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันตัดสินใจถอดผ้ากันเปื้อนออกจากรายการไปนั่นเองโดยส่วนตัวขอรับสารภาพเลยว่าขนมเบื้องญวนนี้เป็นหนึงในเมนูอาหารไทยโบราณที่อยากรับประทานมากๆ จำได้ว่าช่วงนั้นแอบหาข้อมูลจะไปซื้อทานแถวตลาดพลูด้วย (มีความพยายามสูงมากค่ะ!!) โจทย์นี้ครองความยากทั้งตัวไส้ข้างในและแป้งที่มีความกรุบกรอบ อีกหนึ่งเมนูที่อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสได้สัมผัสรสชาติกันค่ะ(4.) กะปิคั่วปลาช่อนฟู (EP.15 --- MasterChef All Stars Thailand)เมนูอาหารไทยโบราณ ประเภทเครื่องจิ้มจากรอบการทดสอบความละเอียดและแม่นยำหรือ Pressure Test เป็นอีกโจทย์ที่ใช้ทดสอบผู้เข้าแข่งขันเพื่อเข้าสู่รอบ Final เอกลักษณ์ของเมนูนี้มีรสชาติเข้มข้นของกะปิ และสมุนไพรที่นำมาเคี่ยวจนมีกลิ่นหอม เมื่อรับประทานแล้วจะเข้ากันดีกับความกรอบอร่อยของปลาช่อนฟู เป็นอีกโจทย์ปราบเซียนเลยทีเดียว นอกจากความยากของตัวกะปิคั่วแล้ว ความยากกว่าก็ยกให้ตัวปลาช่อนฟูนี่ล่ะค่ะ เพราะผู้เข้าแข่งขันต้องทำปลาช่อนฟูให้มีความกรอบฟู เนื้อปลาช่อนต้องเกาะกันเป็นรูปทรงกระบอกและมีสีเหลืองทองนอกจากนี้ต้องทำให้มีขนาดความยาว 3 นิ้ว และมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 1.5 นิ้วครึ่ง ในขณะที่เนื้อสัมผัสของกะปิคั่วต้องละเอียดเสมอกัน กะทิต้องแตกมันแต่ก็ต้องไม่เหลวจนเกินไปและที่สำคัญมากที่สุดคือจะต้องมีรสชาติตามต้นฉบับ เพราะงานนี้กรรมการปรมาจารย์ด้านอาหารไทยโบราณอย่างหม่อมหลวงขวัญทิพย์ยังแอบใส่วัตถุดิบลับบางอย่างลงไป นั่นก็คือ มะอึก โดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่เหลือจะต้องแกะสูตรนี้ด้วยตัวเอง ยากไม่ไหวค่ะทุกคน โดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้วขอมอบคะแนนความยากของเมนูนี้ 9.5/10 ค่ะ แถมยังแอบลุ้นใจหายใจคว่ำไปกับผู้เข้าแข่งขันทุกคนด้วยว่าจะผ่านโจทย์นี้ไปได้หรือไม่ ถ้าโอกาสก็แอบอยากลองทำรับประทานดูนะคะ แต่เห็นจากความยากแล้วคงต้องขอเวลาเตรียมตัวและเตรียมใจในการทำไปยาวๆเลยค่ะ(5.) ยำทวาย (EP.13 --- MasterChef Thailand Season 4)ใครไม่วาย ยำทวายแน่นอนค่ะงานนี้ อีกหนึ่งโจทย์ที่สร้างความท้าทายให้กับผู้เข้าแข่งขันไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะงานนี้ได้เชฟระดับตำนานอย่าง เชฟป้อม (หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล) มาสาธิตขั้นตอนการทำอย่างละเอียดใน EP. ที่มีการ Battle ร่วมกันของเชฟป้อมและเชฟเอียน (พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย) ซึ่งเมนูยำทวายนี้เป็นอาหารไทยโบราณที่นิยมรับประทานกันตั้งแต่ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ หาทานได้ยากในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมรับประทานกันในหน้าหนาว มีองค์ประกอบในจานเป็นผักนานาชนิด โดยผู้เข้าแข่งขันต้องทำเมนูนี้ให้ตรงตามโจทย์ทั้งรสชาติและหน้าตาของจานอาหารเป็นอีกหนึ่งโจทย์หินที่วัดความเซียนในเรื่องของการจัดการเรื่องเวลาและความละเมียดละไมในการทำอาหารไทยโบราณได้เป็นอย่างดี เกณฑ์สำคัญคือต้องใส่ในในเรื่องขององค์ประกอบในผักทั้ง 6 อย่าง โดยต้องหั่นให้ละเอียดกันอย่างสม่ำเสมอ ตัวเครื่องแกงต้องขึ้นเงาสาวสวยงาม ไม่เหลว และไม่ใสจนเกินไป ให้ออกเป็นจานอาหารที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ในทุกเมนูอาหารโบราณที่รวบรวมมาฝากผู้อ่านทุกคนนั้นนี่เป็นเมนูที่อยากลองทานมากที่สุดเลยค่ะ แต่ทว่าก็ยังไม่รู้จะไม่หารับประทานได้ที่ไหนเลยจริงๆ ด้วยองค์ประกอบของเมนูมีหลากหลายและต่างรสสัมผัสกัน หากได้ทานร่วมกันแล้วน่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สร้างความประทับใจให้ไม่น้อยเลยค่ะ(6.) หมี่กรอบทรงเครื่องสูตรดั้งเดิม (EP.3 --- MasterChef Celebrity Thailand Season 1)เมนูของว่างโบราณที่เห็นภาพแล้วชวนให้น้ำลายสอเป็นที่สุด แต่ถ้าทุกคนเคยลองทานเมนูหมี่กรอบที่มีสีชมพูแล้วล่ะก็งานนี้เราคือเพื่อนกันเลยค่ะ เพราะนี่คือเมนูหมี่กรอบสูตรโบราณดั้งเดิม ดังนั้นไม่ต้องถามถึงขั้นตอนการทำเลยค่ะ เพราะแน่นอนว่าจะต้องมีความละเอียดและพิถีพิถันสูงพอสมควร การปรากฎตัวของเมนูหมี่กรอบทรงเครื่องสูตรดั้งเดิมนี้อยู่ในการแข่งขัน MasterChef Celebrity โดยใช้เป็นบททดสอบความละเอียดและแม่นยำ เมนูหมี่กรอบทรงเครื่องนี้เป็นการผสมผสานอาหารระหว่างการทอดแบบจีนและรสชาติที่มีความเปรี้ยวหวานในแบบไทย ซึ่งโจทย์นี้กรรมการต้องการลักษณะของหมี่กรอบที่ตัวน้ำซอสที่ผัดจนแห้ง มีรสชาติเข้มข้นและไม่มีรสชาติความขมของน้ำส้มซ่า รวมไปถึงเส้นหมี่ต้องกรอบแต่ไม่พองฟู เมื่อนำไปคลุกกับน้ำปรุงรส เส้นหมี่จะต้องไม่เกาะตัวกันเป็นก้อน และสุดท้ายองค์ประกอบในจานอาหารจะต้องครบและเหมือนกับต้นฉบับสิ่งที่น่าประทับใจของเมนูนี้คือได้รับการนำมาเป็นโจทย์ในการแข่งขัน MasterChef Celebrity ศิลปิน นักแสดงส่วนใหญ่ที่ต้องทำโจทย์นี้ล้วนแต่ต้องตั้งใจดูการสาธิตและทำออกมาให้ได้เหมือนกับต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าทุกคนทำได้ดีเลยทีเดียวค่ะ เห็นทีว่างๆผู้เขียนอาจจะต้องลองเข้าครัวทำเมนูหมี่กรอบสูตรดั้งเดิมทานบ้างแล้วล่ะค่ะ(7.) กรวยทิพย์ (EP.8 --- MasterChef Celebrity Thailand Season 2)สำหรับเมนูกรวยทิพย์ เป็นเมนูที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดค่ะ เพราะสามารถดึงดูดให้เกิดความอยากรับประทานได้ทันทีที่เห็นเลยทีเดียว เพราะอยากลองทานเอามากๆ กรวยทิพย์ เป็นอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน หรือเรียกได้ว่าแทบจะสูญหายไปแล้วก็เป็นได้ เป็นเครื่องว่างไว้ใช้สำหรับเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เป็นชาวต่างชาติ เป็นอาหารไทยแนวผสมผสานที่ได้รับความนิยมในยุคก่อนเลยทีเดียว ซึ่งกรวยทิพย์ที่นำมาใช้ในการแข่งขันนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำกรวยทิพย์ 2 ไส้ อย่างละ 3 กรวย โดยคุณสมบัติของกรวยทิพย์ที่ตอบโจทย์คือ แห้งกรวยจะต้องกรอบและสุกเป็นสีทองเสมอกันทั้งชิ้น แป้งกรวยจะต้องมีความสูง 12 ซม.พอดี รวมไปถึงจะต้องทำอย่างประณีตพันม้วนเป็นเกลียวสวยงาม ขอบตรง ปลายกรวยจะต้องไม่มีรู นอกจากนี้แล้วไส้ข้างในจะต้องมีปริมาณพอดีไม่น้อยจนเกินไป เนื้อสัตว์และมันฝรั่งที่อยู่ในไส้ทั้งสองชนิดจะต้องสุกพอดี และมีรสชาติเหมือนต้นฉบับมากที่สุด การแข่งขันใน EP. นี้ส่งผลให้ผู้เข้าแข่งขันอย่าง เจมมี่เจมส์พลาดโอกาสเข้าไปชิงตำแหน่ง MasterChef Celebrity คนที่ 2 ของประเทศไทยไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งหลังจากได้ดูที่เชฟป้อมทำการสาธิตให้ดูแล้วนั้นบอกเลยว่าถ้าผู้เขียนเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันคงต้องตกรอบอย่างแน่นอน งานนี้งานยาก งานหินของแท้และทั้งหมดนี้ก็เป็นเมนูอาหารไทยโบราณจากรายการ MasterChef Thailand ที่เรารวบรวมนำมาฝากกัน แล้วคุณผู้อ่านทั้งหลายล่ะค่ะชื่นชอบเมนูอาหารไทยโบราณเมนูไหนกันบ้างคะ จะเห็นได้ว่าแต่ละจานอาหารนั้นเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีรสชาติที่มีสลับซับซ้อน รวมไปถึงต้องใช้ความพิถีพิถันสูงในการปรุงรส เป็นเสน่ห์แห่งความเป็นไทยที่ควรค่าแก่การสืบสานและอนุรักษ์ไว้ หลายๆเมนูหาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน ดังนั้นภายใต้รสชาติของจานอาหารไทยหน้าตาที่ดูวิจิตรสวยงาม ในทุกจานอาหารยังแฝงไปด้วยคุณค่า ภูมิปัญญา และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความภาคภูมิใจที่เชื่อได้ว่าไม่ว่าใครได้ลองชิมก็ต้องตรึงใจอย่างแน่นอน เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก : เพจเฟซบุ๊ก MasterChef Thailand - มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 ภาพประกอบที่ 1 - 7 : เพจเฟซบุ๊ก MasterChef Thailand - มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย : ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7 หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !